สมุนไพรจีน

ทำไม? ในยาสมุนไพรมี สเตียรอยด์

“เป็นเรื่องแปลก แม้ว่าจะพบสมุนไพรจำนวนมากในท้องตลาด ที่แอบใส่ สเตียรอยด์ เข้าไป แต่มักจะหาแหล่งผลิตยาก เพราะผู้ผลิตจำหน่ายมักไม่ใช่หมอ (ผลิตเพื่อการค้า) และหมอที่มีความรู้จริงก็ไม่รู้จะใส่สเตียรอยด์เข้าไปเพื่อเหตุผลใด เพราะผิดทั้งกฎหมายและจะถูกยึดใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะได้ ที่สำคัญผู้ป่วยสามารถนำหลักฐานเพื่อร้องเรียนตัวหมอได้ง่าย เพราะมีเจ้าภาพที่เป็นตัวตน” “ดิฉันรู้ดีว่าคุณหมอไม่ได้ใส่สเตียรอยด์สังเคราะห์เข้าไปในยาจีนหรอกคะ แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าสมุนไพรจีนหลายตัวที่มีผลวิจัยพบว่า มี สเตียรอยด์ ธรรมชาติ ถ้าดิฉันกินเข้าไปจะสะสมทำให้อ้วนหรือเปล่า? ยาสมุนไพรจีนที่มีสเตียรอยด์ธรรมชาติน้อย มีฤทธิ์ไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างสเตียรอยด์ของร่างกายเองได้อย่างไร หลักการที่ถูกต้อง ถ้าสเตียรอยด์ที่สร้างโดยร่างกายเอง สามารถปรับการสร้างและผลิตให้เหมาะสมกับภาวะต่างๆ ของผู้ป่วยได้อย่างสมดุลนับว่าดีที่สุด ยาสมุนไพรจีนบางอย่าง ไม่ได้มีฤทธิ์สเตียรอยด์โดยตรง แต่สามารถทำให้ร่างกายเกิดการสร้างสเตียรอยด์ได้ดีในภาวะจำเป็น เช่น ปี พ.ศ.๒๕๓๖ ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติของจีน พบว่านักวิ่งหญิงจีน 9 คน วิ่งทำลายสถิติโลก สร้างความแปลกใจแก่ผู้สังเกตการณ์ทั่วโลกซึ่งเชื่อว่าเป็นผลของการใช้สารสเตียรอยด์อย่างแน่นอน ภายหลังตรวจสอบไม่พบสารสเตียรอยด์ และนักกีฬาทุกคนก็ไม่มีอาการภายนอกที่แสดงออกของการใช้สเตียรอยด์ โค้ชทีมได้เฉลยข้อข้องใจว่า มีการบำรุงสมุนไพร ตง-ฉง-เซี่ย-เฉ่า ซึ่งมีกลไกออกฤทธิ์ไปกระตุ้นพลังปอด ซึ่งพบว่าสมุนไพรตัวนี้มีบทบาทหลายด้าน เช่น แก้โรคหืด เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจทำให้ร่างกายมีพลัง ทั้งที่ไม่มีสารสเตียรอยด์ธรรมชาติเป็นตัวประกอบหลัก แสดงว่าการออกฤทธิ์ต่อระบบอื่นๆ หลายระบบ หลายอวัยวะแล้วไปมีผลต่อการทำงานของต่อมหมวกไต ทำให้มีการสร้างฮอร์โมนออกมาได้ในยามที่ต้องใช้งานจำเป็นฤทธิ์แบบเดียวกันที่พบในโสมคนหรือโสมไซบีเรียที่มีผลต่อการเสริมพลังการทำงานของหัวใจ การควบคุมระดับ น้ำตาลในเลือด การเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต ข้อแตกต่างระหว่างการใช้สเตียรอยด์สังเคราะห์กับการใช้ยาสมุนไพรจีนคืออะไร …

ทำไม? ในยาสมุนไพรมี สเตียรอยด์ Read More »

ยาสมุนไพรจีนมี สเตียรอยด์ จริงหรือ

ผู้ป่วยบางคนรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันตั้งนาน เลยคิดอยากจะเปลี่ยนไปหาแพทย์ทางเลือกอย่างเช่นแพทย์แผนจีน พอไปปรึกษาแพทย์มักจะได้คำตอบว่า “ไม่ควรไปหา เพราะยาจีนไม่ว่าจะเป็นผง แคปซูล หรือเป็นสมุนไพร มักมีส่วนผสมของ สเตียรอยด์ กินแล้วระยะแรกจะดีขึ้น แต่ใช้ไปนานๆ จะมีผลแทรกซ้อนเป็นอันตราย” ผู้ป่วยบางคนมาหาหมอจีน เมื่อหมอจ่ายยาสมุนไพรให้ผู้ป่วยบางคนจะถามหมอว่า“คุณหมอค่ะ ยาสมุนไพรจีนมี สเตียรอยด์ หรือเปล่า ที่บ้านเขาไม่สนับสนุน เพราะกลัวใส่ สเตียรอยด์ แล้วเป็นอันตราย” เมื่อไม่นานนี้ มีผู้ป่วยรายหนึ่งไปออกรายการโทรทัศน์ให้สัมภาษณ์ในรายการดังกระจายไปทั่วประเทศว่า ได้ไปรักษาด้วยยาสมุนไพรจีน 2-3 เดือน เกิดอาการไม่พึงประสงค์หลายอย่าง เช่น เบาหวาน โรคอ้วน ซึ่งสรุปว่าเป็นเพราะยาสมุนไพรจีนมี สเตียรอยด์ หรือผสม สเตียรอยด์ เข้าไป ทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า คุชชิง (กลุ่มอาการ คุชชิง หรือ Cushing’s syndrome) การประชุมวิชาการประจำปีของแพทย์แผนจีน ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่28-29 เมษายน 2548 ได้จัดให้มีการอภิปรายในหัวข้อ “สเตียรอยด์ ในสมุนไพรจีน” มีผู้เชี่ยวชาญจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เภสัชกรหญิงทัศนีย์ โชคเจริญรัตน์ จากสถาบันการแพทย์ไทย-จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ …

ยาสมุนไพรจีนมี สเตียรอยด์ จริงหรือ Read More »

อาการปวดและการรักษาอาการปวด ด้วยแพทย์แผนจีน

แพทย์แผนจีนอธิบายสาเหตุของอาการปวดเกิดจากการไหลเวียนของเลือดและพลังลมปราณในเส้นลมปราณ (Meridian) ติดขัด ไม่คล่อง : ความคล่อง-ไม่ติดขัด (ของเลือดและพลัง) ทำให้ไม่เจ็บปวดการปวดก็เพราะการติดขัด-ไม่คล่อง (ของเลือดและพลัง) ลักษณะการปวดแบบแพทย์แผนจีน 1. การปวดแบบเคลื่อนที่ เช่นการปวดตามข้อ และเปลี่ยนตำแหน่ง เป็นๆ หายๆ เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เหมือนลม เรียกว่า ปวดแบบลม2. การปวดแบบลึกๆ หนักๆ เหมือนผ้าชุบน้ำ เรียกว่า ปวดแบบความชื้น3. การปวดแบบอักเสบ บวม แดง ร้อน เรียกว่า ปวดแบบร้อน4. ปวดแบบรุนแรงมาก โดยเฉพาะเวลากระทบความเย็น เรียกว่า ปวดแบบเย็น5. ปวดแบบเข็มแทง เฉพาะที่ เป็นมากตอนกลางคืน เรียกว่า ปวดแบบเลือดคั่ง6. ปวดแบบเรื่อยๆ ไม่รุนแรง เป็นมากเวลาอ่อนเพลีย เรียกว่า ปวดแบบร่างกายพร่องอ่อนแอ ตำแหน่งการปวด บอกถึงการกระทบกระเทือน เส้นลมปราณอะไร เช่น 1. ปวดบริเวณหน้าผาก – ปวดเส้นลมปราณหยางหมิง2. ปวดศีรษะด้านข้าง – ปวดเส้นลมปราณซ่าวหยาง3. …

อาการปวดและการรักษาอาการปวด ด้วยแพทย์แผนจีน Read More »

7 อาการไอ ในมุมมองแพทย์แผนจีน

ปอดเหมือนหลังคาหรือสิ่งปกคลุมอวัยวะจั้งอื่นๆ (肺为华盖)  เปรียบเสมือนเครื่องกำบังสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงภายนอก เช่น ลม แดด ฝน หิมะของรถม้า(车盖)พระที่นั่งของกษัตริย์โบราณ  การเปลี่ยนแปลงภายนอกหรือปัจจัยก่อโรคภายนอกต้องมากระทบสิ่งกำบัง(อวัยวะปอด)ก่อนที่จะบุกรุกไปที่อวัยวะอื่นๆ  ปอดเป็นอวัยวะที่บริสุทธิ์และอ่อนแอ (清虚之体) การเปลี่ยนแปลงของอากาศมีผลกระทบโดยตรงกับการรับความรู้สึกของผิวหนังและอากาศที่เข้าสู่ถุงลม จึงเป็นด่านแรกของการถูกรุกรานจากภายนอกโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของอากาศภายนอก อากาศในปอดไม่บริสุทธิ์ ทำให้กลไกของปอดในการกำกับการแพร่กระจายของชี่  และการกำกับพลังลงล่าง(肺气不清,失于宣肃) หรือหายใจเข้าดูดซับเอาสิ่งดี หายใจออกเอาขับสิ่งที่เสีย(吸清呼浊) เสียหน้าที่ เกิดพลังย้อนขึ้นด้านบนและเกิดเสียงไอ บางครั้งร่วมกับการขากเสมหะ กลไกการเกิดโรค เนื่องจากเหตุแห่งโรคและการปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่างกันทำให้มีลักษณะการไอแตกต่างกันไป โดยทั่วไปแบ่งเป็น สาเหตุมาจากปัจจัยก่อโรคภายนอกเป็นด้านหลัก เช่น ลมเย็น ลมร้อน ความแห้ง การแสดงออกของโรคเป็นแบบเฉียบพลัน รวดเร็ว ระยะเวลาดำเนินของโรคสั้น มักมีอาการไข้ ปวดศีรษะ กลัวความเย็น และไอมีเสมหะ สาเหตุมาจากปัจจัยภายใน คือภาวะเสียสมดุลของการทำงานของอวัยวะภายใน การแสดงออกของโรคเป็นแบบช้าๆ เรื้อรัง ระยะเวลาดำเนินของโรคใช้เวลานาน 7 กลุ่มอาการไอ วินิจฉัยแบบแพทย์แผนจีน 1.ลมเย็นโจมตีปอด(风寒犯肺) อาการสำคัญ  เริ่มต้นไอคันคอ ไอเสียงดัง หายใจเร็ว ขากเสมหะใส เป็นฟอง มีอาการแน่นจมูก น้ำมูกใส ฝ้าบนลิ้นขาวบาง ชีพจรลอย …

7 อาการไอ ในมุมมองแพทย์แผนจีน Read More »

โรคแพ้อากาศ

เป็นโรคแพ้อากาศมา 40 ปี นานขนาดนี้จะมีวิธีรักษาให้หายขาดหรือไม่?ไปหาคำตอบกันครับ คนไข้ : ผมอายุ 65 ปี ผมออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่งเบาๆ ปั่นจักรยานวันละ 30 นาที ทุกวัน สภาพร่างกายแข็งแรงดี แต่มีปัญหาที่จะเรียนปรึกษาคุณหมอคือ ผมเป็นโรคแพ้อากาศตั้งแต่ตอนอายุ 23 ปี ครั้วแรกที่เป็นก็เหมือนเป็นหวัดธรรมดา คัดจมูก หายใจไม่สะดวก มีน้ำมูกหรือบางครั้งก็ข้นนิดๆเท่านั้น จะเป็นไม่เลือกเวลาเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ตี 1 ตี 2 บางครั้งก็นานเป็น 5-6 ชั่วโมง บางครั้งครึ่งวัน บางครั้งเป็นพักเดียวก็หาย ตอนใกล้หายจะมีอาการง่วงนิดหน่อยแล้วก็หาย น้ำมูกที่ออกมาเป็นน้ำใสๆ ทุกวันนี้รักษาด้วยยาจากโรงพยาบาล มันก็เพียงบรรเทาเท่านั้น ไม่หายขาด ไม่เคยปวดหัว ไม่เคยเจ็บที่ดั้งจมูก ไม่ทราบว่ามีวิธีการรักษาแบบแพทย์แผนจีนให้หายขาดหรือไม่ขอความกรุณาคุณหมอช่วยตอบด้วยนะครับ ตอบ : อาการที่เล่ามาเป็นโรคแพ้อากาศ ยาทางแพทย์ปัจจุบันส่วนมากที่ได้รับเข้าใจว่า เป็นยาแก้แพ้ บรรเทาอาการเท่านั้น ในเรื่องแพ้อากาศแพทย์แผนจีนมองว่า นอกจากสาเหตุจากปัจจัยภายนอก เช่น ความเย็น …

โรคแพ้อากาศ Read More »

อาหารสมุนไพร ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว

คนสูงอายุ มักจะมีปัญหาเรื่องของ หลอดเลือดแข็งตัว จากสาเหตุความเสื่อมตามอายุขัยหรือจากโรคความดันโลหิตสูง  โรคไขมันในเลือดสูง  เบาหวานที่เป็นมาหลายปีแม้ว่าจะได้รับการบำบัดดูแลรักษาอย่างดีด้วยยามาอย่างต่อเนื่องก็ตาม หลอดเลือดแข็งตัว  ทำให้อวัยวะสำคัญๆ เกิดปัญหาได้ง่าย  เช่น สมอง หัวใจ และไต ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองแข็งตัว  มีโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก เกิดอัมพฤกษ์ – อัมพาต อีกทั้งทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ง่าย, ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจแข็งตัว ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน จะทำให้หัวใจขาดเลือด, ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตเสื่อมแข็งตัว ทำให้ไตฝ่อ ไตทำหน้าที่น้อยลงเกิดภาวะไตวาย และในกรณีที่หลอดเลือดทั่วร่างกายแข็งตัว  อวัยวะทุกส่วนของร่างกายขาดเลือดหล่อเลี้ยง   เกิดอาการไม่สบายทั้งตัว  ปลายมือปลายเท้าชา  กล้ามเนื้ออ่อนแรง ร่างกายอ่อนเพลีย ดังนั้นการดูแลหลอดเลือดให้แข็งแรง ยืดหยุ่น จึงเป็นการดูแลสมอง หัวใจ และสุขภาพโดยรวมด้วย ปรมาจารย์แพทย์จีน หลี่สือเจิน ( 李时珍)  กับเคล็ดลับอาหาร ป้องกันรักษาโรคสมอง 1. เก๋อเกิน  (葛根) บางคนเรียกว่า โสมภูเขา  ( 山人参 ) มีสรรพคุณสำคัญ คือ เสริมธาตุน้ำ  ขยายหลอดเลือด …

อาหารสมุนไพร ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว Read More »

โคโรคหรือหนิวหวง กับตำรับยาที่น่าสนใจ

ถ้าคนชำแหละวัวบังเอิญพบว่าวัวตัวที่ถูกชำแหละมีนิ่วในถุงน้ำดีต้องเรียกว่าพบโชคลาภอันยิ่งใหญ่ ราคาของนิ่วดูเหมือนจะแพงกว่าราคาตัวของวัวทั้งตัวเสียอีก…นิ่วของวัว จึงเป็นของหายาก ไม่ใช่สิ่งที่จะพบหาได้ง่ายๆ มีความพยายามเลียนแบบธรรมชาติ ทำการผลิตหรือทำให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีวัว เช่น นำก้อนวัตถุชิ้นเล็กๆ เพื่อเป็นเชื้อใส่เข้าไปในถุงน้ำดี และเย็บปิดถุงน้ำดีเพื่อให้ก้อนนิ่วๆค่อยๆก่อตัวในถุงน้ำดี หรือแยกแยะส่วนประกอบของนิ่วในถุงน้ำดีของวัวที่เป็นโรค แล้วเลียนแบบผลิตนิ่วถุงน้ำดีโดยอาศัยสัดส่วนตามที่แยกแยะได้ อย่างไรก็ตามคุณภาพนิ่วจากฝีมือมนุษย์ต่อการรักษาโรคจะสู้นิ่วในถุงน้ำดีแบบธรรมชาติไม่ได้  แต่ราคาจะถูกกว่ากันมาก หนิวหวง (牛黄) ที่ใช้กันในท้องตลาดจะเป็นแบบที่มนุษย์ผลิตขึ้นมากกว่า 98% สรรพคุณของโคโรคหรือหนิวหวง (牛黄 ) – เป็นยาที่มีรสขมหวาน ฤทธิ์เย็น – เข้าสู่เส้นลมปราณหัวใจและตับ – มีสรรพคุณในการขับความร้อนของหัวใจ(รวมหมายถึงสมอง) เปิดทวาร (ทำให้ฟื้นสติ) สลายเสมหะ แก้อาการชักเกร็ง มักใช้รักษาผู้ป่วยที่มีความร้อนภายในแล้วรบกวนสมองทำให้หมดสติ (ภาวะเส้นเลือดสมองแตกแบบแกร่ง) พูดจาเพ้อ ผู้ป่วยโรคจิตประสาทที่เอะอะโวยวาย เด็กชักกระตุก แผลอักเสบในลำคอ ฟัน แผลในปากและแผลบนลิ้น ฝีหนอง การอักเสบต่างๆ ของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการขับน้ำดีปกป้องตับ ขนาดที่ใช้    :   ครั้งละ 0.2 – 0.5 กรัมโดยใช้ผสมเป็นลูกกลอนรับประทาน (ไม่ใช้การต้ม) ข้อควรระวัง  :   หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ และคนที่ไม่มีภาวะร้อนแกร่ง (ต้องเป็นไข้ตัวร้อนหรืออักเสบ …

โคโรคหรือหนิวหวง กับตำรับยาที่น่าสนใจ Read More »

จิงของไต ไม่พอ

“ลูกของดิฉันมีพัฒนาการช้ากว่าเด็กอื่น ให้คุณหมอเด็กที่โรงพยาบาลตรวจรักษา หมอบอกว่าเป็นความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนการเจริญเติบโตตอนนี้ได้ฮอร์โมนรักษาดีขึ้นมาก คุณหมอนัดดูแลให้เป็นระยะๆ อยู่”Ž“ผมกับภรรยาไปปรึกษาแพทย์เรื่องมีบุตรยาก แต่งงานกันมาเกือบ 5 ปี ยังไม่มีบุตรเลย ทั้งที่ไม่ได้ คุมกำเนิด หมอตรวจน้ำเชื้อผมแล้วบอกว่า เชื้ออ่อน ปริมาณน้อย ไม่แข็งแรง ส่วนประจำเดือนของภรรยาผมก็ไม่แน่นอน หมอนัดไปปรึกษาวางแผนการรักษา ที่โรงพยาบาล แต่บางคนก็แนะนำให้ไปหาหมอจีน เพราะได้ข่าวจากเพื่อนคนหนึ่งว่า ยาจีนสามารถรักษาภาวะมีบุตรยากได้ ผมก็ยังไม่เข้าใจอะไร กำลังตัดสินใจอยู่”Ž“ไม่ได้พบเขาตั้งนาน เขาเปลี่ยนไปมาก หน้าตาแก่ไปเยอะ ความจำเสื่อม ขาก็ไม่มีแรง ผมร่วง ผมขาว เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งๆ ที่อายุ 50 เศษๆ เอง ผมแนะนำให้เขาไปซื้อยาบำรุงชะลอความแก่ ตำรับยาจีนมากิน เพราะว่าเขาเป็นโรคไตเสื่อม”Žปัญหาเรื่องการเติบโตช้า วัยเจริญพันธุ์ (ช่วงที่สามารถสืบพันธุ์) ไม่สามารถผลิตเชื้อหรือระบบประจำเดือนผิดปกติ รวมทั้งความเสื่อมชราเร็วกว่ากำหนด มักมีปัจจัยเรื่องของฮอร์โมนภายในร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก ภาษาแพทย์จีนเรียกว่า “ภาวะจิงของไตไม่พอ” หรือ “ภาวะจิงของไตพร่อง” 1. ความหมายและสิ่งตรวจพบของ “จิงของไตไม่พอ”Žอาการจิง เป็นสารสุดยอดของร่างกาย เก็บสะสมที่ไต (เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนต่างๆ ของร่างกาย) จิงของไตมีมาแต่กำเนิด (จากพันธุกรรม) …

จิงของไต ไม่พอ Read More »

เทคนิคการ ถูฝ่ามือกับฝ่าเท้า

ช่วงโควิด-19 ระบาดตั้งแต่ ปลายปี 2562 จนถึงขณะนี้ปลายปี 2564  กินเวลาร่วม 2 ปี  ก็ยังมีความไม่แน่นอนของความรุนแรงที่อาจจะเกิดการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์จากแอฟริกาตัวใหม่ชื่อโอไมครอน  ซึ่งการได้รับวัคซีนชนิดต่างๆที่ผ่านมาอาจไม่ครอบคลุมทำให้เราต้องย้อนกลับมาทบทวนถึงหลักการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนและการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่มาแต่กำเนิด( Innate immunity ) เพราะได้ประจักษ์ชัดแล้วว่าเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมาทุกสายพันธุ์มักจะคร่าชีวิตคนสูงอายุซึ่งเป็นวัยที่สุขภาพเสื่อมโทรมและผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่นความดันโลหิตสูงหลอดเลือดหัวใจตีบหัวใจเต้นผิดจังหวะเบาหวานไตเรื้อรังผู้ป่วยฟอกไตและปลูกถ่ายไตหอบหืดปอดอักเสบเรื้อรังตับแข็งตับอักเสบเรื้อรังภูมิคุ้มกันบกพร่องโรคอ้วนเป็นต้นสำหรับคนที่มีพื้นฐานสุขภาพที่ดีมีการสร้างเสริมความสมดุลของร่างกายอย่างสม่ำเสมอมีภูมิคุ้มกันที่ดี  เมื่อมีการติดเชื้อมักมีอาการไม่รุนแรงเป็นแล้วรักษาก็หายไวไม่มีภาวะลองโควิดเวลาฉีดวัคซีนก็มักไม่มีภาวะผลข้างเคียง ความสนใจในการสร้างเสริมสมดุลอย่างง่ายๆจึงมีความจำเป็นในภาวะปกติและภาวะที่มีการระบาดของโรคเพราะเป็นสิ่งที่เราสามารถสร้างได้ด้วยตัวเราเองเป็นการกระตุ้นกลไกป้องกันตนเองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่ต้องเฝ้ารอหวังพึ่งวัคซีนหรือยารักษาอย่างเดียวเพราะวัคซีนและยาต้องตามหลังการระบาดของเชื้อเสมอและก็ไม่รู้ว่าจะมีผลต่อร่างกายตามมาระยะยาวมากน้อยเพียงใด แนวคิดการดูแลสุขภาพมีโรคทุกด้านต้องปรับส่วนกลาง“四边有病中间平” ชีวิตจริงเมื่อเผชิญกับภาวะวิกฤติเกิดปัญหาทุกองคาพยพทุกภาคส่วนขององค์กรหน่วยงานเป็นการบ่งบอกถึงผลกระทบที่เป็นองค์รวมหรือเป็นปัญหาร่วมการแก้ไขปัญหาต้องมุ่งเน้นไปที่ศูนย์กลางศูนย์รวมศูนย์บัญชาการแพทย์แผนจีนก็ใช้หลักคิดนี้ในการดูแลรักษาสุขภาพเช่น ม้ามควบคุมแขนขา (脾主四肢) ม้ามเป็นอวัยวะที่เป็นแกนกลางของอวัยวะภายในของร่างกายเป็นแหล่งกำเนิดสร้างเสริมพลังเลือดและกล้ามเนื้อของร่างกายทางคลินิกผู้ป่วยที่อ่อนเพลียไม่มีพลังแขนขาอ่อนแรงไม่ว่าจากสาเหตุใดๆรวมถึงคนไข้มะเร็งหลังผ่าตัดให้เคมีบำบัดทำให้เบื่ออาหารร่างกายทุกส่วนได้รับผลกระทบโดยรวม  การแก้ไขเร่งด่วนต้องหันกลับมาแก้ไขส่วนกลางคือระบบม้ามกระเพาะอาหาร (ระบบย่อยดูดซึมอาหาร) แหล่งกำเนิดทุนที่ 2  (ทุนแรกมาแต่กำเนิดคือไต) เพราะถ้าไม่สามารถได้อาหารมาแปรเปลี่ยนเป็นเลือดและพลังในการฟื้นฟูร่างกายและต่อสู้กับโรคแล้วนั้นคือสัญญานของการดำรงอยู่ของชีวิตและการพ่ายแพ้ต่อโรคภัยไข้เจ็บที่คุกคามอยู่     จุดศูนย์กลางรวมของเส้นลมปราณและจุดเชื่อมกับพลังแวดล้อมภายนอก 3 จุด จุดไป่ฮุ้ย百会 เป็นจุดกลางกระหม่อม จุดหย่งเฉวียน涌泉คือจุดกลางฝ่าเท้า จุดหลาวกง劳宫คือจุดกลางฝ่ามือ จุดไป่ฮุ้ย (百会) อยู่ศีรษะสังกัดส่วนบนคือจุดเชื่อมฟ้าหัวใจแห่งฟ้า(天心百会) ศีรษะอยู่ส่วนบนสุดของร่างกายคือส่วนที่เป็นหยางเป็นที่บรรจบรวมของเส้นลมปราณหยางทั้ง 12 เส้น  ชื่อจุดไป่ฮุ้ย (百会) จึงมีความหมายว่าเป็นที่บรรจบของเส้นลมปราณหยางหรือบ่งบอกว่าโรคทั้งมวลก็สามารถรักษาได้ (此穴百病都会治) จุดหย่งเฉวียน (涌泉) อยู่ที่ฝ่าเท้าสังกัดส่วนล่างคือจุดเชื่อมดินหัวใจแห่งดิน(地心涌泉) ฝ่าเท้าอยู่ส่วนล่างสุดของร่างกายคือส่วนที่เป็นอินเป็นจุดตั้งต้นของเส้นลมปราณไตเกี่ยวข้องกับการควบคุมเมทาบอลิซั่มของน้ำและเกลือแร่การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายรวมถึงระบบต่อมไร้ท่อฮอร์โมนของร่างกายอวัยวะไตยังเกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินปัสสาวะการปวดเข่าเมื่อยเอวขาอ่อนแรงแพทย์จีนมองว่าคนเสื่อมชราเริ่มต้นจากเสื่อมที่ขาไตเป็นเสมือนรากของต้นไม้ถ้ารากไม่แข็งแรงต้นไม้ก็จะเริ่มเสื่อมทรุดการรักษาต้องเริ่มที่ขา (人老脚先老,治病先治脚) จุดหย่งเฉวียนเป็นจุดกลางฝ่าเท้าเป็นจุดศูนย์กลางของเท้า จุดหลาวกง(劳宫) อยู่ส่วนแขนสังกัดส่วนกลางของคือจุดเชื่อมคนหัวใจแห่งคน(人心劳宫) …

เทคนิคการ ถูฝ่ามือกับฝ่าเท้า Read More »

รังนก สุดยอดอาหารบำรุงสุขภาพ

คนจีนได้จัดอาหารที่มีรสชาติสุดยอดไว้ 4 อย่าง ได้แก่ หูฉลาม รังนก อุ้งตีนหมี และเป๋าฮื้อ (鱼翅燕窝、熊掌、鲍鱼)   นอกจากนี้ รังนก ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารบำรุงสุขภาพชั้นดีที่ใช้ในผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร บำรุงปอด บำรุงพลัง เสริมภูมิคุ้มกัน ฯลฯ ความเชื่อนี้ทำให้รังนกเป็นที่นิยมในหมู่คนที่มีฐานะ รวมถึงเวลาไปเยี่ยมเยือนผู้ป่วย มักจะซื้อรังนกไปฝาก เพราะเชื่อว่าเป็นของดี มีคุณค่า คุ้มค่าต่อการลงทุนเพื่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบัน ก็มีความเห็นที่แตกต่างจากความเชื่อดังกล่าว เช่น จากการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับคุณค่าของรังนก 1 ขวด ที่มีวางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด พบว่า มีปริมาณโปรตีนน้อยมาก เมื่อเทียบกับไข่ไก่ 1 ฟอง (มีโปรตีน 6.5 กรัม) หรือนมหนึ่งกล่อง (8.5 กรัม) จะพบว่าการกินรังนก 1 ขวดจะได้ปริมาณโปรตีนเท่ากับการดื่มนม 1/64 กล่องเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มค่าทั้งในแง่คุณภาพและราคาต่อการบำรุงสุขภาพ ข้อถกเถียงดังกล่าวมาจากสาเหตุที่รังนกมีราคาแพงมาก มีการทุ่มการโฆษณาสูง ดังนั้น ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูง และต้องกินต่อเนื่องระยะหนึ่งจึงจะเห็นผล จึงต้องลงทุนสูง …

รังนก สุดยอดอาหารบำรุงสุขภาพ Read More »

อาหารบำรุง สมรรถภาพทางเพศ

ความต้องการทางเพศและการสืบพันธุ์เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ สมรรถภาพทางเพศและความสามารถในการสืบพันธุ์ขึ้นอยู่กับอวัยวะภายใน คือ ไตเป็นสำคัญ (ไตในทรรศนะแพทย์แผนจีนมีเกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมน ) พลังไตเริ่มจากอ่อนแอในตอนเด็ก ค่อยๆ พัฒนาเติบโต แข็งแรงจนถึงวัยหนุ่มสาว วัยฉกรรจ์ และกลับอ่อนแออีกครั้งเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ความสมบูรณ์ของพลังไตในผู้หญิงเมื่อถึงจุดหนึ่งประมาณอายุ 14 ปี ก็ทำให้เกิดประจำเดือน การสมบูรณ์ของพลังไตในผู้ชายเมื่อถึงจุดหนึ่งก็แสดงออกด้วยการมีการหลั่งน้ำอสุจิประมาณอายุ 16 ปี เมื่อถึงวัย 40 ของเพศชายและวัย 35 เพศหญิงพลังไตเริ่มต้นอ่อนแอ ความต้องการทางเพศจะเริ่มลดลง  จนถึงช่วงวัยทอง และลดลงเด่นชัดของผู้หญิงคือภาวะหมดประจำเดือนประมาณช่วงอายุ 49 ปี ในขณะที่ผู้ชายมีการลดลงของเชื้ออสุจิประมาณช่วงอายุ 64 ปี เมื่อพลังของไตลดถอยลง จนเกือบหมดสิ้น ความสามารถในการเจริญพันธุ์ก็หมดไปด้วย ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาจถือเป็นธรรมชาติก็ได้ หรือาจถือเป็นโรคได้ กล่าวคือ ถ้ามีการดูแลและเข้าใจกฎเกณฑ์ของการทำงานของไต (ในทรรศนะการแพทย์แผนจีน) และจัดการกับปัญหาทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ก็จะทำให้พลังไตเสื่อมช้า มีสมรรถภาพทางเพศที่ดีอยู่ได้นาน ถ้าจัดการไม่ถูกต้องก็จะมีการเสื่อมสมรรถภาพเร็ว ทั้งๆ ที่ไม่ถึงเวลาอันควร อาหารและสมุนไพรที่มีสรรพคุณบำรุงไต คัมภีร์ “เสิ่นหนงเปิ่นเฉ่าจิง” (神农本草经)ได้บรรยายสรรพคุณของยาบำรุงไตว่า  “จะช่วยบำรุงให้ไตแข็งแรง เพิ่มสารจิง เสริมการทำงานของหยาง ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ” …

อาหารบำรุง สมรรถภาพทางเพศ Read More »

“ภาวะหยางพร่อง” คุณก็อาจเป็นได้

“เวลาอยู่ในห้องปรับอากาศ ต้องใส่เสื้อหนาๆ ทั้งที่คนอื่นไม่เป็น เวลาเพื่อนๆ มาจับมือจะบอกว่ามือเย็น”“รู้สึกว่าอ้วนขึ้นมาก ทั้งๆที่กินแต่ละมื้อก็ไม่มาก กินชาเขียวลดน้ำหนัก ก็ไม่เห็นจะลดลง แต่กลับดูจะหนักขึ้นอีก กางเกงก็ต้องไปขยายเอวอีกแล้ว”“เป็นอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกขี้เกียจ เบื่อๆ อยากแต่จะนอน”อาการต่างๆ ที่กล่าวมานี้ เป็นส่วนหนึ่งของภาวะความเสียสมดุลของร่างกาย ซึ่งมีหลายสาเหตุ มีความสลับซับซ้อน ยากง่ายต่างๆ กัน แต่ภาวะหนึ่งที่พบบ่อยและมักมีอาการดังกล่าวข้างต้น คือ “ภาวะหยางพร่อง” 1. ถ้ายิน-หยางของร่างกายเสียสมดุล ทำให้เกิดโรคได้อย่างไร?ยิน  เป็นภาวะ สงบ เย็น หยุดนิ่ง ยับยั้งหยาง  เป็นภาวะ กระตุ้น ร้อน เคลื่อนไหว เร่งเร้าถ้าภาวะยินพร่อง ร่างกายขาดสารน้ำหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย เกิดความร้อนภายในขึ้น เพราะยินไม่สามารถควบคุมหยางถ้าภาวะหยางพร่อง ร่างกายขาดพลังความร้อน การทำงานของเซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆ ก็ถดถอย เกิดความเฉื่อยเนือย เกิดความเย็นภายในร่างกาย การไหลเวียนเลือดและพลังก็เนิบช้าลงยิน เป็นลักษณะของระบบประสาทอัตโนมัติ   พาราซิมพาเทติก และฮอร์โมนที่ให้ความชุ่มชื้นเกิดการเก็บสะสม ยับยั้งภาวะกระตุ้นหยาง เป็นลักษณะของระบบประสาทอัตโนมัติ ซิมพาเทติกและฮอร์โมนที่ทำให้เกิดการกระตุ้นเร่งเร้าการทำงาน 2. ภาวะ “หยางพร่อง” มีอาการสำคัญและการตรวจพบอย่างไร?ภาวะหยางพร่อง มีอาการหลักๆ คือ กลัวหนาว …

“ภาวะหยางพร่อง” คุณก็อาจเป็นได้ Read More »

ทำไม? เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ถ้าพูดถึงสาเหตุของความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แพทย์แผนจีน มีความเชื่อว่า สารจิงของไต เป็นส่วนสำคัญในการเก็บพลังชีวิต ซึ่งมีความหมายถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรม การควบคุม การให้พลังงานของระบบต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างปกติ สารจิง (มีความหมายรวมถึงอสุจิด้วย) จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกใช้ไปอย่างพร่ำเพรื่อ ความเชื่ออันนี้นำไปสู่ความคิดในเรื่องการดูแลสุขภาพไม่ให้ไตเสื่อมเร็ว จะต้องถนอมไม่ให้มีการหลั่งอสุจิ ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งดี โดยที่แพทย์แผนปัจจุบันถือว่าไม่มีความจำเป็นต้องเก็บสามารถระบายขับออกตามที่ต้องการ เพราะจะระบายความเครียดในจิตใจได้ ร่างกายก็สร้างทดแทนได้อีก ในขณะที่การแพทย์แผนจีนถือว่าในคนหนุ่มแน่น อาจจะระบาย หลั่งสารจิงได้ เพราะมีภาวะที่ไตยังดี และเป็นการลดภาวะที่แกร่งเกินไป แต่ถ้าเสียสารจิงไปบ่อยๆมากเกินไปจะกลายเป็นผลเสีย โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นหรือยิ่งสูงอายุ จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยง (แต่ไม่ได้ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ เพียงแต่ต้องถนอม) การหลั่งสารจิง ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมีสาเหตุสำคัญ คือ 1. การลดลงของไฟมิ่งเหมินการมีเพศสัมพันธ์ที่มีการหลั่งสารจิง (น้ำอสุจิ) รวมถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองบ่อยครั้งเกินไปเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดการสูญเสียไฟของมิ่งเหมิน การทำงานของระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ การขับถ่าย การสืบพันธุ์ ล้วนอาศัย ไฟจากมิ่งเหมิน ถ้าสูญเสียไฟของมิ่งเหมิน ระบบการทำงานของร่างกายทั้งหมดจะลดลง ร่างกายจะเสื่อมถอยเร็วขึ้น และพลังของไตจะหมดไป 2. การเสื่อมถอยของหัวใจและระบบม้ามความเครียดกังวลและภาวะทางจิตใจมีผลต่ออวัยวะภายในหัวใจ ซึ่งในทัศนะของแพทย์แผนจีนจะหมายถึง ระบบประสาทส่วนกลางและสมองที่ควบคุมจิตอารมณ์ด้วย ความวิตกกังวลยังมีผลต่อระบบม้าม ระบบการย่อยอาหารและการดูดซึม ทำให้พลังงานที่ได้รับจากอาหารลดลง ผลคือ พร่องทั้งเลือดและพลัง 3. ความตกใจเกินไปทำลายพลังของไตบางคนเคยมีภาวะการตกใจจากประสบการณ์ในอดีตที่รุนแรง …

ทำไม? เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ Read More »

สมรรถภาพเพศชายในทัศนะจีน

เป็นข่าวเกรียวกราวกันทั่วโลก เมื่อมีการค้นพบยาที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้น สมรรถภาพทางเพศ ทำให้ผู้ชายทั้งหลายที่มีปัญหาหรือคิดว่าอยากจะเสริมสร้างสมรรถภาพของตนเองให้แกร่ง ต่างพยายามขวนขวายซื้อยา แม้ว่าจะมีราคาแพงลิบลิ่ว แต่ก็คิดว่ามันคุ้มค่า ขณะเดียวกัน สมุนไพรไทย เช่น กวาวเครือก็มีผู้คาดหวังไว้มากว่า นอกจากจะช่วยให้ผู้หญิงมีน้ำมีนวล มีหน้าอกที่เต่งตึง กวาวเครือบางชนิดจะสามารถเสริมสมรรถภาพทางเพศแก่เพศชาย จึงมีการพยายามโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดการบริโภค เพื่อผลทางการค้า โดยไม่ค่อยได้คำนึงที่โทษหรือผลเสียที่จะเกิดจากการบริโภคยาเหล่านั้น จริงอยู่ อาจมีการศึกษาวิจัยบางอย่างที่บ่งบอกถึงข้อดีที่เกิดจากการใช้ยา(ไม่ว่าจะเป็นยาสังเคราะห์หรือยาสมุนไพร) แต่วิธีพิจารณาผลของยาเฉพาะที่ เฉพาะผลบางอย่าง โดยไม่พิจารณาผลอันเกิดจากองค์รวมของยาที่มีต่อร่างกายทั้งระบบ นับว่าอันตรายอย่างมาก ดังที่จะได้ทราบรายงานจากผู้ใช้ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศที่ลือชื่อบางตัว อาจทำให้ผู้ป่วยบางรายถึงแก่ความตายได้ ในทัศนะของแพทย์แผนจีนได้อธิบายปัญหาเกี่ยวกับความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศทั้งด้านสาเหตุและการดูแลรักษาไว้ ดังนี้ สมรรถภาพทางเพศ เกี่ยวข้องกับไต (ในความหมายของแพทย์แผนจีน)ไตในทัศนะแพทย์แผนจีนมีหน้าที่เก็บสารจิง (น้ำอสุจิ+ตัวอสุจิ) และเกี่ยวกับการเจริญเติบโต การควบคุมการทำงานของระบบต่างๆของร่างกายให้ประสานสอดคล้องกัน เป็นแหล่งให้พลังงานแก่ระบบต่างๆ เช่น ระบบย่อย ระบบการหายใจระบบขับถ่าย ฯลฯ ให้ทำงานได้ตามปกติ เสมือนกับเป็นพลังงานทุน  ดั้งเดิมที่ได้มาแต่กำเนิด(เรียกว่าไฟมิ่งเหมิน*) มีหน้าที่ควบคุมความเสื่อมถอยของร่างกาย สารจิงที่สะสมไว้ที่มิ่งเหมิน มีหน้าที่สำหรับการสืบพันธุ์ (มีสารกรรมพันธุ์บรรจุอยู่) * มิ่งเหมิน หมายถึงประตูชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างบริเวณไตสองข้าง เป็นที่พักของสารจิงในผู้ชาย หรือที่พักของสิ่งกำเนิดตัวอ่อนในผู้หญิงหรือไข่ กระบวนการเกิดการเจริญเติบโต ความเสื่อมถอยของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสืบพันธุ์ การเติบโตของกระดูก การงอกของฟัน …

สมรรถภาพเพศชายในทัศนะจีน Read More »

หงจิ่งเทียน สุดยอดสมุนไพรทิเบต ปรับใช้ในสถานการณ์โควิด-19

ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19  ผู้คนใฝ่หาสารพัดวิธีในการบำรุงปอดเพื่อป้องกันและรักษาโควิด-19 กันมาก ในบรรดายาสมุนไพรจีนที่กล่าวถึงกันมากตัวหนึ่ง  นอกจากยาขับพิษร้อนสลายชื้นเป็นยาหลักเพื่อการขับระบายเสียชื่ (邪气) แล้ว ยังมีสมุนไพรหงจิ่งเทียน (红景天) ที่มาช่วยบำรุงเจิ้งชี่ (正气) ของปอดอีกด้วย หงจิ่งเทียน (红景天) สมุนไพรของคนที่จะเดินทางไปทิเบต คนที่คิดจะไปเที่ยวทิเบต “ดินแดนแห่งกงล้อและมนตรา” หรือ หลังคาโลก (世界屋脊) ต้องมีการตระเตรียมตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศและความสูง เนื่องด้วยอากาศที่หนาวเย็น และมีความกดอากาศต่ำมีปริมาณออกซิเจนในอากาศต่ำมาก อาการป่วยบนที่สูงหรืออาการแพ้ที่สูง(high altitude sickness) เกิดจากการที่ร่างกายไม่คุ้นเคย และปรับตัวไม่ทัน เนื่องจากขึ้นไปอยู่ในพื้นที่สูงมีออกซิเจนในบรรยากาศต่ำ ซึ่งกลไกอย่างหนึ่งของร่างกายในการช่วยเพิ่มออกซิเจนคือ การหายใจให้เร็วขึ้น ทำให้ได้ออกซิเจนมากขึ้น บางคนเลือกการกินยา Diamox (มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด  ขับปัสสาวะ สามารถลดความดันตา ใช้รักษาโรคต้อหิน) เพื่อรักษาอาการดังกล่าว แต่เนื่องจากยาเหล่านี้เป็นกลุ่มยา ซัลฟา(บางคนจะแพ้ยา)และมีผลข้างเคียงมากรวมทั้งอาการแพ้ยาเช่น  ผื่นขึ้น ลมพิษ แน่นหน้าอก ปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าชา ริมฝีปากชา หงจิ่งเทียน(红景天) เป็นสมุนไพรที่ทรงคุณค่าในเขตทิเบต หงจิ่งเทียนยังถูกขนานนามว่าเป็นสิ่งมีค่าของการแพทย์ทิเบต (藏医之宝) เป็นสมุนไพรที่ชาวพื้นเมืองนำมาใช้แก้อาการ ที่เกิดจากการป่วยบนที่สูง เนื่องจากปริมาณออกซิเจนต่ำ รวมถึงใช้ในการเสริมเพิ่มพลังและป้องกันโรคต่างๆ  มีการร่ำลือกันว่ากษัตริย์คางซี(康熙帝ค.ศ. 1654-1722)และกษัตริย์เฉียนหลง …

หงจิ่งเทียน สุดยอดสมุนไพรทิเบต ปรับใช้ในสถานการณ์โควิด-19 Read More »