ยาจีนน่ารู้

ทำไม? เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ถ้าพูดถึงสาเหตุของความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แพทย์แผนจีน มีความเชื่อว่า สารจิงของไต เป็นส่วนสำคัญในการเก็บพลังชีวิต ซึ่งมีความหมายถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรม การควบคุม การให้พลังงานของระบบต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างปกติ สารจิง (มีความหมายรวมถึงอสุจิด้วย) จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกใช้ไปอย่างพร่ำเพรื่อ ความเชื่ออันนี้นำไปสู่ความคิดในเรื่องการดูแลสุขภาพไม่ให้ไตเสื่อมเร็ว จะต้องถนอมไม่ให้มีการหลั่งอสุจิ ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งดี โดยที่แพทย์แผนปัจจุบันถือว่าไม่มีความจำเป็นต้องเก็บสามารถระบายขับออกตามที่ต้องการ เพราะจะระบายความเครียดในจิตใจได้ ร่างกายก็สร้างทดแทนได้อีก ในขณะที่การแพทย์แผนจีนถือว่าในคนหนุ่มแน่น อาจจะระบาย หลั่งสารจิงได้ เพราะมีภาวะที่ไตยังดี และเป็นการลดภาวะที่แกร่งเกินไป แต่ถ้าเสียสารจิงไปบ่อยๆมากเกินไปจะกลายเป็นผลเสีย โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นหรือยิ่งสูงอายุ จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยง (แต่ไม่ได้ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ เพียงแต่ต้องถนอม) การหลั่งสารจิง ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมีสาเหตุสำคัญ คือ 1. การลดลงของไฟมิ่งเหมินการมีเพศสัมพันธ์ที่มีการหลั่งสารจิง (น้ำอสุจิ) รวมถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองบ่อยครั้งเกินไปเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดการสูญเสียไฟของมิ่งเหมิน การทำงานของระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ การขับถ่าย การสืบพันธุ์ ล้วนอาศัย ไฟจากมิ่งเหมิน ถ้าสูญเสียไฟของมิ่งเหมิน ระบบการทำงานของร่างกายทั้งหมดจะลดลง ร่างกายจะเสื่อมถอยเร็วขึ้น และพลังของไตจะหมดไป 2. การเสื่อมถอยของหัวใจและระบบม้ามความเครียดกังวลและภาวะทางจิตใจมีผลต่ออวัยวะภายในหัวใจ ซึ่งในทัศนะของแพทย์แผนจีนจะหมายถึง ระบบประสาทส่วนกลางและสมองที่ควบคุมจิตอารมณ์ด้วย ความวิตกกังวลยังมีผลต่อระบบม้าม ระบบการย่อยอาหารและการดูดซึม ทำให้พลังงานที่ได้รับจากอาหารลดลง ผลคือ พร่องทั้งเลือดและพลัง 3. ความตกใจเกินไปทำลายพลังของไตบางคนเคยมีภาวะการตกใจจากประสบการณ์ในอดีตที่รุนแรง …

ทำไม? เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ Read More »

ไวรัสตับอักเสบ ในทัศนะแพทย์จีน

ตำราแพทย์จีนโบราณ ไม่มีเรื่องของตับอักเสบจากเชื้อไวรัส เพราะไม่สามารถแยกแยะสาเหตุว่าการอักเสบของตับมาจากเชื้อไวรัสชนิดใด นอกจากนี้ การเกิดปัญหาเกี่ยวกับโรคตับ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับตัวตับโดยตรงหรือโดยอ้อม เช่น การปวดแน่นชายโครง ภาวะตับอุดกั้น ตับร้อนทำให้หงุดหงิด ถุงน้ำดี ตับร้อนชื้น ก็จะถูกเกี่ยวโยงสัมพันธ์กันไปหมด โรคที่เกี่ยวกับตับจึงมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอาการ “ปวดชายโครง” “อารมณ์อุดกั้น”  “ภาวะร้อนชื้น”  “ภาวะก้อนของตับ” “ภาวะดีซ่าน” หน้าที่ของตับตามทรรศนะแพทย์แผนจีน1. ตับเก็บเลือด และควบคุมปริมาณเลือด2. ตับทำหน้าที่ระบายและปรับการไหลเวียนและพลัง3. ตับควบคุมอารมณ์และจิตใจ4. ตับขับเคลื่อนการไหลเวียนเลือด และพลัง และการลำเลียงน้ำในร่างกาย5. ตับเปิดทวารที่ตา หน้าที่ของตับที่สำคัญเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคตับอักเสบ คือ ภาวะการอุดกั้นของตับ ทำให้การไหลเวียนเลือดและพลังติดขัด ทำให้มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์และจิตใจ รวมถึงการทำงานของระบบม้ามและกระเพาะอาหาร (ไม้ข่มดิน-ตับแกร่งข่มม้าม) หรือในทางกลับกัน การหงุดหงิด จิตใจหดหู่ เครียด โมโห จะมีผลต่อการทำงานของตับโดยตรง เกิดพลังและเลือดอุดกั้น (สารพิษในร่างกายมาก ตับทำหน้าที่ขับพิษได้น้อยลง ตับทำหน้าที่มากขึ้น) ระบบการย่อยอาหารที่สะสมความร้อนชื้นมากจะมีผลต่อความร้อนชื้นของระบบตับ-ถุงน้ำดีได้ การที่เกิดความร้อนชื้น หรือพลังอุดกั้นจากอารมณ์นานๆ จะทำให้เกิดก้อนหรือการอักเสบภายในตับได้ เพราะเกิดความร้อนและการไหลเวียนติดขัดเกิดเลือดคั่งค้าง การแบ่งไวรัสตับอักเสบตามทัศนะแพทย์แผนจีน1. ชนิดเฉียบพลัน – แบบมีภาวะดีซ่าน คือมีตัวเหลือง ตาเหลือง …

ไวรัสตับอักเสบ ในทัศนะแพทย์จีน Read More »

ยาบำรุงเซ็กซ์ ส่วนหนึ่งของยาบำรุงหยาง

ยังคงมีการกล่าวถึงกันอยู่เสมอ สำหรับเรื่องของ ยาชะลอความแก่ ยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศ โดยการกล่าวถึงเขากวางอ่อน ซึ่งมีฤทธิ์ กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนทางเพศ และทำให้ร่างกายแก่ตัวช้าลง กระปรี้กระเปร่า ในทัศนะแพทย์จีนเรื่องเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับระบบไตยิน ไตหยางที่ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ การเจริญเติบโต การเสื่อมถอยของร่างกาย ซึ่งครอบคลุมถึงระบบฮอร์โมนต่างๆ เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ ต่อมเพศ ต่อมหมวกไต รวมถึงระบบประสาทอัตโนมัติ (autonome nervous system) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับตัว ของร่างกาย โดยเฉพาะอวัยวะภายใน ยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศหรือที่มักเรียกว่ายาบำรุงเซ็กซ์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของยาบำรุงไต (ตามทัศนะแพทย์จีน) โดยเฉพาะความเสื่อมถอย ทรุดโทรม มักเกิดความพร่องตามมา ไตหยาง มีการเก็บสะสมของพลังหยาง ซึ่งเป็นพื้นฐานของกลไกระบบต่างๆ ที่ได้มาแต่กำเนิด (ทางกรรมพันธุ์) ขณะที่ไตยินจะได้รับการเสริมเติมบำรุงจากอาหารการกินและการดำเนินชีวิต ซึ่งจะช่วยการปรับสมดุลกับไตหยาง และทำให้เกิดพลังหยางในระบบต่างๆของร่างกาย พลังหยางพร่อง นอกจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์แล้ว การเจ็บป่วยเรื้อรังยาวนาน การได้รับอาหารที่มีคุณสมบัติเย็นมากหรือนานเกิน การมีเพศสัมพันธ์ที่มากเกิน (สูญเสียสารจิงทำให้สูญเสียพลังไต) ก็นับว่ามีส่วนสำคัญ ต่อไปนี้จะเสนอภาพกว้างของพลังหยางพร่อง ซึ่งจะมีอาการต่างๆหลายอย่าง การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเป็นเพียงอาการหนึ่งของพลังหยางพร่อง หยางพร่องหมายถึงพลังหยางไม่พอ กลไกการทำงานของร่างกายเสื่อมถอย ทำให้ระบบต่างๆในร่างกาย เกิดอาการหนาวเย็นผิดปกติ ทั้งนี้เป็นผลจากระบบกลไกการให้พลังความร้อน …

ยาบำรุงเซ็กซ์ ส่วนหนึ่งของยาบำรุงหยาง Read More »

พลังไตย้อนกลับขึ้นบน คืออะไร

ในผู้ป่วยหอบหืดเรื้อรัง หรือหลอดลมอักเสบเรื้อรังตามทัศนะแพทย์แผนจีน มีสาเหตุหลายอย่าง สาเหตุที่สำคัญ สาเหตุหนึ่งคือ ภาวะพลังไตย้อนกลับขึ้นบน (พลังไตไม่กลับที่แหล่งกำเนิดเพราะพลังไตพร่อง อ่อนแอ) ภาวะพลังไตย้อนกลับขึ้นบน”  หมายถึง ภาวะพลังไตอ่อนแอ พลังไม่สามารถกลับสู่ตำแหน่ง ดั้งเดิมของไต คือบริเวณตานเถียน ซึ่งเป็นแหล่งเก็บพลังพื้นฐานของไต ทำให้การหายใจสั้น หายใจไม่ลึก มีอาการหอบหืด มักพบว่ามีความผิดปกติร่วมกันของพลังปอดพร่องกับพลังไตพร่องควบคู่กัน อาการสำคัญคือ หอบหืดหายใจสั้น หายใจเข้าได้น้อย หายใจออกมาก ถ้าเคลื่อนไหวหรือใช้กำลังกายอาการจะรุนแรงขึ้นอาการร่วม เป็นโรคไอ หอบหืดเรื้อรัง เหงื่อออกมากผิดปกติ ใบหน้าขาดความมีชีวิตชีวา เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยอยากจะพูด เสียงพูดไม่มีพลัง เอวและเข่าเมื่อยล้าอ่อนแรง ในรายที่เป็นมากจะมีอาการหอบหืดรุนแรง มีเหงื่อเย็นออกมาก แขนขาเย็น หน้าซีดเขียวลักษณะลิ้น : ลิ้นซีด ฝ้าขาวชีพจร : ลึกและอ่อนแอสาเหตุสำคัญของ “ภาวะพลังไตย้อนกลับขึ้นบน”มาจาก1. ไอ หอบหืดเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ ทำให้โรคจากพลังปอดพร่อง พัฒนาไปทำให้พลังไตพร่องด้วย2. คนสูงอายุ มักมีพลังไตอ่อนแออยู่แล้ว เป็นเงื่อนไขที่ทำให้การรับหรือดึงพลังไตกลับตานเถียนได้น้อยกว่าปกติ3. โรคเรื้อรังที่กระทบกระเทือนต่อไต เพศสัมพันธ์ที่มากเกินไป, การทำงานเหนื่อยล้านานเกินไปอย่างต่อเนื่อง กลไกการเกิด …

พลังไตย้อนกลับขึ้นบน คืออะไร Read More »

ทำไมต้องมี? อาหารเสริมสุขภาพ

ร่างกายคนเราต้องการสารอาหารที่ได้สมดุล เพื่อสุขภาพที่ดี เพราะภาวะปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะคนเมือง) ได้รับอาหารประเภทไขมัน แป้ง เกลือ เนื้อสัตว์ทำให้ขาดเส้นใย ผัก ผลไม้ วิตามิน แร่ธาตุ ทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคอ้วน เบาหวาน โรคความเสื่อม นอกจากนี้อุปนิสัยและความเคยชินหลายอย่างก็มีผลต่อการขาดสารอาหาร คนที่ดื่มเหล้า เหล้า 1 กรัมทำให้ร่างกายเสียพลังงาน 7 แคลอรี โดยไม่ได้ให้คุณค่าของสารอาหารเลย  เหล้าทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินบี ซี สังกะสี แมกนีเซียม โพแทสเซียม เหล้าทำลายตับ ทำให้พิษสะสมในร่างกายมากขึ้น ทำให้เป็นโรคตับแข็งหรือโรคมะเร็งง่ายขึ้น คนสูบบุหรี่บุหรี่มีผลระคายเคืองต่อปอด เพิ่มความเสี่ยงของ โรคมะเร็งโดยตรงและทางอ้อม การสูบบุหรี่ทำให้ความต้องการสารอาหารพวกวิตามินบี12 กรดโฟลิก วิตามินซี และอี ซึ่งเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระมากขึ้น เพราะต้องไปต่อสู้กับความเสื่อมของ เนื้อเยื่อ และการเพิ่มขึ้นของอนุมูลอิสระที่ทำลายเนื้อเยื่อ ต่างๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่าบีตาแคโรทีนในคนสูบบุหรี่จะต่ำกว่าคนทั่วไปอีกด้วย คนดื่มกาแฟ  ชาการดื่มกาแฟและชา โดยเฉพาะก่อนหรือหลังอาหาร ๑ ชั่วโมงจะมีผลลดการดูดซึมธาตุเหล็กถึงร้อยละ 80 การดื่มกาแฟปริมาณมากจะทำให้แคลเซียมถูกขับออกจากร่างกายมากขึ้น  ทำให้กระดูกพรุน การเตรียมอาหารการล้าง การปรุง การเก็บเกี่ยว …

ทำไมต้องมี? อาหารเสริมสุขภาพ Read More »

ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อการดูแลหัวใจและหลอดเลือด

“ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจีน CO-RED (โค-เรด)เกิดจากการบูรณาการประสบการณ์ทางคลินิก การค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์และเภสัชกรรมแผนปัจจุบันแผนจีน ผสานกับเทคโนโลยีตะวันตก ภายใต้การควบคุมการผลิตและระบบการจัดการบริหารคุณภาพระดับมาตรฐานสากล CO-RED (โค-เรด) จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้รักและใส่ใจการดูแลสุขภาพ” สรรพคุณ 3 in 1 เพื่อควบคุมไขมันในเลือดรวมทั้งการดูแลหัวใจและหลอดเลือด ควบคุมไขมันในเลือด โคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันเลว(LDL) เสริมพลังการทำงานของหัวใจ ด้วย Coenzyme Q 10 กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ป้องกันการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ด้วยสารสกัดอาหารสมุนไพรที่มีการใช้กันมายาวนานและมีความปลอดภัยสูง  ทำไมต้อง CO-RED อะไรคือความแตกต่าง? สรรพคุณ 3 in 1 เพื่อควบคุมไขมันในเลือดรวมทั้งการดูแลหัวใจและหลอดเลือด ควบคุมไขมันในเลือด โคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันเลว(LDL) เสริมพลังการทำงานของหัวใจ ด้วย Coenzyme Q 10 กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ป้องกันการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ด้วยสารสกัดอาหารสมุนไพรที่มีการใช้กันมายาวนานและมีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงต่อตับและไต หรือการอักเสบของกล้ามเนื้อ สามารถใช้ในการควบคุมไขมันในเลือด แทนยากลุ่มStatin ในผู้ป่วยที่มีผลข้างเคียงจากยา ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคสมองเสื่อม มีผลการวิจัยทางการแพทย์และประสบการณ์ในทางคลินิกยืนยันได้ผลจริง ใช้สารสกัดคุณภาพ ทันสมัย ปลอดภัย มาตรฐานยุโรปและตามข้อกำหนดของคณะกรรมการอาหารและยาของไทย ควบคุมการผลิตโดยโรงงานมาตรฐานของไทยที่ผลิตสินค้าให้ต่างประเทศ ผ่านการรับรองให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจาก อย. ของประเทศไทย มีส่วนผสมอาหารสมุนไพรจีนสกัดที่ป้องกันการเกาะตัวของเลือด กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและช่วยระบบย่อยอาหาร เลือก Red yeast rice คุณภาพในกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานส่งออกยุโรป มีส่วนผสม Coenzyme Q 10 ในผลิตภัณฑ์ ควบคุมตรวจสอบระดับปริมาณ Citrinin และเชื้อราปนเปื้อนตามมาตรฐานสากล ข้อควรระวังในการบริโภค CO-RED 1. ผู้ป่วยโรคตับ2. ผู้ป่วยโรคไต3. สตรีตั้งครรภ์ สตรีระหว่างให้นมบุตร4. ห้ามรับประทานร่วมกับยาลดไขมันกลุ่ม Statin ยาต้านเชื้อรา ยากดภูมิคุ้มกัน ยารักษาโรคเอดส์5. คนที่แพ้เชื้อรา ใครบ้างที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ CO-RED   ผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูง รับประทานยาเคมีแล้วมีผลข้างเคียง   ผู้ป่วยที่ต้องการลดไขมันด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ   คนที่ต้องการดูแลหลอดเลือดให้สะอาด แข็งแรง ยืดหยุ่น   คนที่ต้องการป้องกันภาวะสมองเสื่อม โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง มีอะไรใน CO-RED Red Yeast …

ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อการดูแลหัวใจและหลอดเลือด Read More »

ภาวะลองโควิด ในมุมมองแพทย์แผนจีน

โรคโควิด-19 ในทางแพทย์แผนจีนตามทฤษฎี《温疫论》เรียกว่า อี้ปิ้ง “疫病” สิ่งก่อโรคคือ พิษร้อน และพิษชื้น เป็นหลัก (热毒和湿毒为主) พยาธิสภาพเกี่ยวข้องกับ ความชื้น ความร้อน พิษ เลือดคั่ง ความแห้ง เสมหะ ภาวะพร่อง เมื่อสิ่งก่อโรคพิษร้อนชื้น(ไวรัสโควิด-19) โจมตีจากภายนอกระดับเว่ย 卫 (ผิวภายนอก) เข้าสู่ระดับชี่ 气 (มีไข้ ปวดเมื่อยตัว) และสู่ระดับลึกอิ๋งเซวี่ย 营血 (เข้าสู่ปอดและอวัยวะภายใน) ที่ทำให้มีอาการปอดบวม(ปอดร้อนชื้น) เกิดลิ่มเลือดอุดตัน(เลือดคั่ง) เกิดอาการช็อค หมดสติ (พิษร้อนเข้าเยื่อหุ้มหัวใจ-หัวใจ) ผู้ป่วยระยะรุนแรงและภาวะวิกฤติ อาการของ Long COVID มาจากพื้นฐานภาวะร่างกายและความรุนแรงของโรค เมื่อได้รับเชื้อโควิด-19 บางคนอาจไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย บางคนอาจมีอาการหนักปานกลาง บางคนอาจมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต แพทย์แผนจีนมองว่ามาจากพื้นฐานภาวะร่างกายและเจิ้งชี่ (正气 พลังพื้นฐานของร่างกาย)ในการต่อสู้กับเสียชี่ (邪气 สิ่งก่อโรค)  ทำให้ผู้ป่วยมีหลายอาการและหลายอาการแสดงในลักษณะที่แตกต่างกัน ทำให้การรักษาผู้ป่วยมีการใช้แนวทาง หลักการ วิธีการ และตำรับยาที่ใช้รักษาแตกต่างกัน 1.  ลักษณะเบาหรือทั่วไป (轻型及普通型) …

ภาวะลองโควิด ในมุมมองแพทย์แผนจีน Read More »

ว่าด้วยเรื่อง “เลือดพร่อง” (2)

ผู้ป่วยบางคนมีภาวะยินพร่อง แต่เข้าใจผิดไปซื้อยาบำรุงเลือดพร่อง ทำให้อาการของโรคอาจรุนแรงขึ้นได้ยาจีนในท้องตลาดต้องแยกให้ชัดว่า เน้นไปที่บำรุงยินหรือบำรุงเลือดความจริงยาบำรุงเลือดมีบางส่วนของยาบำรุงยิน เลือดเป็นส่วนหนึ่งของยิน ยินพร่องกับเลือดพร่องมีอาการหลายอย่างคล้ายกัน เช่น ชีพจรเล็ก เวียนศีรษะ ตาลาย นอนไม่หลับ ข้อแตกต่างที่สำคัญคือ ยินพร่อง จะมีอาการร้อนร่วมด้วย เช่น แก้มแดง ลิ้นแดง หงุดหงิด ปากแห้ง ชีพจรเร็ว เป็นต้น ขณะที่เลือดพร่องไม่มีอาการร้อน เช่น ใบ หน้า ริมฝีปาก เปลือกตา เล็บ ลิ้นจะมีสีขาวซีด อาการที่เรียกว่า “เลือดของหัวใจพร่อง” และ “เลือดตับพร่อง” เป็นอย่างไร?ทั้ง ๒ ภาวะ มีอาการของเลือดพร่องเหมือนกัน แต่เนื่องจากการขาดเลือดไปมีผลต่ออวัยวะของหัวใจและตับอย่างเด่นชัด ทำให้มีลักษณะเฉพาะ คือเลือดหัวใจพร่อง มีอาการทางหัวใจและ สมองเด่นชัด เช่น ใจสั่น ตกใจง่าย นอนไม่หลับ ฝันบ่อย ลืมง่ายเลือดตับพร่อง ชายโครงปวดตื้อๆ มองไม่ชัดเวลากลางคืน (ตาบอดไก่) แขนขาชา มีตะคริว หลักการรักษาเลือดพร่อง และตำรับยาที่ใช้คืออะไร?ใช้หลักการบำรุงและปรับเลือดตำรับยาที่ใช้ได้แก่๑. ซื่อ-อู๋-ทังตัวยาสำคัญคือ สูตี้ ตังกุย ไป๋สาว ชวน-เซวียง๒. ตัง-กุย-ปู่-เสวี่ย-ทัง ตัวยาสำคัญคือ ตังกุย …

ว่าด้วยเรื่อง “เลือดพร่อง” (2) Read More »

“ขิง” ในทัศนะแพทย์แผนจีน

“ขิง” ในทัศนะแพทย์แผนจีน เป็นทั้งยาสมุนไพรที่ใช้บ่อยและเป็นทั้งอาหาร เครื่องปรุงรส ที่ต้องมีไว้ประจำครัวเรือนขงจื๊อ ปราชญ์จีนสมัยชุนชิว (ค.ศ.๔๗๙-ค.ศ.๕๐๐) ได้เสนอว่า “อาหารทุกมื้อไม่ควรละเลยขิง” ท่านเชื่อว่าบรรดาผักต่างๆ ขิงมีคุณค่ามากที่สุด สามารถทำให้มีชีวิตชีวา ขจัดของเสียในร่างกาย ขงจื๊อเป็นคน มณฑลซานตุง ปัจจุบันที่เมืองไหลอู๋ของซานตุง มีโรงงานผลิตเหล้าขิง ที่มีชื่อ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อของขงจื๊อได้รับการสืบทอดต่อกันมา ซูตงปอ กวีเอกสมัยราชวงศ์ซ่ง ได้เขียนบทกวี “ตงปอจ๋อจี้” พูดถึงพระที่วัดเฉียนถางจิ้ง แห่งเมืองหางเจ่า ซึ่งมีอายุกว่า ๘๐ ปี มีใบหน้า อันอิ่มเอิบ สุขภาพแข็งแรง ได้คำตอบจากพระท่านนั้นว่า” ท่านฉันขิงมากว่า ๔๐ ปี ท่านจึงไม่แก่” ซูตงปอจึงมีความเชื่อว่าขิงคือยาอายุวัฒนะดีๆ นี่เอง ความเชื่อของคนจีนต่อขิงมีมากมาย เช่น“ เดือนสิบมีขิงคือโสมน้อยๆ นั้นเอง”” ชา ๑ แก้ว ขิง ๑ แว่น ขับลมบำรุงกระเพาะดีนักแล”” ตื่นนอน ขิง ๓ แว่น ไม่แพ้ซุปใส่โสม”” ทุกวันกินขิง ๓ แว่น ไม่ต้องรบกวนหมอสั่งยา”ความเชื่อเหล่านี้ถูกถ่ายทอดไปในหมู่ประชาชน เป็นภูมิปัญญาที่ยึดถือเป็นหลักการดูแลสุขภาพ …

“ขิง” ในทัศนะแพทย์แผนจีน Read More »

อาหารต้านปวดเมื่อยร่างกาย กับแพทย์แผนจีน

กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืด หรือที่เรียกว่ากลุ่มอาการเอมพีเอส (MPS – Myofascial pain syndrome) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยมาก บางครั้งมีอาการปวดตื้อๆ ลึกๆ ปวดร้าวไปบริเวณข้างเคียง บางครั้งปวดพอรำคาญ บางครั้งปวดรุนแรงมากจนเคลื่อนไหวลำบาก มีจุดกดเจ็บหรือจุดที่ไวต่อการกระตุ้น (Trigger point) อยู่ในกล้าม เนื้อหรือในเนื้อเยื่อพังผืด ปวดมากหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือหลังใช้กล้ามเนื้อนั้นเป็นระยะเวลา นานอย่างต่อเนื่อง สาเหตุของการเกิดโรคนี้ เกิดจากการที่กล้ามเนื้อนั้นมีการทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง เกิดการสะสมของของเสียในกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อมีการหดตัวและขาดออกซิเจน จึงส่งผลให้เกิดอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อแบบเกร็งค้าง จึงมีการบีบกดของหลอดเลือดที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ ทำให้การนำออกซิเจนมาช่วยในการเผาผลาญสารอาหารทำได้ไม่เต็มที่ กล้ามเนื้อไม่ได้รับออกซิเจนไปใช้ในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน จึงทำให้เกิดการเผาผลาญแบบไม่ใช้ออกซิเจน มีการคั่งค้างของกรดแล็กติก อาการปวดและกรดแล็กติก จะไปกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกร็งแข็งโดยอัตโนมัติ และถ้าไม่ได้มีการผ่อนคลายอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อ ก็มักจะทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง (Myofascial pain) อาการเช่นนี้มักจะพบได้ในกล้ามเนื้อทุกมัดที่ต้องออกแรงอย่างหนัก กล้ามเนื้อที่มีอาการปวดล้าได้ง่ายได้แก่ กล้ามเนื้อ บริเวณบ่า คอด้านหลัง และหลังส่วนล่าง ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้หญิง พบในวัยทำงานมากกว่าวัยอื่นๆ พบบ่อยในกลุ่มพนักงานสำนักงาน (Office) กลุ่มผู้ใช้แรงงาน โดยอาการจะเป็นมากขึ้นถ้ามีการใช้งานกล้ามเนื้อหนักอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน และใช้งานในท่าที่ไม่เหมาะสม  โดยทั่วไปอาการอาจไม่รุนแรง แค่พอรำคาญ หรือรุนแรงจนส่งผลต่อการเคลื่อนไหว มุมมองแพทย์แผนจีนกับอาการปวดเมื่อย อาการปวดเมื่อย …

อาหารต้านปวดเมื่อยร่างกาย กับแพทย์แผนจีน Read More »

สมุนไพรจีน บำรุงยิน

ความรู้สึกเป็นไข้ตอนบ่าย ร้อนบริเวณแก้ม เหงื่อออก เวลากลางคืน ร้อนฝ่ามือ ฝ่าเท้า และบริเวณทรวงอก ปากคอแห้ง ลิ้นแดง ฝ้าบนลิ้นน้อย หรือลิ้นเลี่ยน ชีพจรเบาเร็ว อาการเหล่านี้คนจีนเรียกว่า อิมฮือ อิมฮือ หมายถึง ภาวะเลือด ภาวะยินพร่อง ที่รวมถึงสารจิงไม่พอ เสียสารน้ำในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะยินไม่สามารถควบคุมหยาง เกิดอาการแสดงออกของ ยินพร่อง มีความร้อนภายในร่างกาย (เนื่องจากหยางในร่างกายแกร่ง เพราะยินในร่างกายน้อยกว่าปกติ) สาเหตุที่มีอาการเหงื่อออกตอนกลางคืน เป็นเพราะตอนกลางวันพลัง ปกป้องผิวมักจะอยู่บริเวณส่วนนอก กล้ามเนื้อและผิวหนัง เมื่อตกกลางคืน พลังเหล่านี้จะลดลง ความร้อนภายในร่างกายที่สะสมอยู่จะระบายเหงื่อ และความร้อนสู่ภายนอก โบราณเรียกว่า “เหงื่อที่ระเหยจากกระดูกส่วนลึกของร่างกาย” เป็นลักษณะเด่นของภาวะยินพร่อง ภาวะขาดสารน้ำในร่างกาย เช่น เสียเหงื่อมาก ไข้สูงเรื้อรัง ท้องเสีย ฯลฯ ภาวะเช่นนี้จะทำให้เกิดภาวะแห้ง ภายในร่างกายเนื่องจากสูญเสียน้ำและของเหลว มักพบอาการคอแห้งริมฝีปากแห้ง ผิวหนังแห้ง ปัสสาวะน้อยสีเข้ม อุจจาระแห้งแข็ง ฯลฯ ระยะแรกของยินพร่องเป็นภาวะขาดสารน้ำแล้วมีภาวะแห้ง มักมีอาการที่ปอด กระเพาะอาหาร ระยะ หลังของยินพร่องมักมีภาวะร้อน …

สมุนไพรจีน บำรุงยิน Read More »

แพทย์แผนจีนกับการรักษา โรคปวดศีรษะไมเกรน

อาการปวดศีรษะโดยเฉพาะปวดไมเกรนเป็นโรคที่พบได้บ่อย  สำหรับบางคนอาจเป็นโรคประจำตัว โดยเฉพาะเวลาเครียดหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ บางครั้งก็ไม่พบสิ่งกระตุ้นหรือสาเหตุที่แน่ชัด แนวทางการรักษาก็คือ การรับประทานยาระงับอาการปวดหรือถ้าเป็นมากเป็นถี่ ก็หายาเกี่ยวกับการกล่อมประสาทมารับประทานเพื่อป้องกันการกำเริบ เป็นโรคที่พบบ่อยและสร้างความรำคาญ รบกวนทั้งสภาพร่างกายและจิตใจไม่น้อย สาเหตุโรคไมเกรน ในมุมมองแพทย์แผนจีน เกิดจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายนอกหรือสิ่งกระตุ้นภายนอก  ได้แก่ ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ที่สำคัญคือ ลม ความเย็น  ความชื้น ความร้อน ซึ่งมักจะกระทบส่วนบนบริเวณศีรษะปิดกั้นทางเดินของเลือดและพลัง   ปัจจัยภายใน พื้นฐานของร่างกายที่มีอวัยวะภายในอ่อนแอที่สำคัญคือ ตับ ม้าม ไต  การเสียสมดุลของตับมักทำให้เกิดเลือดคั่งพลังติดขัด เกิดไฟร้อนของตับ  การเสียสมดุลของม้ามมักทำให้เสมหะของเสียตกค้าง การเสียสมดุลของไตมักทำให้สมองขาดการเลี้ยงบำรุง ปัจจัยภายใน  อารมณ์ ทำให้กลไกพลังแปรปรวน  ส่งผลต่อการทำงานของตับติดขัด หรือขึ้นบ น การติดขัดของพลังนานๆจะทำให้เกิดไฟ ซึ่งจะรบกวนส่วนบนบริเวณศีรษะ อาหาร การกิน  เป็นแหล่งกำเนิดของการสร้างเลือดและพลังของร่างกาย  การทำหน้าการย่อยดูดซึมอาหารของม้าม กระเพาะอาหารและการรับประทานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพร่างกาย จะทำให้สมองจะได้รับเลือดและพลังอย่างเพียงพอ  ตรงกันข้ามถ้าระบบการทำงานและอาหารไม่สอดคล้อง จะทำให้เกิดเสมหะความชื้นตกค้าง  ซึ่งจะไปปิดกั้นด้านบนศีรษะเช่นกั้น อุบัติเหตุจากการบาดเจ็บกระทบกระแทกบริเวณศีรษะทั้งในอดีตและปัจจุบัน  เกิดการติดขัดของพลังและเลือดคั่ง ทำให้เกิดอาการปวด การนอนหลับพักผ่อนและการทำงานที่ไม่สมดุล  ทำลายสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจและอวัยวะภายใน ปัจจัยต่างๆข้างต้น เมื่อสะสมตัวนานเข้าทำให้เกิดอีกด้านหนึ่ง …

แพทย์แผนจีนกับการรักษา โรคปวดศีรษะไมเกรน Read More »

รักษาด้วยยาเคมีกับยาสมุนไพรจีน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

ผู้ป่วยที่ไปรักษาโรคกับหมอแผนปัจจุบัน จะได้ยาเคมีมารักษาบำบัดโรค เวลาไปหาหมอจีน ถ้าต้องให้ยา ก็จะได้ยาสมุนไพรมากิน ปัญหาที่ผู้ป่วยมักถามเสมอคือ ยาฝรั่งกินคู่กับยาจีนจะตีกันหรือไม่? กินยาจีนแล้วต้องกินยาฝรั่งไหม? ไปหาคำตอบกันครับ ความแตกต่างระหว่างยาเคมีกับยาสมุนไพรจีน ยาเคมี : แพทย์แผนปัจจุบันใช้ยาที่เป็นเคมีสังเคราะห์พัฒนาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของยาในการรักษาโรค โดยยาเคมีไปมีผลต่อเนื้อเยื่อหรืออวัยวะโดยเปลี่ยนแปลงกลไกชีวเคมีระดับเซลล์เป็นสำคัญ การทำงานระบบต่างๆ ของร่างกาย ถ้าเจาะลึกลงไประดับเซลล์ เราพบว่ามีปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้นมากมาย ทำให้ร่างกายสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ตั้งแต่การย่อยสลาย และดูดซึมอาหาร การหายใจ การขับของเสียออกจากเซลล์ การขจัดพิษตกค้างภายในร่างกาย มุมมองการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมี หรือสารเคมีระดับเซลล์ มีลักษณะจำเพาะสูง และมีแนวโน้มของการรักษาไปทิศทางเดียว ตัวอย่างของกลุ่มยาเคมี– ยาลดความดันโลหิตสูง– ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด– ยารักษาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ– ยาระงับการหอบหืด ยาขยายหลอดลม– ยาละลายลิ่มเลือด ยาลดการจับตัวของเลือด– ยาปฏิชีวนะ ต้านแบคทีเรีย ต้านไวรัส– ยาต้านมะเร็ง เนื่องจากการวินิจฉัยโรคแบบแผนปัจจุบันเป็นการ พยายามสืบค้นสาเหตุหรือสิ่งก่อโรค ที่มีลักษณะรูปธรรม (เชื้อโรค มะเร็ง ความผิดปกติของยีน ความผิดปกติของโครงสร้าง การกดทับหลอดเลือดหรือเส้นประสาท) ดังนั้นเมื่อพบความผิดปกติที่ชัดเจนก็ใช้วิธีการทำลายหรือยับยั้งด้วยยาหรือการผ่าตัดตามแต่กรณี แต่ถ้าไม่พบสิ่งก่อโรคที่ชัดเจน ก็จะใช้ยาเคมีเข้าไปเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางชีวเคมีของร่างกายที่ผิดปกติ ที่ทำให้เกิดโรค จึงมีลักษณะการแก้ปัญหาแบบแยกส่วน และการแก้ปัญหาตามอาการที่เกิดขึ้น ยาสมุนไพรจีน : มีลักษณะการปรับเปลี่ยนทางกายภาพหรือทางฟิสิกส์เป็นหลัก …

รักษาด้วยยาเคมีกับยาสมุนไพรจีน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร? Read More »

ข้อสรุป “ยาเหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง” รักษาโควิด-19 ได้จริงหรือ?

ในมุมมองแพทย์แผนจีน การเกิดโรค อาการ และความรุนแรงของโรค เป็นผลจากการต่อสู้กันของสิ่งก่อโรคที่เข้า่สู่ร่างกายกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (เจิ้งชี่) การเอาชนะโรคจึงต้องเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเป็นหลัก และป้องการเข้าสู่ร่างกายหรือรีบทำลายเมื่อเชื้อยังมีปริมาณน้อย ช่วงที่สิ่งก่อโรคหรือศัตรูยังไม่ได้บุกเข้าร่างกาย ต้องเน้นการปิดช่องทางเข้าของเชื้อโรค(ผิวหนัง เยื่อบุทางเดินหายใจ)และเสริมสร้างปอดและพลังปกป้องผิว (เว่ยชี่卫气) ใช้การบำรุงเป็นด้านหลักเพื่อเตรียมพร้อม ไม่ใช่ไปเน้นการทำลายหรือการต่อสู้กับสิ่งก่อโรค(เพราะเชื้อโรคยังไม่ได้เข้าสู่ร่างกาย) การใช้ยารักษาในการป้องกันจึงไม่มีประโยชน์และจะมีโทษมากกว่า เหมือนยังไม่เป็นมะเร็งแล้วไปกินยารักษามะเร็ง จึงเป็นเหตุผลที่ว่ายารักษาโควิด-19 ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ยาฟาวิพิราเวียร์หรือฟ้าทะลายโจรหรือยาเหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง ที่มีฤทธิ์ทำลายลดการแบ่งตัวของไวรัส (ขับพิษขับร้อน) จึงต้องใช้รักษาเมื่อมีการติดเชื้อและมีอาการพิษร้อน เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้ว เกิดปฏิกิริยาการต่อสู้กันระหว่างร่างกายกับสิ่งก่อโรคบางคนไม่มีอาการ บางคนมีอาการไม่มาก บางคนมีอาการมาก หลักการรักษาของแพทย์แผนจีน แม้ว่าจะต้องให้ความสำคัญมีตัวยาสมุนไพรขับพิษ รวมถึงขับปัจจัยก่อโรคอื่นๆ เช่น ความเย็น ความร้อน ความชื้น เสมหะ แต่ยังต้องให้ความสำคัญในการเสริมภูมิปรับสมดุลควบคู่ไปด้วย การต่อสู้กับโรคโควิด-19 จึงไม่มียาตำรับเดียวที่ครอบคลุมคนไข้ทุกคน จากภาพรวมทั้งหมดยาทั้ง ยาฟาวิพิราเวียร์  ฟ้าทะลายโจร เหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง เป็นยาที่เน้นการขับพิษร้อน ขจัดสิ่งก่อโรคเป็นหลัก จึงเหมาะสำหรับใช้เพื่อการรักษาเมื่อมีการติดเชื้อและมีอาการอักเสบ ไอ มีไข้ เจ็บคอ  อย่างไรก็ตามอาจพิจารณาให้การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อทันที ทั้งที่ยังไม่มีอาการเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดโรครุนแรงได้ ทั้งนี้ยังต้องระมัดระวังอีกด้านหนึ่งคือปัญหาการดื้อยา ผลข้างเคียงของยาและการรักษาที่เกินความจำเป็น การรักษาทางคลินิกแบบแพทย์แผนจีนจึงต้องมีการปรับลดตัวยาในตำรับให้สอดคล้องกับสภาพเป็นจริงของผู้ป่วย 1. ยาเหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง เป็นตำรับยาฤทธิ์เย็น มียาขับพิษขับร้อน …

ข้อสรุป “ยาเหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง” รักษาโควิด-19 ได้จริงหรือ? Read More »

“เหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง” ยาป้องกันและรักษาโควิด จริงหรือ?

ความจริงก็คือ เหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง  (连花清瘟胶囊) ไม่ใช้ในการป้องกันโควิด-19 แต่ใช้ในการรักษาเท่านั้น  อย่าหลงเชื่อการโฆษณาคำกล่าวอ้างว่าสามารถรับประทานทั้งป้องกันและรักษาและสามารถกินได้ทุกเพศทุกวัยแม้มีโรคประจำตัว วันที่ 2 เมษายน 2563 FDA ของประเทศจีนได้อนุมัติเพิ่มข้อบ่งใช้รักษา COVID-19 ให้กับ Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) อย่างเป็นทางการ โดยเพิ่มข้อบ่งใช้รักษา COVID-19 ในระดับเบา (Mild case) ที่แสดงอาการไข้ อ่อนเพลียหรือไอ และระดับปานกลาง (Moderate Case) ที่แสดงอาการไข้ อ่อนเพลียหรือไอ ร่วมกับปอดอักเสบ(กลุ่มสีเหลือง) ควบคู่กับการรักษาตามมาตรฐานของแผนปัจจุบัน โดยขนาดรับประทาน 4 แคปซูล 3 เวลา นาน 7-10 วัน สำหรับตัวยาส่วนประกอบของ เหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง มีด้วยกัน 13 ชนิด ดังนี้ 1. จินหยินฮวา (金银花) ฤทธิ์เย็นเล็กน้อย รสหอม ขมเล็กน้อย มีสรรพคุณขับพิษ …

“เหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง” ยาป้องกันและรักษาโควิด จริงหรือ? Read More »