เคล็ดลับสุขภาพ

ทัศนะแพทย์แผนจีน ต่อการนอนหลับ

เวลากลางวัน เป็นหยาง ระบบประสาทส่วนกลาง จะถูกกระตุ้นให้มีความตื่นตัว หลังเที่ยงวัน พลังหยางของธรรมชาติจะค่อยๆ ลดลงจนถึงเที่ยงคืน ภาวะความตื่นตัวของระบบประสาทส่วนกลางค่อยๆ อ่อนล้าหรือลดลง การทำงานของคนเราควรจะต้องให้สอดคล้องกับสภาพธรรมชาติ และสภาพของ “นาฬิกาชีวิต” ของร่างกาย เวลากลางคืน เป็นยิน ระบบประสาทส่วนกลางควรอยู่ในสภาพสงบและพัก เพื่อขจัดความเมื่อยล้าจากการทำงาน การเคลื่อนไหวของร่างกาย จิตใจ ตลอดวันที่ผ่านมา การนอนหลับจึงเป็นวิธีการพักผ่อนตามธรรมชาติที่ดีที่สุด ถ้าการนอนหลับเพียงพอ หลับสนิท และเป็นการหลับตอนกลางคืนในช่วงเวลาที่เหมาะสมก็จะทำให้ร่างกายมีการฟื้นตัวได้ดีที่สุด เมื่อตื่นนอนตอนเช้าก็จะมีความสดชื่น มีสภาพร่างกาย สภาพของสมองที่พร้อมจะทำงานให้เกิดประสิทธิภาพดีที่สุด ปัญหาจะเกิดขึ้นมากมาย เมื่อร่างกายและสมอง ไม่สามารถพักผ่อน และฟื้นฟูสภาพได้จากภาวะการนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หรือหลับไม่พอ ร่างกายคนเรามีระบบการทำงานของร่างกายที่มีกฎเกณฑ์ เพื่อดำรงไว้ซึ่งระบบสมดุล กฎเกณฑ์เหล่านี้เปรียบเสมือน “นาฬิกาชีวิต” การเคลื่อนไหวของมันเป็นไปตามวิถีการหมุนรอบตัวเองของโลก การเข้าใจกฎเกณฑ์ของ “นาฬิกาชีวิต” เป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติรอบตัว นำมาซึ่งสุขภาพที่ดี อายุยืนยาว การปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ตัวอย่างกฎเกณฑ์ทางสรีระของร่างกาย เช่น ความดันของหัวใจ ประมาณ 72 ครั้ง/นาที การหายใจ ประมาณ 16 ครั้ง/นาที อุณหภูมิของร่างกาย ช่วงเช้าต่ำกว่าช่วงค่ำ …

ทัศนะแพทย์แผนจีน ต่อการนอนหลับ Read More »

ขับเหงื่อ : ขับพิษ

ร่างกายของเราในยามปกติสุขก็มีพิษสะสมอยู่มาก พิษที่มีอยู่ในร่างกายได้มาหลายทางด้วยกัน เช่นจากอาหารที่กินเข้าไป อากาศที่หายใจ น้ำที่ดื่ม สิ่งแวดล้อม หรือเกิดจากกลไกการทำงานของร่างกายเอง ฟังดูแล้วน่าตกใจว่า เราจะอยู่ได้อย่างไร เมื่อพิษมีอยู่เต็มตัว แต่โชคดีธรรมชาติได้สร้างระบบการขับพิษแก่ร่างกาย เช่น การทำลายพิษของตับ การขับถ่ายทางอุจจาระ ขับปัสสาวะ การขับเหงื่อ การหายใจ เป็นต้น การขับพิษโดยเทคนิคการขับเหงื่อในทางศาสตร์แพทย์แผนจีนมีเนื้อหาที่น่าสนใจ การขับเหงื่อเป็นการขับพิษที่เข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังทำให้เลือดพลังในเส้นลมปราณไหลคล่อง เพิ่มการไหลเวียนเลือดส่วนผิว ทำให้สารพิษจากร่างกายขับออกได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เป็นการป้องกันโรคและเป็นการขจัดปัจจัยก่อโรค โดยเฉพาะความเย็น ลม ความชื้น ที่กระทบจากภายนอก ประโยชน์ของการขับพิษทางเหงื่อ 1. ช่วยขจัดพิษที่สะสมในร่างกาย เวลาอาบน้ำ ถูขี้ไคล จะพบว่าคราบขี้ไคล เกิดจากเหงื่อกับเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมตายหลุดลอก หรือกลิ่นตัวที่หมักหมม เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปร่วมทำปฏิกิริยาด้วยคนที่เป็นโรคไตที่การขับของเสียทางไตลดลง ต้องหันมาสนใจหรือใช้การขับเหงื่อช่วยอีกทางหนึ่ง 2. การขับปัจจัยก่อโรค เสียชี่ ที่อยู่ระดับผิว แพทย์แผนจีนใช้การขับเหงื่อเป็นการทะลวงขับการถูกโจมตี และการคั่งค้างของเสียชี่จากภายนอก ที่ทำให้เกิดอาการกลัวหนาว ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว เนื่องจากการกระทบลมเย็น ลมร้อน หรือลมชื้น เช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบัน การกินยาพาราเซตามอล หรือยาแอสไพริน ทำให้ขับเหงื่อ …

ขับเหงื่อ : ขับพิษ Read More »

เทคนิค “อาบน้ำ” เพื่อสุขภาพ

การอาบน้ำชำระร่างกาย มีความละเอียด มีมุมมอง และเทคนิคต่างๆ มากมาย ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์จากน้ำเพื่อผลในการกระตุ้นร่างกาย ฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย เช่น การใช้ธาราบำบัด แพทย์แผนจีนได้กล่าวถึงศาสตร์ของการอาบน้ำอุ่นและอาบน้ำเย็นเพื่อสุขภาพไว้ ดังนี้ น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน (หยาง) ให้ความอบอุ่นกับร่างกาย เพิ่ม ฟื้นฟู และพยุงพลังหยาง ทำให้เลือดและพลังลมปราณเคลื่อนไหวได้ดี ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความเย็น ความชื้น ลม โรคเกี่ยวกับเอ็นหรือกระดูก ปวดตามข้อ ตะคริว นอนไม่หลับ ท้องเสียเรื้อรัง อาการหนาวเย็นบริเวณช่องท้อง หน้าอก น้ำเย็น (ยิน) ระงับความร้อนอุดกั้น ลดการเจ็บปวดเนื่องจากการอักเสบ ช่วยให้ก้อนเลือดหดตัว ลดการบวม ทำให้เลือดไหลเวียนดี รักษาอาการร้อนคลุ้มคลั่ง โรคความดันเลือดสูง แผลอักเสบจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ลดการปวดเอ็นกล้ามเนื้อ และกระดูกที่มีการอักเสบร้อน นอกจากนั้น หากใช้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นสลับกัน จะเป็นการฝึกฝนการปรับตัวของระบบประสาทอัตโนมัติ ทั้งด้านกระตุ้น (ซิมพาเทติก) และยับยั้ง (พาราซิมพาเทติก) เพื่อให้มีการปรับสมดุลของยินและหยางนั่นเอง  คุณสมบัติของน้ำมีทั้งมีแรงดันและมีแรงลอยตัวเมื่อเราลง ไปแช่ในน้ำ จะมีความรู้สึกถูกบีบรัดรอบตัวบริเวณทรวงอก ช่องท้อง แขน ขา …

เทคนิค “อาบน้ำ” เพื่อสุขภาพ Read More »

อาหารแสลง อาหารต้องห้าม

เรามักได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดถึงข้อห้ามมากมายเกี่ยวกับการกินและข้อควรปฏิบัติ เช่น คนที่ร้อนในง่ายห้ามกินของร้อน (คุณสมบัติหยาง) ของทอดๆ มันๆ ของเผ็ด เช่น – กินทุเรียนแล้วห้ามกินเหล้า – กินทุเรียนแล้วควรกินมังคุดหรือกินน้ำเกลือตาม – กินลำไยมากระวังตาจะแฉะ – เวลาเริ่มเป็นหวัด เจ็บคอ ควรกินพวกยาขม – เวลาร้อนใน ให้กินน้ำจับเลี้ยง หรือกินน้ำเก๊กฮวย – หญิงปวดประจำเดือนห้ามกินของเย็น (ลักษณะยิน) เช่น แตงโม น้ำมะพร้าว – คนที่กินยาบำรุงจีน ห้ามกินผักกาดขาว หัวไชเท่า ฯลฯ เพราะจะล้างยา (ทำไมฤทธิ์ของยาน้อยลง) ฯลฯ คำกล่าวเหล่านี้ก็มีในทัศนะทางการแพทย์แผนจีนมาจากพื้นฐานที่ว่า “อาหารคือยา อาหารและยามีแหล่งที่มาเดียวกัน” การเลือกกินอาหารให้เหมาะสมเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องประยุกต์เปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับภาวะที่เป็นจริงของบุคคล เงื่อนไขของเวลา และสภาพภูมิประเทศ (สิ่งแวดล้อม) จึงจะเกิดผลที่ดีต่อสุขภาพ ในแง่ของคนไข้ การเลือกกินอาหารให้เหมาะสม จะทำให้โรคร้ายทุเลาลง ช่วยเสริมการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย ในทางกลับกันการเลือกอาหารไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ย่อมทำให้โรคร้ายรุนแรง กำเริบและบั่นทอนสุขภาพมากขึ้น อาหารแสลงหรืออาการต้องห้าม ในความหมายที่กว้าง หมายถึง 1. การกินอาหารที่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป …

อาหารแสลง อาหารต้องห้าม Read More »

พยากรณ์ร่างกายได้จาก “นิ้ว”

ดังที่เคยได้กล่าวแล้วว่าร่างกายของมนุษย์เป็นองค์รวมที่เป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่ออวัยวะหนึ่งอวัยวะใดเกิดโรค ก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งระบบ ด้วยเหตุนี้การดูลักษณะของนิ้วมือจึงสามารถบอกความแข็งแรงของอวัยวะได้ 1. หัวแม่มือ  นิ้วมือทั้ง 5 นั้น นิ้วหัวแม่มือทางการแพทย์จีนถือว่าเป็นนิ้วที่สำคัญที่สุด ลักษณะของนิ้วหัวแม่มือสามารถคาดคะเนความแข็งแรงของร่างกายตั้งแต่กำเนิดและสมรรถนะของสมองได้ กล่าวโดยทั่วไปแล้ว คนที่ร่างกายแข็งแรงนิ้วหัวแม่มือค่อนข้างกลม ยาว และแข็งแรง ความยาวของข้อนิ้วสม่ำเสมอ ถ้านิ้วหัวแม่มือหยาบและใหญ่มักเป็นผู้ที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ถ้านิ้วหัวแม่มือแบนเรียบและอ่อน มักเป็นผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอไม่ค่อยมีความอดทน ถ้านิ้วหัวแม่มือคดงอมักมีอาการทางประสาท ถ้านิ้วหัวแม่มือสั้นและเล็กจิตใจมักไม่มั่นคนเป็นคนขี้ขลาด ความมุ่งมั่นน้อย การแก้ไขคือควรได้รับการหล่อหลอมจากสังคม เพื่อให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ถ้าลายเส้นบนนิ้วข้อพับข้อที่สองของนิ้วหัวแม่มือยุ่งเหยิง และด้านข้างของข้อนิ้วที่สองมีเส้นยุ่งแสดงว่าเป็นผู้ที่เครียดง่าย มีโอกาสเป็นโรคปวดหัวและนอนไม่หลับได้ง่าย ถ้าข้อนิ้วหัวแม่มือสั้นและแข็ง งอลำบาก จะเป็นโรคความดันโลหิต โรคหัวใจ และอัมพาตได้ง่าย 2. นิ้วชี้  นิ้วชี้ที่มีลักษณะดีคือค่อนข้างกลม สวย และแข็งแรง ข้อนิ้วมีความยาวใกล้เคียงกัน ข้อล่างจะสั้นกว่าข้อบนเล็กน้อย นิ้วตรง ถ้าชิดกันนิ้วจะแนบสนิทกับนิ้วกลางแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะที่ดีของตับและถุงน้ำดีถ้าข้อนิ้วข้อแรกของนิ้วชี้ยาวเกินไป มักเป็นผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรง แต่ถ้าข้อนิ้วข้อที่สองหยาบ แสดงว่าการดูดซึมของธาตุแคลเซียมไม่ดี กระดูกและฟันไม่แข็งแรง ถ้านิ้วข้อที่สามสั้นเกินไป มักเป็นผู้ที่ป่วยเป็นโรคทางด้านประสาทได้ง่าย ถ้านิ้วชี้ซีดและผอมแสดงว่าสมรรถนะของตับและถุงน้ำดีไม่ดี เป็นผู้ที่อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่กระฉับกระเฉง แต่ถ้าปลายนิ้วเอียง ลายเส้นบนข้อพับของข้อนิ้วกลางยุ่งมักเป็นผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับตับ ถุงน้ำดี และโรคดังกล่าวก็จะส่งผลกระทบต่อระบบย่อยลำเลียง …

พยากรณ์ร่างกายได้จาก “นิ้ว” Read More »

อาหารกับยาสมุนไพร เพื่อสุขภาพ

เราคุ้นเคยเกี่ยวกับการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ คือ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน เกลือแร่ และวิตามิน ในปริมาณและสัดส่วนที่พอเหมาะ เพื่อให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ ทัศนะเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ ที่จะพยายามวิเคราะห์แยกแยะส่วนประกอบระดับโมเลกุล ชีวเคมี ระดับพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต และเสริมสร้างสารที่จำเป็นในรูปแบบของสารอาหารประเภทต่างๆ  การแพทย์แผนจีนมีมุมมองอะไรที่แตกต่างไปจากนี้ “อาหารและยามีที่มาเดียวกัน” อาหารและยามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ยาจำนวนมาก ค้นพบโดยบังเอิญในขณะที่เสาะหาอาหารเพื่อการยังชีพ อาหารบางชนิดเมื่อผ่านการกินยามาระยะหนึ่ง ทำให้รู้ว่ามีคุณสมบัติทางยาในการรักษาโรค ตำรับอาหารจีนจำนวนมากมักมีสมุนไพรร่วมอยู่ด้วย พร้อมทั้งบรรยายสรรพคุณในการรักษาโรค ตัวอย่าง อาหารสมุนไพรจะพบได้ตามร้านอาหารและภัตตาหารอาหารและยาถือว่ามีคุณลักษณะที่เหมือนกัน คือ มีคุณสมบัติทั้ง 4 และมีรสทั้ง 5 คุณสมบัติทั้ง 4 เช่นเดียวกับฤดูกาล คือ เย็น สุขุม (ค่อนข้างเย็น) ร้อน อุ่น คุณสมบัติทั้ง 4 นำมาประยุกต์ในการรักษาโรคอย่างไร การแพทย์จีนอาศัยยาหรืออาหารที่มีคุณสมบัติเย็น สุขุม (ค่อนข้างเย็น) ไปรักษาโรคที่มีลักษณะร้อน(หยาง) และใช้อาหารที่มีคุณสมบัติ ร้อน อุ่น ไปรักษาโรคที่มีลักษณะเย็น(ยิน) รสทั้ง 5 ของอาหาร …

อาหารกับยาสมุนไพร เพื่อสุขภาพ Read More »

“ความฝัน” บ่งบอกสุขภาพได้จริงหรือ?

แพทย์แผนจีน ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับการฝันของคนอย่างน่าสนใจ กล่าวคือ หัวใจเป็นที่พักของสติ ความรู้สึกนึกคิด ในตอนกลางคืนสติและความรู้สึกนึกคิดจะกลับเข้าสู่ หัวใจเพื่อการเลี้ยงบำรุงจากเลือดของหัวใจ จะทำให้เกิดการนอนหลับ แต่ถ้าภาวะของจิตใจว้าวุ่น แปรปรวนมาก สติและความรู้สึกนึกคิดจะไม่กลับมาพักและรับการบำรุงเลี้ยง ทำให้ระบบประสาทตื่นตัวอยู่ มีการฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาจากการที่ ไม่ได้รับการหล่อเลี้ยงของเลือดจากหัวใจ ทำให้ขาดความสดชื่น พลังสติปัญญาอ่อนล้า รู้สึกอ่อนเปลี้ย ลักษณะเนื้อหาของการฝันก็พอจะบ่งบอกถึงความผิดปกติของอวัยวะภายในได้ด้วย กล่าวคือ – คนที่พลังของหัวใจอ่อนแอ มักจะฝันเกี่ยวกับเรื่องเศร้าโศก ฝันเป็นความทุกข์โศก – คนที่ไฟหัวใจแกร่ง มักจะ ฝันเกี่ยวกับเรื่องตื่นเต้น ผจญภัยสนุกสนาน – คนที่ตับ ถุงน้ำดีพร่อง มักจะฝันเกี่ยวกับเรื่องน่ากลัว – คนที่ไฟตับแกร่ง อารมณ์ โมโหง่าย มักจะฝันเกี่ยวกับสิ่งเลวร้าย ฝันร้ายบ่อยๆ – คนที่ไตพร่อง มักฝันเกี่ยวกับทางเพศ ซึ่งอาจจะมีอาการฝันเปียกร่วมด้วย – คนที่ม้ามพร่อง มักฝันถึงการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือทัศนะคติทางด้านลบ – ภาวะของร่างกายสิ่งแวดล้อม มีผลต่อการฝัน เช่น ถ้ากินอาหารเสียอิ่มแป้ แล้วนอนหลับ อาจทำให้ฝันว่ากินมากดื่มมาก – ถ้าท้องหิวมากแล้วนอนหลับ อาจทำให้ฝันว่าอดอยาก หิวโหย – ถ้าห่มผ้าบางเกินไป ในขณะนอนหลับ และมีอากาศหนาวเย็น อาจทำให้ฝันว่าตกน้ำ …

“ความฝัน” บ่งบอกสุขภาพได้จริงหรือ? Read More »

กินอย่างไร ให้มีผลต่อสุขภาพ

โบราณกล่าวว่า “โรคเกิดจากช่องทวารปาก” ซึ่งมีความหมายหลายนัยด้วยกัน 1. กินอาหารที่ไม่สะอาดอาหารที่ไม่สะอาดทำให้มีเชื้อโรค พยาธิ สารพิษ เข้าสู่ร่างกาย เกิดอาการปวดท้องแน่นท้อง อาเจียน เป็นบิด มีพยาธิ อาหารที่เน่าเหม็น ทำให้เกิดการหมักหมม มีพิษสะสม เกิดอาการต่างๆ ตามมามากมาย 2. เวลาและปริมาณที่กินไม่เหมาะสมหลักการเลือกปริมาณการกิน คือ หลักที่ว่าไม่ควรให้หิวจัดหรืออิ่มจัด และ “อาหารเช้าต้องดี อาหารเที่ยงต้องอิ่ม อาหารเย็นต้องน้อย” ปริมาณมื้อเช้าร้อยละ ๓๕ มื้อเที่ยงร้อยละ ๔๐ มื้อเย็นร้อยละ ๒๕ โบราณกล่าวว่า “มื้อเย็นลดน้อยหน่อย ชีวิตยืนยาวถึงเก้าสิบ” เป็นการเน้นถึงปริมาณอาหารมื้อเย็น ควรอยู่ในปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับมื้ออื่น เพื่อลดการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ป้องกันการตกค้างของอาหารในกระเพาะอาหาร ลำไส้ ป้องกันภาวะอ้วน ป้องกันการนอนหลับไม่สนิท ลดการรบกวนภาวะพักผ่อนฟื้นฟูของร่างกาย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการบำรุง ดูแลสุขภาพ เพื่อให้เกิดอายุยืนยาว นอกจากนี้หลังอาหารใหม่ๆ ไม่ควรนอนหลับทันที แพทย์แผนจีนถือว่า ถ้าภาวะอาหารในกระเพาะอาหารยังมีอยู่จะรบกวนการนอนหลับ ด้านกลับกัน การนอนหลับก็เป็นการทำให้ระบบย่อยทำงานน้อยลง (อยู่ในภาวะพักฟื้นฟู) ผลทำให้อาหารตกค้าง ไม่ดูดซึม เกิดความร้อนในร่างกายไปรบกวนการนอนหลับทำให้หลับไม่สนิทอีกจึงมีคำกล่าวว่า “หลังอาหารเดินร้อยก้าว บรรลุเก้าสิบเก้าอายุขัย” เพื่อต้องการให้มีการเคลื่อนไหวเบาๆ ในทางวิทยาศาสตร์ เราพบว่า การเดินหลังอาหารเย็นจะช่วยลดปริมาณฮอร์โมนอินซูลินในกระแสเลือดที่หลั่งมากในตอนเย็น (อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากตับอ่อน ถ้ามีมากจะทำให้มีการแปรเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกายทำให้อ้วน) …

กินอย่างไร ให้มีผลต่อสุขภาพ Read More »

สมุนไพรจีนกับสารสกัดจากสมุนไพร ต่างกันอย่างไร?

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการใช้สมุนไพร หรืออาหารเสริมสุขภาพ ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ไม่มีพิษภัยใดๆ แต่แท้จริงแล้ว ยาในทัศนะแพทย์จีนล้วนมีพิษทั้งสิ้น ในคัมภีร์ “หวงตี้เน่ยจิง” ได้กล่าวถึงบทบาทของยาและอาหารในการรักษาโรคไว้อย่างชัดเจน  ยาสมุนไพรก็มีพิษกระบวนการของการเกิดโรค บางโรคกว่าจะแสดงอาการใช้เวลานานค่อยๆ สะสมทางปริมาณจนถึงจุดเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพ แต่บางโรคเกิดขึ้นทันที  ส่วนยาที่ใช้รักษาก็มีทั้งยาตำรับใหญ่  ตำรับเล็ก  มีพิษและไม่มีพิษ จึงต้องวิเคราะห์ให้ถ่องแท้ยาที่มีพิษมากใช้รักษาโรค ๑๐ ส่วน สามารถขจัดโรคได้แค่ ๖ยาที่มีพิษธรรมดาใช้รักษาโรค ๑๐ ส่วน สามารถขจัดโรคได้แค่ ๗ยาที่มีพิษน้อยใช้รักษาโรค ๑๐ ส่วน สามารถขจัดโรคได้แค่ ๘ยาที่ไม่มีพิษใช้รักษาโรค ๑๐ ส่วน สามารถขจัดโรคได้แค่ ๙แต่การกินอาหารบางประเภท เช่น ธัญพืช เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ เพื่อดูแลสุขภาพสามารถขจัดโรคได้ทั้งหมด สรุปก็คือ ขึ้นชื่อว่ายาแล้ว ล้วนมีพิษ การกินอาหารตามใจตัวเองก็อาจจะกลายเป็นพิษได้เช่นกัน  ควรใช้อาหารเพื่อช่วยในการรักษาโรค แต่เมื่อไม่ได้ผลจึงค่อยคิดถึงการใช้ยายาที่มีพิษด้านหนึ่งรักษาโรค แต่ก็มีผลกระทบต่อร่างกาย จึงไม่สามารถกำจัดโรคได้อย่างสิ้นเชิง ต้องกินอาหารที่เหมาะสมเสริมเข้าไปเพื่อสร้างสมดุลภายในร่างกาย ศาสตร์ของแพทย์แผนจีนให้ความสำคัญต่ออาหารเป็นอย่างมาก เพราะอาหารบางอย่างในบางเงื่อนไขก็คือยาพิษ ที่สามารถทำลายร่างกายหรือทำให้โรครุนแรงขึ้นได้เช่นกัน  อาหารอย่างดีก็เป็นพิษ มีเรื่องเล่ากันว่า ในสมัยราชวงศ์หมิง กษัตริย์จูหยวนจางได้ทำการหาเหตุฆ่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และครอบครัว ๙ …

สมุนไพรจีนกับสารสกัดจากสมุนไพร ต่างกันอย่างไร? Read More »

การนอนหลับ วิธีบำรุงรักษาพลังหยางที่ดีที่สุด

พลังหยาง (阳气) คือพลังของชีวิต ในวัยเด็กพลังหยางค่อยๆ สะสมตัว เด็กเจริญเติบโตมีพละกำลังคล่องแคล่วว่องไว ไม่เหนื่อยง่าย จนพลังหยางสูงสุดในวัยหนุ่มสาว และเข้าสู่วัยกลางคน พลังหยางก็เริ่มถดถอยลดน้อยลง ร่างกายก็ไม่กระฉับกระเฉง ความคิดอ่าน ความจำ ความว่องไวทางประสาท สมอง ก็ลดลงเรื่อยๆ ถึงวัยชราภาพ พลังหยางน้อยลงไปอีกและหมดไปในที่สุดพร้อมกับการดับลงของชีวิต เป็นวัฏจักรของการเกิด พัฒนา เสื่อมถอย และการตาย การบำรุงพลังหยางจึงมีความสำคัญต่อชีวิต เพราะเป็นตัวกำหนดการเกิด พัฒนาและการเสื่อมถอยของร่างกาย ยังรวมถึงโอกาสการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ของร่างกายและจิตใจด้วยแต่ก่อนจะไปศึกษาค้นคว้าหาสิ่งภายนอกมาบำรุงรักษาพลังหยาง ควรกลับมาพิจารณาวิธีการที่เป็นธรรมชาติและประหยัดที่สุด ที่เราสามารถกำหนดและปฏิบัติได้เอง คือ การนอนหลับช่วงเวลาจื่อสือ (子时觉) ระหว่างเวลา 23.00 – 01.00 น. การเกิดของพลังหยาง เริ่มต้นที่เวลา 23.00 – 01.00 น.ช่วงพลังลมปราณไหลผ่านเส้นลมปราณถุงน้ำดีกลางคืนพลังยินมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเที่ยงคืน ระหว่างเวลา 23.00 – 01.00 น. คือช่วงเปลี่ยนผ่านจากพลังยินสูงสุด และการก่อเกิดพลังหยาง พลังหยางจะเก็บสะสมได้มากในภาวะที่สงบที่สุด การตื่นนอนหรือยังไม่หลับ เป็นการใช้พลังหยางทำให้การเกิดสะสมตัวของพลังหยางถูกรบกวน ไม่สามารถสะสมได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหมายถึงสต็อกพลังหยางที่จะถูกนำไปใช้ในวันใหม่จะน้อยลง ส่งผลเสียต่อการทำงานในช่วงกลางวันของวันใหม่ ทำให้เหนื่อยง่าย ง่วงนอน …

การนอนหลับ วิธีบำรุงรักษาพลังหยางที่ดีที่สุด Read More »

เกลือจิ้มเกลือ อารมณ์ควบคุมอารมณ์

ในทางการแพทย์สมัยใหม่เชื่อว่า การตอบสนองของอารมณ์ เป็นปรากฏการณ์ชั่วขณะที่เกิดขึ้นจากระบบประสาท และสามารถถูกแทนที่ด้วยอารมณ์อื่นได้ นี่คือหลักเบื้องต้นที่มาของเทคนิคการใช้อารมณ์พิชิตอารมณ์ เป็นการสร้างสมดุลของอารมณ์ที่เกิดจากภาวะมากเกินไป นำไปสู่การเสียสมดุลของปัญจธาตุต่างๆของร่างกาย ตำราคัมภีร์ซู่เวิ่นของจีน มีข้อความกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ความเศร้าโศกเสียใจ ควบคุม ความโกรธ” “ความดีใจ ควบคุม ความเศร้าโศกเสียใจ” “ความวิตกกังวล ควบคุม ความกลัว, ตกใจ” “ความโกรธ ควบคุม ความวิตกกังวล” “ความกลัว, ตกใจ ควบคุม ความดีใจ” ตำราอีฟางเข่า กล่าวว่า “โรคที่เกิดจากอารมณ์ที่ไม่สามารถรักษาด้วยยา จะต้องรักษาด้วยอารมณ์ ความคิด เหตุผล และความเข้าใจ รากเหง้าของปัญหา” หลักการใช้อารมณ์ควบคุมอารมณ์ 1. เสริมสร้างความคิดสุขนิยม มองโลกในแง่ดี ความคิดสุขนิยมและการมองโลกในแง่ดี เป็นพื้นฐานของการเสริมสร้างความมั่นใจในการเอาชนะ โรคภัยไข้เจ็บ และการเอาชนะกับอุปสรรคทั้งปวง จิตที่สงบเป็นโอสถ ตำรับที่หาที่เปรียบไม่ได้ ความเจ็บป่วยทางกายมีผลต่ออารมณ์ความคิดกังวลว่าจะไม่หาย ทำให้ตนเองเป็นภาระของครอบครัวของสังคม เกิดอารมณ์แปรปรวนหลายๆอารมณ์ ซึ่งจะไปบั่นทอน ความเจ็บป่วยทางกาย ทำให้โรคกำเริบมากขึ้น ภาวะจิตที่สงบ มองโลกในแง่ดี จะทำให้การไหลเวียนของพลังและเลือดลื่นไหล ไม่สะดุดหรือถูกอุดกั้น (แต่ไม่ใช่ไหลรุนแรงรวดเร็วเหมือนภาวะตื่นเต้นตกใจหรือโมโห) …

เกลือจิ้มเกลือ อารมณ์ควบคุมอารมณ์ Read More »

เรื่องราวของเก๋ากี้

คนไทย คนจีน มักคุ้นเคยกับสมุนไพร เก๋ากี้ หรือเก่าฉี่ (ภาษาจีนกลาง) เพราะใช้เป็นทั้งสมุนไพร หรือเป็นอาหารสมุนไพร ที่ใช้ประกอบอาหารสุขภาพ “เก๋ากี้” จัดเป็นยา อาหาร และสมุนไพรจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน อย่างน้อยสามพันปี มีบทกวีใน “ซือจิง” ที่เขียนเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวเก๋ากี้มาเป็นอาหาร มีบทบันทึกในคัมภีร์แพทย์จีนโบราณ “เสินหนงเปิ่นเฉ่าจิง” ได้จัดเก๋ากี้เป็นยาและอาหารเกรดสูง ปรามาจารย์ทางสมุนไพรจีน ซุนซือเหมียว ดื่มเหล้าดองเก๋ากี้ประจำทำให้อายุยืนยาว คัมภีร์ “ เสินหนงเปิ่นเฉ่าจิง ” ได้จัด เก๋ากี้เป็นอาหารเกรดสูง เพราะกินได้นานไม่มีพิษ และยังได้ กล่าวถึงสรรพคุณของสมุนไพรตัวนี้ไว้ว่า “เสริมความแข็งแรงของกระดูก ทำให้ไม่แก่ชรา ทนต่อความเย็น ความร้อน” คัมภีร์ “เปินเฉ่ากังมู่ ” ได้บันทึกสรรพคุณของเก๋ากี้ไว้ว่า “เก๋ากี้รับประทานนานทำให้กระดูกและเอ็นแข็งแรง ตัวจะเบา ไม่ชรา ตาสว่าง ทำให้นอนหลับดี ทำให้อายุยืนจึงมักพบสมุนไพรเก๋ากี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในยาอายุวัฒนะในราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง สรรพคุณของสมุนไพร เก๋ากี้ 1. ช่วยรักษาสุขภาพทำให้อายุยืนยาว คัมภีร์ “เสินหนงเปิ่นเฉ่าจิ่ง” จัดเก๋ากี้เป็นอาหารและสมุนไพร …

เรื่องราวของเก๋ากี้ Read More »

หลอดลมอักเสบเรื้อรัง

ปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ซึ่งจะเป็นมากในฤดูฝนและฤดูหนาวสาเหตุที่เกิดยังไม่ชัดเจน แต่คนที่สูบบุหรี่จัดจะเป็นมาก เมื่อเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง จะทำให้ผิวหลอดลมและหลอดลมฝอย มีการบวมหนามีการหลั่งเมือกหรือเสมหะออกมามากกว่าปกติ มีผลให้หลอดลม มีลักษณะตีบแคบลงทำให้ลมหายใจเข้า-ออกได้ยากลำบาก ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการไอและมีเสลดติดต่อกันนานกว่า ๖ เดือนขึ้นไป หรือเป็นอย่างน้อย ปีละ ๓ เดือนติดต่อกัน ๒ ปีขึ้นไป ถ้าเป็นมากๆ จะไอถี่ เสลดจะเป็นสีขาว เหลือง เขียว บางครั้งมีไข้ หรือเลือดปน ถ้าเป็นนานๆ ก็จะเป็นหอบ เหนื่อย ร่วมด้วย หรือร่วมกับถุงลมพอง โรคหัวใจ การแพทย์แผนปัจจุบัน การรักษามักจะใช้ยาละลายเสมหะ ยาแก้ไอ ยาขยายหลอดลม ให้กินระยะ ยาวๆ ถ้าเป็นมากๆ ใช้ยาปฏิชีวนะยาภูมิแพ้ บางครั้งอาจใช้พวกกลุ่ม ยาสตีรอยด์ (steroid) ซึ่งการใช้ยาประเภทนี้นานๆ ก็มักจะมีผลข้างเคียง ที่เราไม่ต้องการเกิดขึ้นมากกว่าผล ที่ได้รับ เนื่องจากผู้ป่วยประเภทนี้เป็น โรคเรื้อรังเป็นแล้วเป็นอีกซ้ำๆ ซากๆ เวลาไปพบแพทย์ได้ยามากินก็หายหยุดก็เป็นอีก บางคนเป็นมาก ได้รับ ยาแล้วก็ทนผลข้างเคียงของยาไม่ไหว พอนานๆ เข้าก็เกิดความท้อแท้ เบื่อหน่าย …

หลอดลมอักเสบเรื้อรัง Read More »

น้ำผึ้ง ตามศาสตร์แพทย์จีน

หลี่สือเจิน ได้บันทึกไว้ในคัมภีร์ชื่อ เปิ่น-เฉา-กัง-มู่ เกี่ยวกับคุณสมบัติของน้ำผึ้งทางด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรคไว้ว่า “น้ำผึ้ง มีสรรพคุณ 5 ประการ” กล่าวคือ1. ขับร้อน2. บำรุงส่วนกลาง (กระเพาะอาหารและม้าม)3. ขับพิษ รักษาแผล4. ทำให้ชุ่มชื่นลดความแห้งแก้ไอ5. แก้ปวด ฤทธิ์และรสกับการประยุกต์น้ำผึ้งมีรสหวาน คุณสมบัติหรือฤทธิ์เป็นกลาง วิ่งเส้นลมปราณปอด ม้าม ลำไส้ใหญ่เนื่องจากส่วนประกอบสำคัญร้อยละ 79 คือฟรักโทส และกลูโคส ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายทันที นอกจากนี้ยังมีกรดอะมิโน เอนไซม์หลายชนิด วิตามินบี และเกลือแร่ กรดกลูโคนิก ร้อยละ 0.5 ซึ่งทำให้มีรสเปรี้ยวอยู่ด้วยกัน สรรพคุณที่ระบุไว้ในตำราอาหารและยาจีน 1. บำรุงภาวะพร่องอ่อนแอ ผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรัง แผลกระเพาะอาหาร วัณโรคปอด ฯลฯ2. ลดความแห้งของปอด ทำให้ชุ่มชื่น เหมาะสำหรับอาการไอแห้งๆ ไม่มีเสมหะ ไอเรื้องรัง มักจะทำให้ชุ่มคอ อาจใช้ร่วมกับสมุนไพร ซาเซิน เซิงตี้3. ช่วยระบายทำให้อุจจาระนิ่ม เหมาะสำหรับคนสูงอายุ หญิงหลังคลอด ผู้ป่วยฟื้นจากโรคที่มีอาการท้องผูก4. มีฤทธิ์สมานแผล เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคแผลกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กอักเสบ ผู้ป่วยที่ระบบการย่อยอ่อนแอ …

น้ำผึ้ง ตามศาสตร์แพทย์จีน Read More »

หยางแท้ – ยินเทียม ร้อนแท้ – เย็นเทียม

“ดิฉันเป็นคนขี้หนาว แขนขาเย็น แต่ตัวร้อน ท้องผูก เป็นแผลร้อนในบ่อย ดิฉันเป็นโรคอะไรค่ะ”Ž“คนใกล้ชิดมักจะบอกว่า ผมมีกลิ่นปาก ผมไปหาหมอฟันแล้วหาสาเหตุไม่ได้ หมอจีนบอกว่าผมร้อนภายใน เพราะเป็นคนกระหายน้ำ ดื่มน้ำมาก หงุดหงิด ลิ้นและชีพจรก็บ่งบอก และให้ยาผมมากิน ปรากฏว่าดีขึ้นมาก”Ž อาการหลายๆ อาการที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์แผนจีน มักจะถูกรวบรวมเป็นกลุ่มอาการ ประสานกับการตรวจวินิจฉัยด้วยการมอง (ดู), ถาม, ดม-ฟัง และจับชีพจร-สัมผัส สรุปเป็นการวินิจฉัยแยกแยะภาวะของโรค เพื่อวางแผนการรักษา อาการต่างๆ ของผู้ป่วยข้างต้น 2 รายอาจจะมีรายละเอียดบางอย่างเหมือนกัน บางอย่างต่างกันบ้าง แต่บางครั้งสรุปว่า มีพื้นฐานของการเสียสมดุลคล้ายกัน การวางแนวการรักษาก็จะเป็นแนวเดียวกัน แต่มีรายละเอียดที่ต้องปรับวิธีการ หรือการใช้ยาจำเพาะแตกต่างกัน เรียกว่า การปรับลดตำรับยา1. ร้อนแท้ – เย็นเทียม มีอาการแสดงออกทางคลินิกที่สำคัญอย่างไร?– อาการ ที่ผู้ป่วยมาหาบ่อยๆ ได้แก่อาการแขนขาเย็น ตัวร้อน (ส่วนอกและท้อง)– อาการร่วมอื่นๆ ได้แก่ ไข้สูง กลัวความเย็น ใบหน้าไม่ค่อยมีชีวิตชีวา (บางรายหมดสติ) สีดำคล้ำในผู้ป่วยที่ไม่มีไข้สูง มักมีกลิ่นเหม็น ปากเหม็น กระหายน้ำ ดื่มน้ำมาก ท้องผูก อุจจาระแห้งเป็นก้อน …

หยางแท้ – ยินเทียม ร้อนแท้ – เย็นเทียม Read More »