เหตุผลที่ระบบการย่อยและการดูดซึมอาหารไม่มีระเบียบ ไร้กฎเกณฑ์ เกิดจากการกินอาหารจุบจิบ ตามอารมณ์ กินตามใจปาก เพราะฉะนั้น เพื่อให้ระบบต่างๆในร่างกายกลับมาสู่สมดุลอีกครั้ง เราไปดู5เทคนิคการกินอาหารเพื่อสุขภาพกัน
เทคนิคการกินอาหารเพื่อสุขภาพ
1. การกินข้าวต้มหรือโจ๊ก
เหมาะเป็นอาหารมื้อเช้าสำหรับคนที่มีระบบการย่อยและดูดซึมไม่ค่อยดี
ช่วงตื่นนอนตอนเช้า ระบบการย่อยอาหารของเรา เพิ่งจะเริ่มทำงาน (หลังจากพักมาตลอดทั้งคืน) ให้ดื่มน้ำ หลังตื่นนอนทันที 1-2 แก้ว เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหาร พลังลมปราณที่ไหลผ่านเส้นลมปราณ กระเพาะอาหาร ม้าม สูงสุดในช่วง 07.00-09.00 น. และ 09.00 – 11.00 น. ตามลำดับ เราจึงควรกินอาหารเช้าที่มีลักษณะ ย่อยง่ายในช่วงเวลาดังกล่าว
2. กินเมื่อยังไม่รู้สึกหิว และหยุดเมื่อเริ่มอิ่ม
ไม่ควรปล่อยให้หิวจัดเกินไป เพราะจะทำลายพลังของกระเพาะอาหาร และไม่ควรกินอาหารอิ่มเกินไป เพราะจะทำลายสมรรถภาพการย่อยและการดูดซึม ทำให้อาหารตกค้างเป็นของเสีย ควรหยุดกินอาหารเมื่อมีความอิ่ม ร้อยละ 70-80
3. อาหารมื้อเช้าต้องดี มื้อเที่ยงต้องอิ่ม มื้อเย็นต้องน้อย
ปริมาณอาหารมื้อเช้า ร้อยละ 30-40 มื้อเที่ยง ร้อยละ 40-50 มื้อเย็น ร้อยละ 20-30
4. ควรกินอาหารตามมื้อหลัก ตามเวลา
อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า ไม่ควรกินอาหารว่างหรือกินจุบจิบ ไม่มีกฎเกณฑ์ กินตามอารมณ์ เพราะทำให้ระบบการย่อยและดูดซึมอาหารไม่มีระบบระเบียบ ไร้กฎเกณฑ์ เช่นเดียวกัน
5. ไม่กินอาหารที่มีรสชาติซ้ำซากเป็นเวลานาน
– รสเปรี้ยว วิ่งเส้นตับ ถ้ากินมากจะกระทบระบบย่อย และดูดซึมอาหาร โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร
– รสเผ็ด วิ่งเส้นปอด กระจาย กระตุ้นการไหลเวียน เลือด รสเผ็ดมากจะกระทบกระเทือนตับ ทำให้เส้นเอ็นหดตัว
– รสหวาน วิ่งเส้นม้าม เสริมร่างกาย ลดการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ แต่ทำให้สะสมความร้อนและชื้นในร่างกาย เกิดการตกค้างของอาหารและของเสียได้ง่าย
– รสเค็ม วิ่งเส้นลมปราณไต รสเค็มทำให้ก้อนนิ่ม ช่วยระบาย แก้ท้องผูก การกินเค็มมากเกินไปจะกระทบกระเทือนหัวใจ ทำให้หลอดเลือดหดตัว ความดันสูง
– รสขม วิ่งเส้นลมปราณหัวใจ มีสรรพคุณขจัดร้อน สลายไฟ ลดไฟหัวใจที่แกร่ง (นอนไม่หลับ ฝันบ่อย แผลร้อนในปาก ลิ้นแดง) การกินรสขมมากเกินไปทำให้แห้งและระบบการย่อยอาหารอ่อนแอ