เคยกล่าวไปแล้วหลายครั้ง เกี่ยวกับแนวคิดการรักษาแบบแผนจีนกับแผนตะวันตก วันนี้จะขยายความลงรายละเอียด ถึงความแตกต่างของการมองปัญหา เหตุของการเกิดโรคของทั้งสองแผน
เหตุแห่งโรคของแผนปัจจุบัน : ความพยายาม ค้นหา “สิ่งที่ทำให้เกิดโรค”
ตำราการแพทย์ของแผนปัจจุบันให้ความสำคัญเกี่ยวกับรักษาโรคเป็นหลัก คนทั่วไปอ่านเข้าใจยาก เพราะจะเน้นหนักไปที่โรคต่างๆ มีสาเหตุจากอะไร ทำให้เกิดโรคได้อย่างไร มีกลไกการเกิดโรค การดำเนินของโรคอย่างไร ใช้ยาเคมีอะไรรักษา ยามีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไรหรือต้องใช้วิธีการอื่น เช่น การผ่าตัด กายภาพบำบัด เป็นต้น
ปรากฏว่าปัจจุบันมีโรคจำนวนมากที่มักจะตรวจหาสาเหตุหรือตัวก่อให้เกิดโรคไม่ได้ รู้แต่ว่ามีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง แต่ก็ไม่สามารถฟันธงลงไปได้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด สุดท้ายก็สรุปว่าไม่รู้สาเหตุ และให้การดูแลรักษาด้วยการควบคุมและแก้ไขอาการเฉพาะหน้าไป บางรายโชคดีอาจฟื้นตัวหายได้หรือบรรเทาไปได้ ผู้ป่วยอีกจำนวนมากก็ต้องให้ยาควบคุมอาการไปเรื่อยๆ
แนวคิดการหาสาเหตุ หรือค้นหาตัวทำให้เกิดโรคเป็นแนวคิดที่มาจากพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์แขนงต่างๆ โดยเฉพาะทางชีววิทยา พยาธิวิทยา ชีวโมเลกุล คือเมื่อมีการค้นพบกล้องจุลทรรศน์มองเห็นเซลล์เนื้อเยื่อ เห็นรายละเอียดของร่างกายสภาพปกติ และมองเห็นร่างกายภาวะไม่ปกติ (มีพยาธิสภาพ) มองเห็นตัวเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา สิ่งกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ เซลล์ผิดปกติสารก่อภูมิแพ้ในร่างกาย ความผิดปกติของยีน เป็นต้น
การรักษาของแผนปัจจุบัน จึงมุ่งเน้นทำลายตัวก่อโรค เช่น ติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อไวรัส ติดเชื้อรา จึงมีแนวทางการศึกษาวิจัยยาใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำลายหรือฆ่าแบคทีเรีย ไวรัสหรือเชื้อรา หรือทำลายเซลล์มะเร็ง กรณีของโรคติดต่อก็จะเพิ่มการควบคุมครบวงจรของตัวพาหะกับตัวก่อโรค ทำให้ขอบเขตวิเคราะห์ปัญหาและการแก้ไขอยู่ปริมณฑลที่กว้างขึ้น แต่ยังจำกัดอยู่กับสิ่งที่มองเห็นเป็นรูปธรรมคือ ตัวก่อโรค หรือตัวพาหะนำโรคที่เกี่ยวข้อง
สำหรับโรคติดเชื้อหรือโรคระบาด ที่มักหาสาเหตุได้ค่อนข้างชัดเจน เมื่อใช้แนวคิดนี้การรักษาโรคจึงได้ผลที่ดี
สำหรับโรคที่ไม่รู้สาเหตุที่แน่นอน เมื่อนำแนวคิดนี้ไปใช้ ก็เลยไม่รู้จะใช้ยาเคมีไปทำลายอะไร หรือควบคุมอะไร คงให้การรักษาไปตามอาการจึงไม่ประสบผลสำเร็จในการรักษาโรคเท่าที่ควร
เหตุแห่งโรคของแพทย์แผนจีน : ความพยายาม ค้นหา “เงื่อนไขของการเกิดโรค”
แพทย์แผนจีนให้ความสำคัญที่เงื่อนไขของการเกิดโรคมากกว่าพยายามค้นหาสาเหตุ หรือสิ่งที่ทำให้เกิดโรค ทั้งนี้ เนื่องจากการเกิดและพัฒนาองค์ความรู้ของแพทย์ จีนมีพื้นฐานต่างจากการแพทย์แผนปัจจุบัน
แพทย์แผนจีนถือกำเนิดในยุคที่วิทยาศาสตร์การแพทย์ยังไม่เจริญก้าวหน้า จึงไม่สามารถลงลึกและเข้าใจถึงพยาธิสภาพแบบแผนปัจจุบัน ไม่รู้จักสาเหตุหรือชื้อโรค หรือสิ่งที่ทำให้เกิดโรคที่สามารถมองเห็นได้ หรือค้นพบได้
การศึกษาจึงมุ่งเน้นไปยังเงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้คนมีสุขภาพ หรือมีสุขภาพไม่ดี (เกิดโรค) จึงมีแนวคิดที่กว้างครอบคลุมปัจจัยหรือเงื่อนไขแวดล้อมภาย นอกและภายในต่างๆ คือความสมดุลเป็นหนึ่งเดียวระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งคนทั่วไปที่ไม่ต้องเรียนทางการแพทย์ก็สามารถเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้ เป็นแนวการรักษาและการป้องกันโรคส่งเสริมและฟื้นฟูอยู่ในตัว
ทัศนะเกี่ยวกับเจิ้งชี่ กับเสียชี่
– เจิ้งชี่ ไม่พอ หรือพลังพื้นฐาน ร่างกายที่อ่อนแอ เป็นเงื่อนไขของร่างกายที่สำคัญที่สุดในการทำให้เกิดโรค
– เสียชี่ ที่แกร่งหรือสิ่งก่อโรคจากภายนอกที่มากและรุนแรง เป็นเงื่อนไขภายนอกที่ทำให้เกิดโรค การเกิดโรคหรือไม่เกิดโรค เป็นกระบวนการต่อสู้ของเสียชี่กับเจิ้งชี่ ถ้าร่างกายยังดำรงความ สมดุลอยู่ได้ ก็จะไม่เกิดโรค ถ้าเสียสมดุลบ้างแต่มีการปรับตัวได้บ้าง ก็จะเป็นๆ หายๆ ถ้าเสียสมดุลปรับตัวไม่ได้ก็จะเกิดโรค
คัมภีร์แพทย์จีนในการสร้างสมดุล เพื่อไม่ให้เกิดโรคหรือเมื่อเป็นโรคแล้ว ทำอย่างไรจึงจะหายได้เร็ว จึงมุ่งเน้นที่การสอนความรู้ การปฏิบัติตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายเจิ้งชี่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่สุดของการเกิดโรค (เงื่อนไขภายใน) ขณะเดียวกันก็พยายามหลีกเลี่ยงการกระทำของเสียชี่ที่เป็นเงื่อนไขภายนอกของการเกิดโรค
คัมภีร์ซู่เวิ่นยี่เพียนได้สรุปว่าเจิ้งชี่ยังดำรงอยู่ เสียชี่ไม่สามารถทำอะไรได้