ทำไม? เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ถ้าพูดถึงสาเหตุของความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แพทย์แผนจีน มีความเชื่อว่า สารจิงของไต เป็นส่วนสำคัญในการเก็บพลังชีวิต ซึ่งมีความหมายถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรม การควบคุม การให้พลังงานของระบบต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างปกติ

สารจิง (มีความหมายรวมถึงอสุจิด้วย) จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกใช้ไปอย่างพร่ำเพรื่อ ความเชื่ออันนี้นำไปสู่ความคิดในเรื่องการดูแลสุขภาพไม่ให้ไตเสื่อมเร็ว จะต้องถนอมไม่ให้มีการหลั่งอสุจิ ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งดี โดยที่แพทย์แผนปัจจุบันถือว่าไม่มีความจำเป็นต้องเก็บสามารถระบายขับออกตามที่ต้องการ เพราะจะระบายความเครียดในจิตใจได้ ร่างกายก็สร้างทดแทนได้อีก

ในขณะที่การแพทย์แผนจีนถือว่าในคนหนุ่มแน่น อาจจะระบาย หลั่งสารจิงได้ เพราะมีภาวะที่ไตยังดี และเป็นการลดภาวะที่แกร่งเกินไป แต่ถ้าเสียสารจิงไปบ่อยๆมากเกินไปจะกลายเป็นผลเสีย โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นหรือยิ่งสูงอายุ จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยง (แต่ไม่ได้ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ เพียงแต่ต้องถนอม) การหลั่งสารจิง ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมีสาเหตุสำคัญ คือ

1. การลดลงของไฟมิ่งเหมิน
การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการหลั่งสารจิง (น้ำอสุจิ) รวมถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองบ่อยครั้งเกินไปเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดการสูญเสียไฟของมิ่งเหมิน การทำงานของระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ การขับถ่าย การสืบพันธุ์ ล้วนอาศัย ไฟจากมิ่งเหมิน ถ้าสูญเสียไฟของมิ่งเหมิน ระบบการทำงานของร่างกายทั้งหมดจะลดลง ร่างกายจะเสื่อมถอยเร็วขึ้น และพลังของไตจะหมดไป

2. การเสื่อมถอยของหัวใจและระบบม้าม
ความเครียดกังวลและภาวะทางจิตใจมีผลต่ออวัยวะภายในหัวใจ ซึ่งในทัศนะของแพทย์แผนจีนจะหมายถึง ระบบประสาทส่วนกลางและสมองที่ควบคุมจิตอารมณ์ด้วย ความวิตกกังวลยังมีผลต่อระบบม้าม ระบบการย่อยอาหารและการดูดซึม ทำให้พลังงานที่ได้รับจากอาหารลดลง ผลคือ พร่องทั้งเลือดและพลัง

3. ความตกใจเกินไปทำลายพลังของไต
บางคนเคยมีภาวะการตกใจจากประสบการณ์ในอดีตที่รุนแรง อาจมีผลกระทบต่อไตโดยตรง ทำให้พลังไตถูกทำลายอย่างเฉียบพลัน เกิดความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศตามมา

4. ภาวะความร้อนชื้นในร่างกายมากเกินไป
ภาวะร้อนชื้น มีอาการขาหนักๆ เมื่อยๆ(เหมือนมีความชื้นในส่วนล่าง) ปัสสาวะมักมีสีเหลืองไปทางเข้ม(มีความร้อน) อึดอัดแน่นในท้อง ทรวงอก กินอาหารไม่ค่อยได้ มีความอับชื้นบริเวณอวัยวะเพศ กลิ่นเหม็น หมักหมมง่าย ผู้ป่วยมักมีลิ้นแดง(มีความร้อนในตัวมาก) มีฝ้าบนลิ้นสีเหลือง และมันเหนียว(มีความชื้นมากและมีความร้อนด้วย) การขาดพลังหยางของไตทำให้ไฟของมิ่งเหมินน้อยลง ระบบการทำงานของร่างกายลดลง ผลคือ เลือดและพลังพร่อง ทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ขณะเดียวกันก็ขาดพลังในการควบคุมการหลั่ง ทำให้มีการหลั่งโดยอวัยวะเพศไม่แข็งตัว และสารจิงค่อนข้างใส เนื่องจากร่างกายขาดพลังและเลือดไปเลี้ยงบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าซีด เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้หูอื้อ มีเสียงดัง เวียนศีรษะ ไฟมิ่งเหมินที่น้อย ทำให้ความร้อนไปเลี้ยงมือเท้าไม่ดี มือเท้าจึงเย็นผิดปกติ กลัวหนาว พลังหยางที่น้อย ทำให้เมื่อยล้าตามตัว เมื่อยเอว เข่าไม่มีแรง จะพบว่า ลิ้นซีดมีฝ้าขาว ชีพจรเร็วเบาเล็ก

การรักษา
ควรรักษาตามสาเหตุที่สำคัญ ได้แก่

1. ถ้าเป็นไตหยางพร่องต้องอุ่นไต กระตุ้นการสร้างสารจิง เสริมหยางของร่างกาย เสริมไฟ มิ่งเหมิน

2. ถ้าเป็นความร้อนชื้นสะสม จะต้องขับความร้อน ความเย็นบำรุงไต ควบคุมสารจิง

การปฏิบัติตัว

1. ไม่ควรเร่งการใช้ยากระตุ้นทางเพศ เพื่อหวังผลเฉพาะหน้า เพราะเป็นการเร่งการทำงานของต่อมลูกอัณฑะ ต่อมลูกหมาก ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การสูญเสียน้ำอสุจิยัง มีผลต่อภาวะอ่อนเพลียของร่างกาย จิตใจ สมอง และความอ่อนล้าของร่างกายทั้งระบบ ถ้าการสูญเสียที่มากเกินไปย่อมทำลายสุขภาพและทำลายสมรรถภาพทางเพศ

2. ข้อห้ามในการมีเพศสัมพันธ์ที่บันทึกไว้ใน “เซียนจินเย้าฝาง”

– ในภาวะเดินทางไกลมีความอ่อนเพลีย, ภาวะที่กินอาหารอิ่มใหม่ๆ, เมาสุรา, ดีใจมากเกินไป, เสียใจมากเกินไป, ขณะที่มีไข้ ตัวร้อน, สตรีขณะมีประจำเดือน ล้วนไม่ควรมีเพศสัมพันธ์

– ถ้ามีเพศสัมพันธ์ขณะที่ท้องอิ่มมากๆ จะทำลายเลือดและพลัง

– ถ้ามีเพศสัมพันธ์ขณะที่เมาเหล้าจะทำลายพลังหยางของตับ จะทำให้น้ำอสุจิน้อยลง, มีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในสตรี ทำให้มีความต้องการทางเพศน้อยลง และจะมีเลือดเสียตกค้าง

3. หนังสือ “เซียนจินเย้าฝาง” ได้บอกถึงกฎเกณฑ์การถนอมสุขภาพ และการมีสมรรถภาพทางเพศที่ดี ยึดหลักว่า ต้องถนอมไต คนทั่วไปเมื่อเข้าวัย 45 ปี ถือว่าเข้าสู่การเริ่มต้นของความเสื่อมถอย เข้าสู่ความชราภาพ ทางแพทย์แผนจีนถือว่าวัยนี้ ชี่จิง (พลังและสารจิง) เริ่มน้อยลง พลังไตเริ่มเสื่อมถอย ในวัยนี้ยิ่งต้องระวังปัญหาเพศสัมพันธ์ เพราะมีความสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดีหรือความเสื่อมถอยที่รวดเร็ว

กฎเกณฑ์ คือ ห้ามการหลั่งน้ำอสุจิหรือหลั่งได้แต่พอเหมาะ

การบำรุงสมรรถภาพทางเพศ
เนื่องจากความเสื่อมสมรรถภาพมีหลายสาเหตุ อาจจะเกิดจากไตพร่อง ตับถูกอุดกั้น เลือดและพลังไม่พอจากภาวะม้ามพร่อง ความร้อนชื้นส่วนล่างของร่างกาย และพฤติกรรมที่มีการหลั่งสารจิงมากเกินไป ฯลฯ

สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากภาวะพร่องของไตเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนภาวะทางจิตใจ ระบบม้ามพบได้บ้าง ภาวะความร้อนชื้นพบได้น้อย รู้ได้อย่างไรว่าไตพร่องเป็นเหตุ

1. มีประวัติเพศสัมพันธ์มากเกินไป หรือประวัติการหลั่งสารจิง (น้ำอสุจิ) ไม่ว่าวิธีใดมากเกินไป

2. มีประวัติการเจ็บไข้ยาวนานเรื้อรัง

3. ร่วมกับมีการที่แสดงออกว่าไตพร่อง คือ ปวดเมื่อยเอว น้ำอสุจิน้อย อ่อนเปลี้ยทางร่างกายและจิตใจ ขี้ลืม ผมร่วง ในสตรีมีประจำเดือนผิดปกติ ความต้องการทางเพศลดลง ถ้ามีภาวะไตหยางพร่องมากจะพบ มีอาการกลัวความเย็น มือเท้าเย็น กินอาหารน้อยลง ความรู้สึกของการรับรสชาติอาหารจะจืด ไม่กระหายน้ำ ปัสสาวะใส กลางคืนจะปัสสาวะบ่อย

4. คลำชีพจรตำแหน่งไต จะพบว่าอ่อนแรง ตัวลิ้นมีลักษณะโตนุ่ม

การบำรุงสมรรถภาพทางเพศ ต้องดูสาเหตุเป็นหลัก และบำรุงให้ถูกกับสภาพร่างกาย ที่สำคัญต้องเน้นการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง และถนอมไตอย่าให้พร่อง จะเห็นว่า ทัศนะการแพทย์แผนจีนมองเรื่องสมรรถภาพทางเพศเกี่ยวข้องกับสุขภาพองค์รวม เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่มีกฎเกณฑ์เป็นธรรมชาติ โดยยึดหลักจะต้องถนอมสารจิงไว้ ไม่ปล่อยสารจิงอย่างพร่ำเพรื่อ การเก็บสารจิงในตัวไว้ได้นาน นอกจากจะไม่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรงมีชีวิตชีวา มีสมรรถภาพทางเพศที่ดีด้วย ขณะเดียวกันต้องรักษาปัญหาสุขภาพร่วมไปด้วย ทัศนะนี้ต่างจากความคิดของการแพทย์ตะวันตกที่มองเรื่องของเพศในเชิงบริโภคนิยม แสวงหาความสุขโดยมองแต่ผลเฉพาะหน้าที่ได้ เร่งการทำงานของระบบเพศด้วยยาหรือสิ่งกระตุ้น โดยไม่พิจารณาสุขภาพองค์รวม และไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม ในที่สุดเมื่อสภาพร่างกายเสื่อมทรุด การกระตุ้นม้าที่อ่อนเพลียเต็มที่แล้วก็จะเกิดผลเสียและอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้

ปรัชญาการแพทย์จีนเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ ดูเหมือนจะขัดกับความรู้สึกสามัญสำนึกของคนทั่วไป แต่เป็นวิธีการถนอมสุขภาพและรักษาสมรรถภาพทางเพศที่ดี โดยเป็นธรรมชาติและสิ้นเปลืองน้อยที่สุด ทัศนะการเชื่อมโยงดูแลสุขภาพองค์รวมกับเรื่องของเพศ จึงขัดกับทัศนะการบริโภคนิยมที่หวังการมีความสุขเฉพาะหน้า แต่สร้างปัญหาระยะยาว การบริโภคยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ ไม่ว่ายาสมุนไพรหรือยาสังเคราะห์ จึงต้องพิจารณารักษาสภาพร่างกายร่วมด้วย ขณะเดียวกันจะต้องไปปรับเปลี่ยนทัศนะและการปฏิบัติตัวเกี่ยวกับเรื่องเพศให้เหมาะสม จึงจะสร้างความสุขที่ถาวรยั่งยืน

อาหารที่มีสรรพคุณบำรุงไตในทัศนะจีน

อาหารบำรุงไต
คัมภีร์ เสิ่นหนงเปิ่นเฉ่าจิง” ได้บรรยายสรรพคุณของยาบำรุงไตว่า  “จะเพิ่มบำรุงให้ไตแข็งแรง เพิ่มสารจิง เสริมการทำงานของหยาง ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ”

อาหาร   
– อาหารจากพืชผักต่างๆ  ได้แก่  ลูกพุทราจีน เมล็ดงา น้ำผึ้ง องุ่น ลูกบัว เนื้อในของเมล็ดท้อ ถั่วลิสง ขิง หัวหอม กุยช่าย
– อาหารจากสัตว์ต่างๆ  ได้แก่ กุ้ง ปลิงทะเล ม้าน้ำ เนื้อแพะ เนื้อกวาง เขากวางอ่อน

สมุนไพร   ได้แก่  

  • (ปา จี่ เทียน)
  • (ทู่ ซือ จื่อ)
  • (ตู้ จ้ง)
  • (ยิ่น หยาง ฮว่า)
  • (บู่ กู๋ จื่อ) 
  • (ตง ฉง เซี้ย เฉ่า) ฯลฯ

หมายเหตุ

– อาหารสมุนไพรส่วนใหญ่จะมีความอุดมของวิตามินแร่ธาตุ เช่น สังกะสี แมงกานีส เหล็ก ไขมัน ฯลฯ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของสารจิง
– ยาสมุนไพรมักมีคุณสมบัติร้อน บำรุงช่วงล่างของร่างกาย เพิ่มการทำงานและเพิ่มพลังความร้อนของระบบต่างๆ ของร่างกาย
– สัตว์ มักเป็นสัตว์ทะเล หรือสัตว์ที่มีคุณสมบัติหยาง
– การปรุงรสอาหารจะเน้นไปทางเค็ม เช่น เกลือ ร่วมกับรสเผ็ดร้อน เช่น ขิงและหัวหอม