ไตในความหมายแพทย์จีน มีความหมายที่กว้างไม่ได้หมายถึงอวัยวะไต โรคเกี่ยวกับไตจึงไม่ได้หมายถึงไตอักเสบหรือไตวายเรื้อรัง แต่ครอบคลุมถึงต่อมหมวกไต ระบบฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ ระบบทางเดินปัสสาวะ ภาวะยินหยาง (ร้อนเย็นของระบบต่างๆของร่างกาย) ระบบประสาทอัตโนมัติ ฯลฯ
อาหารสุขภาพที่จะแนะนำในบทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง ในทัศนะแผนปัจจุบัน คือ ภาวะที่ไตสูญเสียหน้าที่อย่างเรื้อรัง ทำให้เกิดการคั่งของของเสียและน้ำ การทำงานของไตลดลงเหลือตั้งแต่ 25%-50% ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง กรวยไตอักเสบเรื้อรังและไขมันในเลือดสูง เป็นระยะเวลานานๆ
แม้ว่าผู้ป่วยบางรายจะอยู่ระหว่างการรักษาโดยการ ” ล้างไต ” โดยเครื่องไตเทียม หรือ ใช้การล้างไตโดยผ่านทางช่องท้อง การดูแลสุขภาพโดยการปรับเรื่องของอาหารปริมาณโปรตีน แร่ธาตุ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม , ฟอสฟอรัส เพื่อลดผลที่ข้างเคียงจากการฟอกเลือดรวมถึงลดอาการต่างๆ จากภาวะเสียสมดุลของสารอาหารในร่างกาย
- เสริมบำรุงโปรตีนให้พอ แต่ต้องควบคุมไม่ให้มากเกินไป เพื่อเป็นการลดการทำงานของไต ป้องกันภาวะฟอสเฟตสูง กรณีที่ไขมันในเลือดสูงให้หลีกเลี่ยงการรับประทานโปรตีนจากสัตว์ เลือกรับประทานโปรตีนจากปลา
- งดเว้นการรับประทานอาหารประเภทไขมัน หรือ อาหารรสหวานจัด
- ควบคุมอาหารรสเค็ม ผงชูรส ซอส น้ำปลา เกลือ กินอาหารรสธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง อาจใช้เครื่องเทศ รสหอม เพื่อปรุงเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยแทน
- ควบคุมโพแทสเซียม ซึ่งมีมากในซุปเข้มข้น ,ผักผลไม้สด , ปลาดิบ
- ควบคุมฟอสฟอรัส ซึ่งพบในกระดูกอ่อน, ธัญพืช , เนื้อในเมล็ดต่างๆ เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง เมล็ดทานตะวัน ไข่ปลา ไข่แดง กุ้ง ปู
- งดอาหารที่มีความหวาน น้ำตาลสูง
โปรตีนที่มากทำให้เกิดของเสียที่เพิ่มภาระการขับถ่ายของไต อาหารทะเลหม้อไฟจะอุดมด้วยสารพิวรีน (purine) ทำให้เกิดความเป็นกรดในเลือด ทำให้กรดยูริคเพิ่มขึ้นมีโอกาสเกิดโรคเกาต์แทรกซ้อนได้ง่าย
ตำรับอาหารแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ตำรับที่1 ซุปเลือดหมูกุยช่าย(猪血韭菜汤)
ส่วนประกอบ
เลือดหมู 220 กรัม
กุยช่ายใบเขียว 30 กรัม
หอมแดง 3 กรัม
น้ำมัน 15 กรัม
ซอสถั่วเหลืองสำหรับปรุงรส
สรรพคุณ
- เลือดหมู มีส่วนประกอบธาตุเหล็กที่ดูดซึมง่าย และมีส่วนประกอบโปรตีนช่วยบำรุงเลือด
- กุยช่าย(สีเขียว) (韭菜) มีส่วนประกอบของแคลเซียม , เหล็ก , ฟอสฟอรัส ในทางแพทย์จีน จัดเป็นอาหารที่ช่วยล้างลำไส้ เพราะมีไฟเบอร์สูง อุ่นบำรุงไต เสริมร้อน เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไตที่เลือดจาง ร่างกายหนาวง่าย
วิธีปรุง
- ใส่น้ำมันในกะทะเจียวที่ร้อน เจียวหัวหอมแดงจนมีกลิ่นหอม
- เอาเลือดหมูลงไปผัดให้ร้อนทั่วถึง แล้วเติมน้ำประมาณ 400 ซีซี
- เมื่อน้ำเดือดแล้ว ใส่ใบกุยช่ายและปรุงรสตามต้องการ
( แต่หลีกเลี่ยงการใช้ผงชูรสและรสเค็มจัด)
ตำรับที่ 2 เนื้อวัวกุยช่ายขาว(韭黄牛肉)
ส่วนประกอบ
เนื้อวัว(牛肉)หั่นเป็นฝอยชิ้นเล็กๆ 40 กรัม
กุยช่ายขาว(韭黄)50 กรัม
แป้ง 5 กรัม
น้ำมันพืช 10 กรัม
เครื่องปรุงรส
ซอสถั่วเหลือง น้ำตาลปริมาณเล็กน้อย
วิธีปรุง
1.เตรียมเนื้อวัวที่หั่นแล้วกับเครื่องปรุงรสให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วคลุกกับแป้ง
2.เตรียมกะทะใส่น้ำมันจนร้อน เอาเนื้อวัวที่คลุกแป้งลงไปผัดจนสุกประมาณ 8 ใน 10 ส่วน เอาเนื้อวัวที่ผัดแล้วไว้ขอบกะทะเพื่อให้น้ำมันออก
3.เอากุยช่ายขาวผัดน้ำมัน จนสุก แล้วผัดรวมเข้ากับเนื้อวัวที่ผัดเตรียมไว้แล้ว
หมายเหตุ กุยช่ายใบเขียว(韭菜) มีอีกชื่อหนึ่งว่า หญ้าทำให้กำเนิดหยางพลังร้อนหรือ พลังทางเพศ(起阳草,壮阳草)ฤทธิ์อุ่นร้อน รสเผ็ด บำรุงม้ามกระเพาะอาหาร อุ่นไต ขับพิษ กระจายเลือด ช่วยขับถ่าย(มีกากใย) เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไตที่มีภาวะหยางพร่อง ขี้หนาว ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีภาวะยินพร่อง ขี้ร้อน
กุยช่ายขาวหรือเหลือง (韭黄) ฤทธิ์อุ่นร้อนน้อยกว่ากุยช่ายใบเขียว(韭菜)
การกระตุ้นให้เกิดร้อนหรือการไหลเวียนเลือดรุนแรงน้อยกว่า สตรีมีครรภ์อ่อนหลีกเลี่ยงการรับประทานกุยช่ายใบเขียว ให้เลือกรับประทานกุยช่ายขาวแทน