มีคำกล่าวของนักโภชนาบำบัดเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของแพทย์จีน กล่าวไว้ว่า
“อาหารมื้อเช้าให้รับประทานเหมือนพระราชา” (早餐吃得要像皇帝 )
“อาหารมื้อกลางวันให้รับประทานเหมือนสามัญชน” (午餐吃得要像平民)
“อาหารมื้อค่ำให้รับประทานเหมือนยาจก” (晚餐吃得要像乞丐 )
รับประทานเหมือนพระราชา บ่งบอกว่า
- อาหารต้องมีคุณค่าสูง
- ต้องรับประทานให้อิ่ม
- มื้อเช้าต้องมีความสำคัญมาก
- ยังมีการกล่าวเสริมเติมอีกว่า อาหารต้องมีลักษณะฤทธิ์ร้อนด้วย
แพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับกระเพาะอาหาร ซึ่งมีหน้าที่ในการเก็บรับอาหารมาเพื่อทำการย่อยให้ละเอียดเป็นเบื้องต้น ก่อนจะส่งไปย่อยให้ละเอียดและดูดซึมต่อไป
การย่อยอาหารของกระเพาะอาหารต้องการ ความร้อนในการบีบตัวหรือกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย กระเพาะอาหารชอบความอุ่นเกลียดกลัวความเย็น (胃喜温恶寒 )
อันตรายจากการไม่รับประทานอาหารเช้า
- เพิ่มอัตราภาวะท้องผูก เพราะกระเพาะอาหารลำไส้ไม่ถูกกระตุ้นให้บีบตัว
- โอกาสเกิดโลหิตจาง ขาดอาหารมื้อสำคัญที่จะไปสร้างเลือด
- โอกาสอ้วนง่าย (มื้อเช้าอาหารเผาผลาญดี)
- ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จะใช้งานตลอดวัน ต้องใช้พลังงานสำรอง ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ , แก่เร็ว , ระบบย่อยอาหารอ่อนแอในระยะยาว
- โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีเก็บสะสมน้ำดีไว้ช่วงกลางคืน ถ้าช่วงเช้าไม่ได้รับการกระตุ้น จะทำให้มีการตกตะกอนสะสมตัวเป็นนิ่วได้
- เกิดแผลของกระเพาะอาหารและลำไส้ นอนมาตลอดคืน ท้องว่าง มีกรดออกมาแต่ไม่มีอาหาร
- กระทบการเรียนและการทำงาน เนื่องจากขาดอาหารไปเลี้ยงสมอง
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ขาดพลัง จะทำให้เกิดโรคได้ง่าย ถ้าเป็นคนที่พื้นฐานไม่แข็งแรง มีโรคเรื้อรัง อาการจะรุนแรงขึ้น
ทำไมคนจีนจึงแนะนำข้าวต้มสำหรับมื้อเช้า
ปรมาจารย์ หลี่สือเจิน (李时珍 ) ได้กล่าวถึง ข้าวต้มละเอียด(โจ๊ก) ว่าเป็นอาหารสุดยอดของการบำรุง ถ้าได้รับประทานสัก 1 ถ้วย ขณะท้องว่าง ธัญญพืช(ข้าว) ที่ต้มละเอียด เป็นอาหารบำรุงที่มีขนาดเล็ก นุ่มและไม่เหนียวหนืด เหมาะกับการทำงานของกระเพาะอาหาร
ข้าวต้มถือเป็นอาหารหลักพื้นฐาน เพราะเป็นตัวให้พลังงาน ย่อยง่าย ดูดซึมง่าย ใช้พลังในการย่อยน้อย (ถนอมพลังของร่างกาย แพทย์จีนให้ความสำคัญว่ากระเพาะอาหารและม้ามเป็นที่มาของพลังชีวิตหลังการเกิด) อาหารถูกนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว อุ่นกระเพาะอาหาร เหมาะสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง , คนที่มีโรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นแผล , เด็กเล็ก
นอกจากนี้ ในภาวะที่ร่างกายพักผ่อนมาตลอดทั้งคืน ระบบย่อยอาหารในช่วงเช้า ถือเป็นการเริ่มต้นการทำงานของร่างกาย ถ้าได้รับอาหารที่ย่อยง่ายและดูดซึมเร็วเหมือนกับเครื่องยนต์ที่เริ่มอุ่นเครื่องใหม่ๆ จะดีกว่าการรับประทานอาหารหนักที่ย่อยยาก ที่ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักขึ้น หรือการรับประทานอาหารที่ผักผลไม้มีฤทธิ์เย็น เช่นน้ำผักผลไม้ปั่น ผักดิบ ในมื้อเช้า ทำให้เลือดไหลเวียนมาที่กระเพาะอาหารน้อยลง กระเพาะอาหารทำงานมีประสิทธิภาพลดน้อยลงเช่นกัน
การจัดอาหารเมนูข้าวต้มโจ๊ก ปรับใส่อาหารสมุนไพร ตามสภาพร่างกาย ยกตัวอย่างที่ใช้บ่อยคือ บำรุงไต
ตัวอย่าง สูตรบำรุงไต
ข้าวเหนียวดำ , ลูกบัว (เอาใจบัวออก), งาดำ , พุทราจีน
ส่วนประกอบ ข้าวเหนียว 100 กรัม
ลูกบัว 100 กรัม (เอาใจบัวออก)
พุทราจีน 10 ลูก
งาดำ 100 กรัม
วิธีปรุง
- ข้าวเหนียว แช่ค้างคืน 1 คืน
- งาดำ เอามาคั่วด้วยไฟอ่อน ๆ จนมีกลิ่นหอม แช่น้ำค้างคืน 1 คืน
- ลูกบัว พุทราจีน ล้างให้สะอาด
- เอาส่วนผสมทั้งหมดผสมกัน
ใส่น้ำต้มเป็นข้าวต้ม ด้วยหม้อความดันสูง นาน 20 นาที จะได้ข้าวเหนียวดำและงาดำที่แตกละเอียดง่ายแก่การย่อย (ถ้าต้มด้วยหม้อธรรมดา ข้าวเหนียวดำ ต้องแช่น้ำอุ่นค้างคืน แล้วจึงนำมาต้มด้วยไฟอ่อนๆ ต้องใช้เวลาต้มนาน ประมาณ 3 ชั่วโมง) ใช้รับประทานแทนข้าวต้ม
(ข้อควรระวัง) ถ้าข้าวเหนียวดำต้ม ไม่ละเอียดพอ จะทำให้ย่อยยาก เพิ่มภาระการทำงานของกระเพาะอาหาร
สรรพคุณ
- ข้าวเหนียวดำ , งาดำ , ฤทธิ์อุ่น บำรุงเลือดและบำรุงพลัง แก้อาการอ่อนเพลียใจสั่น รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพ , หลั่งเร็ว , น้ำกามเคลื่อน (ทั้งสองอย่างคุณค่าทางอาหารสูงมาก มีไฟเบอร์ โปรตีนอย่างสมบูรณ์ สีดำบำรุงไต)
- พุทราจีน ฤทธิ์กลาง บำรุงม้าม กระเพาะอาหาร ช่วยทำให้นอนหลับ
- ลูกบัว ฤทธิ์กลาง บำรุงม้ามและไต ช่วยนอนหลับ , แก้ท้องเสีย ,รักษาอาการปัสสาวะบ่อยตอน กลางคืน , หลั่งเร็ว