การรักษาโรคด้วยแพทย์แผนจีน

ฝังเข็มลดความอ้วน ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์

มีการศึกษาิจัยมากมายจากหลากหลายสถาบัน ที่เกี่ยวข้องกับการฝังเข็มลดความอ้วน ไปดูกันเลย 1. การวิจัยของคณะแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยนานกิงเกี่ยวกับ ผลของการฝังเข็มที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง กับการสลายไขมันและการเก็บไขมันของร่างกายพบว่า คนอ้วนโดยส่วนใหญ่จะมีระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างสูงกว่าคน ปกติ ซึ่งเป็นการสะท้อนว่า ร่างกายจะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) จากตับอ่อนสู่ระบบเลือดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีการเก็บสะสม ไขมันของร่างกายมากในขณะเดียวกัน คนอ้วนจะมีระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการสลายไขมันเป็นพลังงานในเลือด คือ อะดรีนาลิน และคอร์ติโซนต่ำกว่าปกติ ทำให้ไขมันสะสมในตัวมากผลจากการฝังเข็มในคนอ้วน 44 ราย อายุระหว่าง 17-48 ปี พบความเปลี่ยนแปลงที่นัยสำคัญ คือ ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง (ไขมันสะสมตัวน้อยลง) และระดับอะดรีนาลิน คอร์ติโซนเพิ่ม สูงขึ้น (ไขมันถูกสลายเป็นพลังงาน มากขึ้น) ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงของน้ำหนักตัวของผู้ป่วยสรุปว่า การฝังเข็มมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงกลไกของฮอร์โมน ต่อการสะสมและสลายไขมันของร่างกาย 2. การศึกษาของแผนกฝัง เข็ม มหาวิทยาลัยแพทย์จีนกวางสี กับคนอ้วน 50 ราย พบว่าการฝังเข็ม สามารถลดระดับโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ (TG) ระดับน้ำตาล ในเลือด (CH) ไขมันที่มีความหนา แน่นต่ำ (LDL-C) อย่างมีนัยสำคัญ 3. การศึกษาทั้งสองเชื่อว่า ฝังเข็มมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนและการกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ เพื่อการปรับสมดุลการลดลงของน้ำตาลและไขมัน …

ฝังเข็มลดความอ้วน ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ Read More »

อากาศแปรปรวนกับสุขภาพ ในมุมมองแพทย์แผนจีน

ในช่วงนี้ มีความแปรปรวนของพลังชี่ของอากาศอย่างมาก เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝนตก โอกาสที่คนจะเกิดโรคจากพลังชี่ของอากาศมากเกินไป หรือที่เรียกว่าเสียชี่ (邪气) หรือหยินชี่ (淫气) ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยของตัวอากาศเอง และการปรับสมดุลของร่างกาย บางครั้งพลังชี่ที่แปรปรวนอาจจะไม่ใช่เสียชี่ (邪气) สำหรับคนหนึ่ง แต่คนที่ร่างกายปรับตัวไม่ได้ ทำให้เกิดโรค ก็ถือว่าเป็นเสียชี่ (邪气) สำหรับคนนั้น ซึ่งแพทย์จีนมีมุมมองแตกต่างกันกับแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเฉพาะสาเหตุการเกิดโรค ในขณะที่ แพทย์แผนปัจจุบัน เนื่องจากลงไปในรายละเอียดเป็นรูปธรรมจึงแยกแยะสาเหตุของการเกิดโรคได้มาก แล้วแต่จะมองมุมไหน ตั้งแต่ตัวเชื้อโรค ดีเอ็นเอ ยีน หรือการผิดปกติของสารชีวเคมี เอนไซม์ ฮอร์โมน เซลล์ ฯลฯ แผนจีนแบ่งสาเหตุของโรคเพียง 4 ประเภทเท่านั้น คือ 1.    เหตุจากภายนอก คือ พลังชี่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพลังชี่ของธรรมชาติ ภูมิอากาศ ฤดูกาล ภูมิประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อพลังชี่ของร่างกายตลอดเวลา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของชี่ที่รวดเร็ว รุนแรง หรือมากเกินไปจนเกิดการปรับตัวไม่ทันของร่างกาย 2.    เหตุจากภายใน คือ ภาวะของอารมณ์ทั้ง ๗ ของร่างกายที่แปรปรวนรุนแรง รวดเร็ว และยาวนาน รวมทั้งการกินอาหาร …

อากาศแปรปรวนกับสุขภาพ ในมุมมองแพทย์แผนจีน Read More »

โรคอ้วน ในทัศนะแพทย์แผนจีน

โรคอ้วน แพทย์จีนเรียก เฝ่ย-พ่างคัมภีร์หวงตี้เน่ยจิง ส่วนของ “ซู่เวิ่น” เขียนไว้ว่า”คนอ้วนเป็นโรคที่เกิดจากการกินอาหารที่ชั้นเลิศและสมบูรณ์”แพทย์ในราชวงศ์หมิงชิง เน้นว่า”คนอ้วนอายุไม่ยืนยาว” “คนอ้วนมีความชื้น-เสมหะ สะสมมาก” เหตุแห่งโรคและการเกิดโรคอ้วนสาเหตุพื้นฐาน : เกิดจากความ ผิดปกติของการทำงานของกระเพาะ อาหารและม้ามเป็นหลัก (ซึ่งอาจมีผลจากตับและไตมากระทบ) ทำให้มี การสะสมของความชื้น เสมหะขึ้นใน ร่างกาย ซึ่งของเสียเหล่านี้จะไม่ถูก ดูดซึมและไม่ถูกขับถ่าย จะกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายซึ่งภาวะที่ทำให้กระเพาะอาหาร และม้ามมีปัญหาสามารถแยกใหญ่ๆ ได้เป็น 2 อย่าง คือ แบบแกร่งและแบบพร่อง (สามารถแยกละเอียดลงไปได้ประมาณ 7 ประเภท) ภาวะแกร่ง มีสาเหตุจากกระเพาะอาหารมีความร้อนสะสมมากไป คือมีไฟในกระเพาะอาหารมากอาการสำคัญ คือ อ้วน กินเก่ง  หิวเร็ว ท้องอืดแน่น ท้องผูก หน้าแดง ขี้ร้อน เหงื่อมาก คอแห้งกระหายน้ำ ชอบดื่มน้ำเย็นๆ ปัสสาวะเหลืองเข้ม ลิ้นแดง มีฝ้าบนลิ้นเหลือง ชีพจรเต้น เร็วและแรงแพทย์แผนจีนอธิบายว่า ความร้อนสะสมในกระเพาะอาหาร มักมีผลจากการกินอาหารที่มีคุณสมบัติหยาง เช่น อาหารมัน อาหารทอดๆ อาหารรสหวานจัด อาหารเผ็ด เหล้า ปริมาณมากหรือยาวนาน ในขณะที่ …

โรคอ้วน ในทัศนะแพทย์แผนจีน Read More »

ฝังเข็ม ลดความอ้วนได้จริงหรือ?

เป็นที่ฮือฮากันมากเมื่อหลายปีก่อน ผู้คนจำนวนมากแห่กันเข้าคิวไปรอการฝังเข็มลดน้ำหนัก เพราะเชื่อว่า จะได้ผลดีเยี่ยม และทำให้สุขภาพดีด้วย (ไม่ทราบเป็นเพราะแรงโฆษณาเกินจริงหรือเปล่า) แต่แล้วก็หยุดฮิตไปพักหนึ่ง เพราะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็ยังมีผู้ที่นิยมไปฝังเข็มลดความอ้วน ด้วยความเชื่อว่า อย่างไรเสียยังปลอดภัยกว่าการใช้ยา เพราะเคยใช้ยาลดน้ำหนักมาแล้ว มีผลข้างเคียงคือ กินแล้วไม่สบายตัว เมื่อหยุดยาน้ำหนักกลับเพิ่มมากขึ้นกว่า เดิมอีกภายใน 1 ปีหลายคนหันไปหาอาหารสุขภาพ ลดน้ำหนัก ขับไขมัน กินสมุนไพร กินอาหารเส้นใย บ้างก็ประสบผลสำเร็จบ้างไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ที่แน่ๆบริษัทที่ผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ร่ำรวยไปไม่น้อย หลายคนพบสัจธรรมว่า อยู่ที่การควบคุมพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง วิถีการดำเนินชีวิตใหม่ ออกกำลังกายน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่หลายคนยากจะเปลี่ยนวิถีชีวิต เพราะเกี่ยวข้องกับอาชีพการทำงาน ซึ่งแสนจะหลีกเลี่ยงยาก สรุป โรคอ้วนจึงคงต้องเป็นปัญหาที่ไม่มีทางจบสิ้น ในสังคมปัจจุบันที่เกิดความเสียสมดุล ของการบริโภคอาหารและการใช้พลังงานในการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ยังเป็นข้อสงสัยของคนจำนวน มากว่า การฝังเข็มจะไปช่วยอะไรกับ การลดน้ำหนัก เพียงฝังเข็มไม่กี่จุดแล้วกระตุ้นด้วยไฟฟ้า ไขมันจะสลาย ไปได้อย่างรวดเร็วปานนั้นหรือ บางราย แค่ไปติดเข็มเล็กๆ หรือเมล็ดพืชที่หู 3 – 4 จุด แล้วไขมันจะหายไปได้อย่างไร น่าเป็นผลทางจิตวิทยามากกว่าสำหรับคนปกติจะให้ไขมันในร่างกาย หายไป 1 กิโลกรัม …

ฝังเข็ม ลดความอ้วนได้จริงหรือ? Read More »

อาหารบำรุง สมรรถภาพทางเพศ

ความต้องการทางเพศและการสืบพันธุ์เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ สมรรถภาพทางเพศและความสามารถในการสืบพันธุ์ขึ้นอยู่กับอวัยวะภายใน คือ ไตเป็นสำคัญ (ไตในทรรศนะแพทย์แผนจีนมีเกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมน ) พลังไตเริ่มจากอ่อนแอในตอนเด็ก ค่อยๆ พัฒนาเติบโต แข็งแรงจนถึงวัยหนุ่มสาว วัยฉกรรจ์ และกลับอ่อนแออีกครั้งเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ความสมบูรณ์ของพลังไตในผู้หญิงเมื่อถึงจุดหนึ่งประมาณอายุ 14 ปี ก็ทำให้เกิดประจำเดือน การสมบูรณ์ของพลังไตในผู้ชายเมื่อถึงจุดหนึ่งก็แสดงออกด้วยการมีการหลั่งน้ำอสุจิประมาณอายุ 16 ปี เมื่อถึงวัย 40 ของเพศชายและวัย 35 เพศหญิงพลังไตเริ่มต้นอ่อนแอ ความต้องการทางเพศจะเริ่มลดลง  จนถึงช่วงวัยทอง และลดลงเด่นชัดของผู้หญิงคือภาวะหมดประจำเดือนประมาณช่วงอายุ 49 ปี ในขณะที่ผู้ชายมีการลดลงของเชื้ออสุจิประมาณช่วงอายุ 64 ปี เมื่อพลังของไตลดถอยลง จนเกือบหมดสิ้น ความสามารถในการเจริญพันธุ์ก็หมดไปด้วย ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาจถือเป็นธรรมชาติก็ได้ หรือาจถือเป็นโรคได้ กล่าวคือ ถ้ามีการดูแลและเข้าใจกฎเกณฑ์ของการทำงานของไต (ในทรรศนะการแพทย์แผนจีน) และจัดการกับปัญหาทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ก็จะทำให้พลังไตเสื่อมช้า มีสมรรถภาพทางเพศที่ดีอยู่ได้นาน ถ้าจัดการไม่ถูกต้องก็จะมีการเสื่อมสมรรถภาพเร็ว ทั้งๆ ที่ไม่ถึงเวลาอันควร อาหารและสมุนไพรที่มีสรรพคุณบำรุงไต คัมภีร์ “เสิ่นหนงเปิ่นเฉ่าจิง” (神农本草经)ได้บรรยายสรรพคุณของยาบำรุงไตว่า  “จะช่วยบำรุงให้ไตแข็งแรง เพิ่มสารจิง เสริมการทำงานของหยาง ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ” …

อาหารบำรุง สมรรถภาพทางเพศ Read More »

หงจิ่งเทียน สุดยอดสมุนไพรทิเบต ปรับใช้ในสถานการณ์โควิด-19

ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19  ผู้คนใฝ่หาสารพัดวิธีในการบำรุงปอดเพื่อป้องกันและรักษาโควิด-19 กันมาก ในบรรดายาสมุนไพรจีนที่กล่าวถึงกันมากตัวหนึ่ง  นอกจากยาขับพิษร้อนสลายชื้นเป็นยาหลักเพื่อการขับระบายเสียชื่ (邪气) แล้ว ยังมีสมุนไพรหงจิ่งเทียน (红景天) ที่มาช่วยบำรุงเจิ้งชี่ (正气) ของปอดอีกด้วย หงจิ่งเทียน (红景天) สมุนไพรของคนที่จะเดินทางไปทิเบต คนที่คิดจะไปเที่ยวทิเบต “ดินแดนแห่งกงล้อและมนตรา” หรือ หลังคาโลก (世界屋脊) ต้องมีการตระเตรียมตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศและความสูง เนื่องด้วยอากาศที่หนาวเย็น และมีความกดอากาศต่ำมีปริมาณออกซิเจนในอากาศต่ำมาก อาการป่วยบนที่สูงหรืออาการแพ้ที่สูง(high altitude sickness) เกิดจากการที่ร่างกายไม่คุ้นเคย และปรับตัวไม่ทัน เนื่องจากขึ้นไปอยู่ในพื้นที่สูงมีออกซิเจนในบรรยากาศต่ำ ซึ่งกลไกอย่างหนึ่งของร่างกายในการช่วยเพิ่มออกซิเจนคือ การหายใจให้เร็วขึ้น ทำให้ได้ออกซิเจนมากขึ้น บางคนเลือกการกินยา Diamox (มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด  ขับปัสสาวะ สามารถลดความดันตา ใช้รักษาโรคต้อหิน) เพื่อรักษาอาการดังกล่าว แต่เนื่องจากยาเหล่านี้เป็นกลุ่มยา ซัลฟา(บางคนจะแพ้ยา)และมีผลข้างเคียงมากรวมทั้งอาการแพ้ยาเช่น  ผื่นขึ้น ลมพิษ แน่นหน้าอก ปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าชา ริมฝีปากชา หงจิ่งเทียน(红景天) เป็นสมุนไพรที่ทรงคุณค่าในเขตทิเบต หงจิ่งเทียนยังถูกขนานนามว่าเป็นสิ่งมีค่าของการแพทย์ทิเบต (藏医之宝) เป็นสมุนไพรที่ชาวพื้นเมืองนำมาใช้แก้อาการ ที่เกิดจากการป่วยบนที่สูง เนื่องจากปริมาณออกซิเจนต่ำ รวมถึงใช้ในการเสริมเพิ่มพลังและป้องกันโรคต่างๆ  มีการร่ำลือกันว่ากษัตริย์คางซี(康熙帝ค.ศ. 1654-1722)และกษัตริย์เฉียนหลง …

หงจิ่งเทียน สุดยอดสมุนไพรทิเบต ปรับใช้ในสถานการณ์โควิด-19 Read More »

“สมุนไพรจีน” กับการลดไขมันในเลือด

เป็นที่ทราบกันว่า “สมุนไพรจีน” มีมากมายหลากหลายชนิด วันนี้จะขอกล่าวถึงสมุนไพรจีน 3 ชนิด ที่มีสรรพคุณเกี่ยวกับการลดไขมันในเลือด ข้าวยีสต์แดง (Red yeast rice ) เป็นข้าวที่ผ่านการหมักโดยใช้เชื้อรา Monascus purpureus เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านในการหมักข้าวเพื่อใช้สีในการปรุงแต่งอาหาร โดยมีการบันทึกในตำรับยาสมุนไพรจีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.800) เป็นสมุนไพรฤทธิ์อุ่นเล็กน้อย รสหวาน ไม่มีพิษ (味甘,性微温, 无毒) วิ่งเส้นลมปราณ  ม้าม ลำไส้ใหญ่ ตับ (归脾、大肠、肝经) ซึ่งวิธีการหมักข้าวยีตส์แดงต้องมีสารไซตรินิน (Citrinin) ที่ก่อพิษต่อตับในปริมาณต่ำ สรรพคุณ : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด สลายเลือดอุดกั้น เสริมม้ามช่วยย่อยอาหาร แก้บิดถ่ายเป็นเลือด หลังคลอดน้ำคาวปลาไม่หยุด รักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกทุบตี (活血化瘀;健脾消食;赤白下痢;产后恶露不尽;跌打损伤) ข้อควรระวัง : ผู้ป่วยยินพร่อง หญิงตั้งครรภ์ หญิงระยะให้นมบุตร คนที่ไม่มีภาวะเลือดอุดกั้น การวิจัยสมัยใหม่ : ข้าวยีสต์แดง มีสาร Monacolin K ซึ่งเป็นสารลดคอเลสเตอรอลจากธรรมชาติ สามารถลดได้ทั้ง …

“สมุนไพรจีน” กับการลดไขมันในเลือด Read More »

ไวรัสตับอักเสบ ในทัศนะแพทย์จีน

ตำราแพทย์จีนโบราณ ไม่มีเรื่องของตับอักเสบจากเชื้อไวรัส เพราะไม่สามารถแยกแยะสาเหตุว่าการอักเสบของตับมาจากเชื้อไวรัสชนิดใด นอกจากนี้ การเกิดปัญหาเกี่ยวกับโรคตับ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับตัวตับโดยตรงหรือโดยอ้อม เช่น การปวดแน่นชายโครง ภาวะตับอุดกั้น ตับร้อนทำให้หงุดหงิด ถุงน้ำดี ตับร้อนชื้น ก็จะถูกเกี่ยวโยงสัมพันธ์กันไปหมด โรคที่เกี่ยวกับตับจึงมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอาการ “ปวดชายโครง” “อารมณ์อุดกั้น”  “ภาวะร้อนชื้น”  “ภาวะก้อนของตับ” “ภาวะดีซ่าน” หน้าที่ของตับตามทรรศนะแพทย์แผนจีน1. ตับเก็บเลือด และควบคุมปริมาณเลือด2. ตับทำหน้าที่ระบายและปรับการไหลเวียนและพลัง3. ตับควบคุมอารมณ์และจิตใจ4. ตับขับเคลื่อนการไหลเวียนเลือด และพลัง และการลำเลียงน้ำในร่างกาย5. ตับเปิดทวารที่ตา หน้าที่ของตับที่สำคัญเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคตับอักเสบ คือ ภาวะการอุดกั้นของตับ ทำให้การไหลเวียนเลือดและพลังติดขัด ทำให้มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์และจิตใจ รวมถึงการทำงานของระบบม้ามและกระเพาะอาหาร (ไม้ข่มดิน-ตับแกร่งข่มม้าม) หรือในทางกลับกัน การหงุดหงิด จิตใจหดหู่ เครียด โมโห จะมีผลต่อการทำงานของตับโดยตรง เกิดพลังและเลือดอุดกั้น (สารพิษในร่างกายมาก ตับทำหน้าที่ขับพิษได้น้อยลง ตับทำหน้าที่มากขึ้น) ระบบการย่อยอาหารที่สะสมความร้อนชื้นมากจะมีผลต่อความร้อนชื้นของระบบตับ-ถุงน้ำดีได้ การที่เกิดความร้อนชื้น หรือพลังอุดกั้นจากอารมณ์นานๆ จะทำให้เกิดก้อนหรือการอักเสบภายในตับได้ เพราะเกิดความร้อนและการไหลเวียนติดขัดเกิดเลือดคั่งค้าง การแบ่งไวรัสตับอักเสบตามทัศนะแพทย์แผนจีน1. ชนิดเฉียบพลัน – แบบมีภาวะดีซ่าน คือมีตัวเหลือง ตาเหลือง …

ไวรัสตับอักเสบ ในทัศนะแพทย์จีน Read More »

ยาบำรุงเซ็กซ์ ส่วนหนึ่งของยาบำรุงหยาง

ยังคงมีการกล่าวถึงกันอยู่เสมอ สำหรับเรื่องของ ยาชะลอความแก่ ยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศ โดยการกล่าวถึงเขากวางอ่อน ซึ่งมีฤทธิ์ กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนทางเพศ และทำให้ร่างกายแก่ตัวช้าลง กระปรี้กระเปร่า ในทัศนะแพทย์จีนเรื่องเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับระบบไตยิน ไตหยางที่ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ การเจริญเติบโต การเสื่อมถอยของร่างกาย ซึ่งครอบคลุมถึงระบบฮอร์โมนต่างๆ เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ ต่อมเพศ ต่อมหมวกไต รวมถึงระบบประสาทอัตโนมัติ (autonome nervous system) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับตัว ของร่างกาย โดยเฉพาะอวัยวะภายใน ยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศหรือที่มักเรียกว่ายาบำรุงเซ็กซ์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของยาบำรุงไต (ตามทัศนะแพทย์จีน) โดยเฉพาะความเสื่อมถอย ทรุดโทรม มักเกิดความพร่องตามมา ไตหยาง มีการเก็บสะสมของพลังหยาง ซึ่งเป็นพื้นฐานของกลไกระบบต่างๆ ที่ได้มาแต่กำเนิด (ทางกรรมพันธุ์) ขณะที่ไตยินจะได้รับการเสริมเติมบำรุงจากอาหารการกินและการดำเนินชีวิต ซึ่งจะช่วยการปรับสมดุลกับไตหยาง และทำให้เกิดพลังหยางในระบบต่างๆของร่างกาย พลังหยางพร่อง นอกจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์แล้ว การเจ็บป่วยเรื้อรังยาวนาน การได้รับอาหารที่มีคุณสมบัติเย็นมากหรือนานเกิน การมีเพศสัมพันธ์ที่มากเกิน (สูญเสียสารจิงทำให้สูญเสียพลังไต) ก็นับว่ามีส่วนสำคัญ ต่อไปนี้จะเสนอภาพกว้างของพลังหยางพร่อง ซึ่งจะมีอาการต่างๆหลายอย่าง การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเป็นเพียงอาการหนึ่งของพลังหยางพร่อง หยางพร่องหมายถึงพลังหยางไม่พอ กลไกการทำงานของร่างกายเสื่อมถอย ทำให้ระบบต่างๆในร่างกาย เกิดอาการหนาวเย็นผิดปกติ ทั้งนี้เป็นผลจากระบบกลไกการให้พลังความร้อน …

ยาบำรุงเซ็กซ์ ส่วนหนึ่งของยาบำรุงหยาง Read More »

ไซนัสอักเสบ กับการรับมือในแบบแพทย์แผนจีน

แพทย์แผนจีนมีรายละเอียดการรักษาไซนัสอักเสบ ดังต่อไปนี้ ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน แบ่งเป็น 3 แบบ1. เส้นลมปราณปอดร้อนแกร่ง : น้ำมูกไหลมาก ลักษณะเหนียว สีเหลืองหรือขาว แน่นจมูกมาก การรับกลิ่นลดลง ปีกจมูกบวมแดง มีอาการปวดศีรษะ มีไข้ กลัวลม กลัวหนาวเล็กน้อย ไอมีเสมหะมาก คอแห้งกระหายน้ำ ตัวลิ้นแดง ฝ้าขาวบางหรือเหลืองเล็กน้อย ชีพจรลอยเร็วหรือลอยลื่นเร็ว หลักการรักษา ขับพิษขับร้อนของปอด ทำให้ทวารปอดโล่งตำรับยา หยิงเชี่ยวซ่าน ปรับตามอาการ 2. กระเพาะอาหารม้ามร้อนชื้น : น้ำมูกเหลืองข้น แน่นจมูกรุนแรง การรับกลิ่นลดลง เยื่อบุโพรงจมูกบวมแดง ร่วมกับมีอาการเวียนศีรษะ หนักศีรษะ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ท้องอืดแน่น เบื่ออาหาร ปัสสาวะเหลือง ลิ้นแดง ฝ้าเหลืองเหนียว ชีพจรลื่นเร็ว หลักการรักษา ขับพิษร้อน ขับไฟ ขับชื้นทำให้โล่ง (ทะลวงทวาร จมูก)ตำรับยา กานลู่ เซียว ตู๋ ตาน ปรับตามอาการ 3. ถุงน้ำดีร้อนอุดกั้น : น้ำมูกเหลืองข้นเหมือนหนองปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็น การดมกลิ่นลดลง เยื่อบุโพรงจมูกบวมแดง ปวดศีรษะรุนแรง เคาะระหว่างคิ้วและ …

ไซนัสอักเสบ กับการรับมือในแบบแพทย์แผนจีน Read More »

ว่าด้วยเรื่อง ไซนัสอักเสบ

หลายคนมักเป็นไซนัสอักเสบบ่อยๆ ภายหลังอากาศเปลี่ยนแปลงโดยมีอาการโรคหวัดนำมาก่อน ในขณะที่หลายคนเป็นหวัดไม่กี่วันก็หาย หลายคนที่มีไซนัสอักเสบเรื้อรัง กินยาปฏิชีวนะมาหลายขนานอาการก็ไม่ดีขึ้น ถึงกับต้องเจาะดูดหนองและล้างโพรงจมูก บางรายที่มีการติดเชื้อลุกลาม รุนแรงเข้ากระบอกตาหรือเข้าสมองเกิดฝีในสมอง คนที่เป็นไซนัสเรื้อรังจำนวนมาก มักจะแสวงหาแพทย์ทางเลือก ตั้งแต่การพ่นยาเข้าในจมูก ใช้น้ำยากระตุ้นให้มีการไหลของหนองหรือเมือกออกมามากๆ ต้มสมุนไพรกินเองบ้าง หาหมอจีนบ้าง กินอาหารเสริมสุขภาพ กินวิตามินซีปริมาณมากบ้าง ตามแต่จะเชื่อหรือมีผู้แนะนำกันมา แพทย์แผนจีน มีแนวคิดเรื่องไซนัสอักเสบอย่างไร ต่างกับแผนปัจจุบันอย่างไร แพทย์แผนปัจจุบันมองว่า ไซนัสอักเสบ (sinusitis) เป็นภาวะโพรงอากาศรอบจมูกมีการอักเสบ แบ่งเป็น 2 ระยะ1. ระยะเฉียบพลัน คือ ระยะ 2-4 สัปดาห์แรก2. ระยะเรื้อรัง คือ เป็นนานกว่า 4 สัปดาห์ สาเหตุของไซนัสอักเสบ1. เกิดจากจุลชีพ ส่วนใหญ่เป็น แบคทีเรียประมาณร้อยละ 80 จากไวรัสประมาณร้อยละ 20 2. การทำงานของขนกวัด (cilia) ในโพรงจมูกเสียหน้าที่ หรือมีการอุดกั้นของทางเดินติดต่อระหว่างโพรงอากาศกับช่องจมูก ทำให้สารเมือกหรือหนองในโพรงอากาศระบายออกไปไม่ดี แพทย์แผนจีน : มองว่าไซนัสอักเสบเฉียบพลันเกิดจาก 2 สาเหตุ 1. สภาพร่างกายของผู้ป่วยมักอ่อนแอเป็นพื้นฐานประกอบกับการดำเนินชีวิตไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่ระมัดระวังการปรับตัวของอุณหภูมิร่างกาย (ปล่อยให้เย็น-ร้อนเกินไป) หรือมีการอ่อนล้าของร่างกาย …

ว่าด้วยเรื่อง ไซนัสอักเสบ Read More »

พลังไตย้อนกลับขึ้นบน คืออะไร

ในผู้ป่วยหอบหืดเรื้อรัง หรือหลอดลมอักเสบเรื้อรังตามทัศนะแพทย์แผนจีน มีสาเหตุหลายอย่าง สาเหตุที่สำคัญ สาเหตุหนึ่งคือ ภาวะพลังไตย้อนกลับขึ้นบน (พลังไตไม่กลับที่แหล่งกำเนิดเพราะพลังไตพร่อง อ่อนแอ) ภาวะพลังไตย้อนกลับขึ้นบน”  หมายถึง ภาวะพลังไตอ่อนแอ พลังไม่สามารถกลับสู่ตำแหน่ง ดั้งเดิมของไต คือบริเวณตานเถียน ซึ่งเป็นแหล่งเก็บพลังพื้นฐานของไต ทำให้การหายใจสั้น หายใจไม่ลึก มีอาการหอบหืด มักพบว่ามีความผิดปกติร่วมกันของพลังปอดพร่องกับพลังไตพร่องควบคู่กัน อาการสำคัญคือ หอบหืดหายใจสั้น หายใจเข้าได้น้อย หายใจออกมาก ถ้าเคลื่อนไหวหรือใช้กำลังกายอาการจะรุนแรงขึ้นอาการร่วม เป็นโรคไอ หอบหืดเรื้อรัง เหงื่อออกมากผิดปกติ ใบหน้าขาดความมีชีวิตชีวา เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยอยากจะพูด เสียงพูดไม่มีพลัง เอวและเข่าเมื่อยล้าอ่อนแรง ในรายที่เป็นมากจะมีอาการหอบหืดรุนแรง มีเหงื่อเย็นออกมาก แขนขาเย็น หน้าซีดเขียวลักษณะลิ้น : ลิ้นซีด ฝ้าขาวชีพจร : ลึกและอ่อนแอสาเหตุสำคัญของ “ภาวะพลังไตย้อนกลับขึ้นบน”มาจาก1. ไอ หอบหืดเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ ทำให้โรคจากพลังปอดพร่อง พัฒนาไปทำให้พลังไตพร่องด้วย2. คนสูงอายุ มักมีพลังไตอ่อนแออยู่แล้ว เป็นเงื่อนไขที่ทำให้การรับหรือดึงพลังไตกลับตานเถียนได้น้อยกว่าปกติ3. โรคเรื้อรังที่กระทบกระเทือนต่อไต เพศสัมพันธ์ที่มากเกินไป, การทำงานเหนื่อยล้านานเกินไปอย่างต่อเนื่อง กลไกการเกิด …

พลังไตย้อนกลับขึ้นบน คืออะไร Read More »

เปิด 5 เทคนิค การกินอาหารเพื่อสุขภาพ

เหตุผลที่ระบบการย่อยและการดูดซึมอาหารไม่มีระเบียบ ไร้กฎเกณฑ์ เกิดจากการกินอาหารจุบจิบ ตามอารมณ์ กินตามใจปาก เพราะฉะนั้น เพื่อให้ระบบต่างๆในร่างกายกลับมาสู่สมดุลอีกครั้ง เราไปดู5เทคนิคการกินอาหารเพื่อสุขภาพกัน เทคนิคการกินอาหารเพื่อสุขภาพ 1. การกินข้าวต้มหรือโจ๊กเหมาะเป็นอาหารมื้อเช้าสำหรับคนที่มีระบบการย่อยและดูดซึมไม่ค่อยดีช่วงตื่นนอนตอนเช้า ระบบการย่อยอาหารของเรา เพิ่งจะเริ่มทำงาน (หลังจากพักมาตลอดทั้งคืน) ให้ดื่มน้ำ หลังตื่นนอนทันที 1-2 แก้ว เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหาร พลังลมปราณที่ไหลผ่านเส้นลมปราณ กระเพาะอาหาร ม้าม สูงสุดในช่วง 07.00-09.00 น. และ 09.00 – 11.00 น. ตามลำดับ เราจึงควรกินอาหารเช้าที่มีลักษณะ ย่อยง่ายในช่วงเวลาดังกล่าว 2. กินเมื่อยังไม่รู้สึกหิว และหยุดเมื่อเริ่มอิ่มไม่ควรปล่อยให้หิวจัดเกินไป เพราะจะทำลายพลังของกระเพาะอาหาร และไม่ควรกินอาหารอิ่มเกินไป เพราะจะทำลายสมรรถภาพการย่อยและการดูดซึม ทำให้อาหารตกค้างเป็นของเสีย ควรหยุดกินอาหารเมื่อมีความอิ่ม ร้อยละ 70-80 3. อาหารมื้อเช้าต้องดี มื้อเที่ยงต้องอิ่ม มื้อเย็นต้องน้อยปริมาณอาหารมื้อเช้า ร้อยละ 30-40 มื้อเที่ยง ร้อยละ 40-50 มื้อเย็น ร้อยละ 20-30 4. ควรกินอาหารตามมื้อหลัก ตามเวลาอย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า …

เปิด 5 เทคนิค การกินอาหารเพื่อสุขภาพ Read More »

ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อการดูแลหัวใจและหลอดเลือด

“ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจีน CO-RED (โค-เรด)เกิดจากการบูรณาการประสบการณ์ทางคลินิก การค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์และเภสัชกรรมแผนปัจจุบันแผนจีน ผสานกับเทคโนโลยีตะวันตก ภายใต้การควบคุมการผลิตและระบบการจัดการบริหารคุณภาพระดับมาตรฐานสากล CO-RED (โค-เรด) จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้รักและใส่ใจการดูแลสุขภาพ” สรรพคุณ 3 in 1 เพื่อควบคุมไขมันในเลือดรวมทั้งการดูแลหัวใจและหลอดเลือด ควบคุมไขมันในเลือด โคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันเลว(LDL) เสริมพลังการทำงานของหัวใจ ด้วย Coenzyme Q 10 กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ป้องกันการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ด้วยสารสกัดอาหารสมุนไพรที่มีการใช้กันมายาวนานและมีความปลอดภัยสูง  ทำไมต้อง CO-RED อะไรคือความแตกต่าง? สรรพคุณ 3 in 1 เพื่อควบคุมไขมันในเลือดรวมทั้งการดูแลหัวใจและหลอดเลือด ควบคุมไขมันในเลือด โคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันเลว(LDL) เสริมพลังการทำงานของหัวใจ ด้วย Coenzyme Q 10 กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ป้องกันการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ด้วยสารสกัดอาหารสมุนไพรที่มีการใช้กันมายาวนานและมีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงต่อตับและไต หรือการอักเสบของกล้ามเนื้อ สามารถใช้ในการควบคุมไขมันในเลือด แทนยากลุ่มStatin ในผู้ป่วยที่มีผลข้างเคียงจากยา ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคสมองเสื่อม มีผลการวิจัยทางการแพทย์และประสบการณ์ในทางคลินิกยืนยันได้ผลจริง ใช้สารสกัดคุณภาพ ทันสมัย ปลอดภัย มาตรฐานยุโรปและตามข้อกำหนดของคณะกรรมการอาหารและยาของไทย ควบคุมการผลิตโดยโรงงานมาตรฐานของไทยที่ผลิตสินค้าให้ต่างประเทศ ผ่านการรับรองให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจาก อย. ของประเทศไทย มีส่วนผสมอาหารสมุนไพรจีนสกัดที่ป้องกันการเกาะตัวของเลือด กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและช่วยระบบย่อยอาหาร เลือก Red yeast rice คุณภาพในกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานส่งออกยุโรป มีส่วนผสม Coenzyme Q 10 ในผลิตภัณฑ์ ควบคุมตรวจสอบระดับปริมาณ Citrinin และเชื้อราปนเปื้อนตามมาตรฐานสากล ข้อควรระวังในการบริโภค CO-RED 1. ผู้ป่วยโรคตับ2. ผู้ป่วยโรคไต3. สตรีตั้งครรภ์ สตรีระหว่างให้นมบุตร4. ห้ามรับประทานร่วมกับยาลดไขมันกลุ่ม Statin ยาต้านเชื้อรา ยากดภูมิคุ้มกัน ยารักษาโรคเอดส์5. คนที่แพ้เชื้อรา ใครบ้างที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ CO-RED   ผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูง รับประทานยาเคมีแล้วมีผลข้างเคียง   ผู้ป่วยที่ต้องการลดไขมันด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ   คนที่ต้องการดูแลหลอดเลือดให้สะอาด แข็งแรง ยืดหยุ่น   คนที่ต้องการป้องกันภาวะสมองเสื่อม โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง มีอะไรใน CO-RED Red Yeast …

ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อการดูแลหัวใจและหลอดเลือด Read More »

ิวิธีบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร

ระบบการทำงานที่สมดุลของอวัยวะภายใน ถือเป็นปัจจัยหลักของการมีสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งทางการแพทย์แผนจีนได้ให้ความสำคัญต่อม้ามและกระเพาะอาหารเป็นอย่างมาก โดยเชื่อว่า หลังการกำเนิดของมนุษย์ ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารมาหล่อเลี้ยงเพื่อให้เจริญเติบโตและดำรงชีวิต กระเพาะอาหารจะทำหน้าที่รับและย่อยอาหารจนได้สารจำเป็นในการหล่อเลี้ยงร่างกาย และม้ามจะทำหน้าที่ลำเลียงสารเหล่านี้ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ม้ามจึงถูกจัดเป็นแหล่งสร้างสารจำเป็นและต้นกำเนิดของแรงขับเคลื่อนชีวิต ดังโบราณกล่าว “ม้ามและกระเพาะอาหารเป็นรากฐานของชีวิตหลังกำเนิด” ด้วยเหตุนี้การดูแลม้ามและกระเพาะอาหารจึงจัดเป็นวิธีการดูแลสุขภาพที่สำคัญวิธีหนึ่ง ซึ่งสามารถกระทำได้ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้ 1. การบริโภคอย่างถูกสุขลักษณะ กล่าวคือการรับประทานอาหารเป็นเวลาและในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณที่รับประทานควรอยู่ในระดับ 8 ใน 10 ส่วนจากปริมาณที่รู้สึกอิ่ม (อิ่ม 8 ใน10 ส่วน) การทำเช่นนี้จะกระตุ้นให้มีความหิวหรืออยากอาหารในมื้อต่อไป ซึ่งส่งผลต่อการกระตุ้นระบบการย่อยและดูดซึม สำหรับผู้สูงอายุควรทานอาหารในปริมาณที่น้อย แบ่งทานอาหารเป็นหลายมื้อ เพื่อลดภาระการทำงานของกระเพาะอาหารในการย่อย และทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ อีกทั้งไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด ควรรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ได้รับกากใยอาหารที่เพียงพอ โดยกากใยเหล่านี้จะส่งผลให้การขับถ่ายดีขึ้น ป้องกันการท้องผูก สำหรับผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหวาน ของมัน ของทอด รสเค็ม ควรทานอาหารที่ย่อยง่าย ปรุงสุก และร้อน (อุ่น) เป็นต้น สูตรอาหารที่แนะนำในการบำรุงกระเพาะอาหาร คือข้าวฟ่าง 100 กรัม, ฟักทอง 100 กรัม, พุทราจีน 10 …

ิวิธีบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร Read More »