อาหาร

ผลไม้ ก็มีสรรพคุณทางยา

สรรพสิ่งในโลกนั้นในยินก็มีหยางแฝงอยู่และในหยางก็มียินแฝงเร้นอยู่เช่นกัน อาหารและสมุนไพรแต่ละชนิดทางการแพทย์แผนจีนถือว่ามีทั้งส่วนที่เป็นยินและหยางผสมกันอยู่ อาหารจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมหรือปรับร่างกายให้สมดุล เพื่อป้องกันและรักษาโรค  “แตงโม” ราชาผลไม้ในฤดูร้อน เนื้อแตงโม : คุณสมบัติเย็น รสหวาน จัดเป็นพวกยิน ช่วยดับร้อน แก้กระหายน้ำ แก้อาการเจ็บคอ แก้ร้อนกระวนกระวาย แก้พิษสุรา และขับปัสสาวะ เมล็ด : คุณสมบัติเป็นกลาง (ไม่ร้อนไม่เย็น) มีรสจืด ตำผสม น้ำผึ้งตุ๋นกิน แก้ท้องผูก เปลือก : ผิงไฟบดเป็นผงทาแก้แผลในปาก “ส้ม” ผู้อาวุโสของผลไม้ คุณสมบัติเย็นเล็กน้อย รสเปรี้ยวหวาน จัดเป็นยิน เนื้อส้ม : ทำให้ชุ่มคอ แก้ไข แก้ไอเรื้อรัง ขับเสมหะ แก้กระหายน้ำแก้ฤทธิ์สุรา ขับปัสสาวะ แก้ท้องผูก เปลือก : เคี้ยวเฉพาะเปลือกกินหรือบดเป็นผง กินแก้จุดแน่น บริเวณท้องและหน้าอก เนื่องจากอาหารไม่ย่อย ชง ดื่มต่างน้ำชาแก้เจ็บคอ เปลือกตากแห้งจุดไล่ยุง เมล็ด : ทุบให้แหลกต้มน้ำเติมน้ำส้มสายชู กินบำรุงน้ำนม …

ผลไม้ ก็มีสรรพคุณทางยา Read More »

รู้ได้อย่างไรว่า “ไต” เราแข็งแรง

พลังไตเป็นรากฐานของอวัยวะภายใน ทั้ง 5 (肾是五脏之根)  ไตเป็นที่เก็บของพลังสำรอง  เมื่ออวัยวะภายในอื่นๆขาดแคลนพลังจะเรียกใช้บริการของไต คนที่ไตแข็งแรง แสดงออกถึงอย่างไร? 1. ไตดี : การเจริญเติบโตดี (เกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมน) ผู้หญิงใช้เลข 7 มาแบ่งช่วงอายุ ผู้ชายใช้เลข 8 มาแบ่งช่วงอายุ ผู้หญิงอายุ 4×7 = 28ปี  เป็นช่วงที่พลังไต ถึงขีดสุด เอ็นกระดูกแข็งแรง                   5×7 = 35ปี เป็นช่วงที่พลังไตเริ่มเสื่อมถอยในผู้หญิง ผู้ชายอายุ   4×8 = 32ปี เป็นช่วงที่พลังสูงสุดของเพศชาย                    5×8 = 40 ปี เป็นช่วงที่พลังไตเริ่มเสื่อมถอยในผู้ชาย 2. ไตดี : ระบบสืบพันธุ์ดี จิงของไต (มีความหมายคล้ายกับระบบฮอร์โมน) เป็นตัวกระตุ้นระบบการสืบพันธุ์ กระตุ้นการเจริญเติบโต ทำให้ผู้ชายมีเชื้ออสุจิ ผู้หญิงมีประจำเดือน คนที่ไตอ่อนแอ ในผู้หญิงจะมีอาการประจำเดือนไม่ปกติ มดลูกเย็น …

รู้ได้อย่างไรว่า “ไต” เราแข็งแรง Read More »

5 วิธีเสริมสร้างพลังหยาง ที่ง่ายและประหยัด

พลังหยาง (阳气) คือพลังของชีวิต ในวัยเด็ก พลังหยางค่อยๆ สะสมตัว จนพลังหยางสูงสุดในวัยหนุ่มสาว และเข้าสู่วัยกลางคน พลังหยางก็เริ่มถดถอยลดน้อยลง ร่างกายก็ไม่กระฉับกระเฉง ความคิดอ่าน ความจำ ความว่องไวทางประสาท สมอง ก็ลดลงเรื่อยๆ ถึงวัยชราภาพ พลังหยางน้อยลงไปอีกและหมดไปในที่สุดพร้อมกับการดับลงของชีวิต เป็นวัฏจักรของการเกิด พัฒนา เสื่อมถอย และการตาย การบำรุงพลังหยางจึงมีความสำคัญต่อชีวิต เพราะเป็นตัวกำหนดการเกิด พัฒนาและการเสื่อมถอยของร่างกาย รวมถึงโอกาสการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ของร่างกายและจิตใจด้วย ไปดูกันครับ ว่าเราสามารถเสริมสร้างพลังหยางได้อย่างไรบ้าง 1. เตรียมตัวนอนก่อน 23.00 น. คนที่หลับยากหน่อยอาจเข้านอน 22.30 น. คนที่หลับง่ายอาจนอนเวลา 22.50 น. พยายามให้หลับในช่วงประมาณ 23.00 น. และหลับสนิทในช่วง 01.00-03.00 น. 2. ไม่ควรกินอาหารหลัง 23.00 น. เพราะถุงน้ำดีจะไม่ทำงาน ในการขับน้ำดีโดยเฉพาะหลัง 23.00 น.ไปแล้ว และมักจะเกิดอาการหิว (หยางเริ่มเกิด) และคนมักจะตาสว่างไม่ค่อยง่วงนอน …

5 วิธีเสริมสร้างพลังหยาง ที่ง่ายและประหยัด Read More »

7 อาหารป้องกัน โรคหลอดเลือดสมอง

คนสูงอายุ มักจะมีปัญหาเรื่องของหลอดเลือดแข็งตัว จากสาเหตุความเสื่อมตามอายุขัยหรือจากโรคความดันโลหิตสูง  โรคไขมันในเลือดสูง  เบาหวานที่เป็นมาหลายปีแม้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาอย่างดีด้วยยามาอย่างต่อเนื่องก็ตาม หลอดเลือดแข็งตัว  ทำให้อวัยวะสำคัญๆ เกิดปัญหาได้ง่าย  เช่น สมอง หัวใจ และไต ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองแข็งตัว  มีโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก เกิดอัมพฤกษ์ – อัมพาต อีกทั้งทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ง่าย, ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจแข็งตัว ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน จะทำให้หัวใจขาดเลือด, ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตเสื่อมแข็งตัว ทำให้ไตฝ่อ ไตทำหน้าที่น้อยลงเกิดภาวะไตวาย ปรมาจารย์แพทย์จีน หลี่สือเจิน ( 李时珍)  กับเคล็ดลับ 7 อาหาร ป้องกันรักษาโรคหลอดเลือดสมอง 1. เก๋อเกิน  (葛根) หรือโสมภูเขา  ( 山人参 ) สรรพคุณ เสริมธาตุน้ำ  ขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือดต้านมะเร็ง ป้องกันการตายของเซลล์ประสาทสมอง  สูตรการทำอาหารง่ายๆ โดยใช้ เก๋อเกิน 30 กรัม, ข้าวสาร 50 กรัม เอามาทำข้าวต้ม …

7 อาหารป้องกัน โรคหลอดเลือดสมอง Read More »

5 เรื่องควรรู้ ก่อนดื่ม “ชา”

ชาเขียว มีฤทธิ์ค่อนไปทางเย็นหรือเย็นมาก มีสรรพคุณระบายความร้อน ขับไฟออกจากร่างกาย ควรจะต้องเป็นไฟหรือความร้อนส่วนเกิน (ไม่ใช่ความร้อนของพลังหยางของร่างกาย) โดยเฉพาะความร้อนบริเวณส่วนบนของร่างกาย เช่น ช่องปาก ตา คอหอย เรื่องควรรู้..ก่อนดื่มชา 1. ชาเขียวไม่เหมาะสมกับคนที่มีภาวะหยางของไตพร่อง (พลังหยางน้อย) เพราะชาเขียว มีฤทธิ์ค่อนไปทางเย็นหรือเย็นมาก มีสรรพคุณระบายความร้อน ขับไฟออกจากร่างกาย ควรจะต้องเป็นไฟหรือความร้อนส่วนเกิน (ไม่ใช่ความร้อนของพลังหยางของร่างกาย) โดยเฉพาะความร้อนบริเวณส่วนบนของร่างกาย เช่น ช่องปาก ตา คอหอย จึงจะทำให้ร่างกายด้านล่าง เย็น เป็นตะคริว  ปวดเมื่อยเอว และเข่าไม่มีกำลัง ปัสสาวะบ่อย กล้ามเนื้อขาอ่อนกำลัง 2. ไม่ควรดื่มชาที่แช่เย็น เพราะจะทำให้ทำลายหยางชี่ได้รุนแรงขึ้น (เพราะชาก็เย็นอยู่แล้วยังอยู่ในสภาพเย็นอีก) 3. ไม่ควรดื่มชาขณะท้องว่าง ควรดื่มหลังอาหารเท่านั้น ทำให้กระเพาะอาหารกระทบความเย็นโดยตรง การดูดซึมของชาเข้าสู่ร่างกายรวดเร็ว ทำลายร่างกายได้เร็วขึ้น สังเกตได้เวลาดื่มชาขณะท้องว่าง จะทำให้ปวดท้อง ใจสั่น คลื่นไส้ได้ 4. ไม่ควรดื่มชาแก้วใหญ่ๆ ดื่มตลอดวัน หรือดื่มแทนน้ำ ควรดื่มชาอุ่น 2 – 5 …

5 เรื่องควรรู้ ก่อนดื่ม “ชา” Read More »

การประยุกต์ใช้ “แสงสี” ในชีวิตประจำวัน

การประยุกต์เรื่องของแสงสีในชีวิตประจำวัน อาศัยอิทธิพลของแสงสีต่างๆที่มีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกและผลกระทบต่ออวัยวะภายในมาจัดการ กับสภาพแวดล้อม เช่น ที่อยู่อาศัย ห้องนอน ห้องทำงาน อุปกรณ์ใช้สอย การตกแต่ง ผนังกำแพง ม่านหน้าต่าง แสงไฟ ชุดทำงานของพนักงานบริษัท หรืออาชีพต่างๆ รวมทั้งการจัดห้องสำหรับผู้ป่วย ฯลฯ ตัวอย่างเช่น1. การใช้แสงสีที่มีลักษณะอุ่นเพื่อการกระตุ้นแสงสีที่ใช้คือ สีแดง สีชมพู หรือสีส้ม เช่น หากนำไปใช้ในห้อง อาบน้ำจะทำให้มีการกระตุ้น มีความเบิกบาน เหมาะสำหรับผู้มี อารมณ์เศร้าโศก อึดอัดใจ ง่วงนอน สมองเฉื่อยชา มีคุณสมบัติในการ ขจัดความพร่อง ความเย็นชา 2. การใช้แสงสีที่มีลักษณะเย็นเพื่อการยับยั้งแสงสีที่ใช้ได้แก่ สีเขียว สีน้ำเงิน สีเขียวอ่อน สีฟ้า เช่น หากนำไปใช้ในห้องอาบน้ำจะทำให้รู้สึก เย็นชื่นใจ อารมณ์สงบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอารมณ์หงุดหงิดง่ายๆ นอนไม่หลับ มีความกลัว ตกใจง่าย คิดมาก3. ใช้แสงสีเพื่อถนอมสายตาแสงสีที่ใช้ได้แก่ สีเขียว และสีดำ เหมาะสำหรับคนที่สายตาสั้น สายตายาว และตาบอดสี 4. …

การประยุกต์ใช้ “แสงสี” ในชีวิตประจำวัน Read More »

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ต้นหอม หัวหอม

ในชีวิตประจำวันเรามักจะคุ้นเคยกับผักปรุงรสประเภท ต้นหอม กระเทียม ขิง ความจริงสมุนไพรที่ใช้ในชีวิตประจำวันเหล่านี้ล้วนสามารถนำมาปรับใช้ในการป้องกันและดูแลสุขภาพได้ทั้งสิ้น ต้นหอม มีอีกฉายาว่า ผักพี่ใหญ่ (菜伯) หรือผักของปอด (肺之菜) บ่งบอกถึงการให้ความสำคัญกับต้นหอม ต้นหอมรับประทานสด ฤทธิ์ร้อน รสเผ็ด กระจาย เมื่อนำไปต้มหรือทำให้สุกจะมีฤทธิ์อุ่นรสหวาน ทำให้มีคุณสมบัติแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง 1. รับประทานเป็ดย่างปักกิ่งจึงต้องกินร่วมกับต้นหอม เป็ดเป็นอาหารที่มีฤทธิ์เย็น การนำไปปรุงเป็นอาหารจึงมักใช้กรรมวิธีทำให้แปรสภาพฤทธิ์เย็นให้ไปทางฤทธิ์ร้อน เพื่อให้เกิดความสมดุล เช่น ใช้การย่าง การทำเป็ดพะโล้ เป็นต้น ดังนั้นการรับประทานเป็ดย่างห่อด้วยแผ่นแป้งและต้นหอม จึงมีจุดมุ่งหมายในการลดฤทธิ์เย็นของเป็ด ทำให้อาหารที่รับประทานมีความสมดุลนั่นเอง 2. ต้นหอม เข้าเส้นลมปราณปอด กระตุ้นการขับเหงื่อ เปิดทวาร ต้นหอม ช่วยเปิดทวารส่วนบน ทำให้จมูกโล่ง ทวารส่วนล่างคือทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัว ช่วยการขับถ่ายอุจจาระ 3. ต้นหอม จัดเป็นสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับการอุ่นกระจายพลัง ถ้าเปรียบเทียบสมุนไพรในการอุ่นกระจายพลัง ต้นหอม (白葱) จัดว่าเป็นสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับช่องว่างลำตัวส่วนบน (ซ่างเจียว (上焦)ขิงแห้ง (干姜) เกี่ยวข้องกับช่องว่างลำตัวส่วนกลาง (จงเจียว 中焦) และฟู่จื่อ (附子) …

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ต้นหอม หัวหอม Read More »

“ถั่วเขียว” อาหารสุขภาพหน้าร้อน

แพทย์จีนในสมัยราชวงศ์ถัง ได้บรรยายถึงสรรพคุณของถั่วเขียวไว้ว่า “สรรพคุณ  เสริมบำรุงหยวนซี่ ปรับประสาน 5 อวัยวะภายใน สงบจิตประสาท วิ่งเส้นลมปราณ 12 เส้น ขับลมที่มากระทำจากภายนอก  ลดน้ำตาลในเลือด ทำให้ผิวนุ่ม ลดบวม รับประทานได้ต่อเนื่องนานๆ”  (绿豆有补益元气,调和五脏,安精神,行十二经脉., 去浮风,止消渴,利肿胀) คัมภีร์ “เปิ่นเฉ่ากังมู่” (本草纲目 ) ก็ได้กล่าวถึงสรรพคุณของถั่วเขียวไว้ว่า “เป็นยาลดบวม ขับพิษ ขับร้อน แก้ร้อนจากแดด และอาการกระหายน้ำ บำรุงจิตประสาทและหยวนซี่ เข้าเส้นลมปราณ หัวใจ กระเพาะอาหาร” ยังเหมาะกับคนที่ไขมันในเลือดสูง  ความดันโลหิตสูง  ขับพิษจากตับ  ยับยั้งการแบ่งตัวของแบคทีเรีย  เหมาะกับทุกวัย รวมถึงเด็กและผู้ใหญ่ เทคนิคการต้มถั่วเขียวให้ได้คุณภาพ “ถั่วเขียว” ถ้าต้มไม่เป็นเนื้อจะไม่สุก ต้มมากไปเนื้อจะเละ การต้มต้องไม่ให้ถั่วเขียวเละ หรือทำให้น้ำต้มถั่วเขียวมีลักษณะขุ่น เพราะจะทำให้ขาดสรรพคุณและรสชาติที่อร่อย ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำในการต้มถั่วเขียว ล้างถั่วเขียวให้สะอาด เอาไปแช่ในน้ำที่เดือดแล้ว 20 นาที แล้วกรองเอาน้ำทิ้ง นำไปต้มกับน้ำเย็นในหม้อด้วยไฟที่แรง นาน 40 นาที …

“ถั่วเขียว” อาหารสุขภาพหน้าร้อน Read More »

อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ แบบแพทย์แผนจีน

มีคำกล่าวของนักโภชนาบำบัดเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของแพทย์จีน กล่าวไว้ว่า “อาหารมื้อเช้าให้รับประทานเหมือนพระราชา”  (早餐吃得要像皇帝 ) “อาหารมื้อกลางวันให้รับประทานเหมือนสามัญชน” (午餐吃得要像平民) “อาหารมื้อค่ำให้รับประทานเหมือนยาจก” (晚餐吃得要像乞丐 ) รับประทานเหมือนพระราชา  บ่งบอกว่า อาหารต้องมีคุณค่าสูง ต้องรับประทานให้อิ่ม มื้อเช้าต้องมีความสำคัญมาก ยังมีการกล่าวเสริมเติมอีกว่า อาหารต้องมีลักษณะฤทธิ์ร้อนด้วย แพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับกระเพาะอาหาร  ซึ่งมีหน้าที่ในการเก็บรับอาหารมาเพื่อทำการย่อยให้ละเอียดเป็นเบื้องต้น    ก่อนจะส่งไปย่อยให้ละเอียดและดูดซึมต่อไป     การย่อยอาหารของกระเพาะอาหารต้องการ ความร้อนในการบีบตัวหรือกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย    กระเพาะอาหารชอบความอุ่นเกลียดกลัวความเย็น (胃喜温恶寒 ) อันตรายจากการไม่รับประทานอาหารเช้า เพิ่มอัตราภาวะท้องผูก  เพราะกระเพาะอาหารลำไส้ไม่ถูกกระตุ้นให้บีบตัว โอกาสเกิดโลหิตจาง ขาดอาหารมื้อสำคัญที่จะไปสร้างเลือด โอกาสอ้วนง่าย (มื้อเช้าอาหารเผาผลาญดี) ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จะใช้งานตลอดวัน  ต้องใช้พลังงานสำรอง   ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ , แก่เร็ว , ระบบย่อยอาหารอ่อนแอในระยะยาว โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี   ถุงน้ำดีเก็บสะสมน้ำดีไว้ช่วงกลางคืน  ถ้าช่วงเช้าไม่ได้รับการกระตุ้น จะทำให้มีการตกตะกอนสะสมตัวเป็นนิ่วได้ เกิดแผลของกระเพาะอาหารและลำไส้ นอนมาตลอดคืน ท้องว่าง มีกรดออกมาแต่ไม่มีอาหาร กระทบการเรียนและการทำงาน เนื่องจากขาดอาหารไปเลี้ยงสมอง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ขาดพลัง  จะทำให้เกิดโรคได้ง่าย   ถ้าเป็นคนที่พื้นฐานไม่แข็งแรง  มีโรคเรื้อรัง อาการจะรุนแรงขึ้น …

อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ แบบแพทย์แผนจีน Read More »

โสมคน (เหรินเซิน 人参) 1 ใน 4 สมุนไพรเทวดา

โสมคน (人参) เป็นสมุนไพรจีนที่ได้รับการกล่าวขานและมีประวัติเรื่องราวที่ใช้ในการรักษาโรคและช่วยชีวิต มายาวนานกว่า 4000 ปี ยาบำรุงอย่างแรงของสมุนไพรจีน 3 อย่าง (三大补品) ที่ได้รับสมญานามว่า “ราชาแห่งสมุนไพร” (百草之王) ได้แก่ โสมคน (人参), เขากวางอ่อน (鹿茸), ราแมลง (ตงฉงเซี่ยเฉ่า : 冬虫夏草) และสมุนไพร 4 อย่างที่ได้รับสมญานามว่า “สุดยอดหญ้า (สมุนไพร) เทวดา ทั้ง 4” (四大仙草) ได้แก่ โสมคน (เหรินเซิน : 人参 ), โส่วอู (首乌), หลิงจือ (灵芝), ราแมลง  (ตงฉงเซี่ยเฉ่า : 冬虫夏草)    เรื่องราวของโสมคน มีเรื่องราวที่กล่าวถึงโสมคนมากมาย เช่น โสมที่มีอายุพันปีจะกลายรูปร่างคล้ายเด็กเล็กๆ วิ่งได้ กระโดดได้ พูดได้ หัวเราะได้ อีกทั้งยังมีความฉลาดมาก …

โสมคน (เหรินเซิน 人参) 1 ใน 4 สมุนไพรเทวดา Read More »

อาหารสมุนไพรจีน สำหรับ ภาวะง่วงนอนและหลับมากผิดปกติ

เรื่องของความผิดปกติของการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นการนอนไม่หลับ ฝันบ่อย การหลับมากผิดปกติ แพทย์แผนจีนมองว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอวัยวะภายในของร่างกายทั้งสิ้น การรักษาภาวะดังกล่าวจึงต้องใช้หลักการปรับสมดุลตามสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล แพทย์แผนจีนอธิบายว่า “พลังเว่ยชี่เคลื่อนออกสู่ภายนอก(เส้นลมปราณหยาง)ก็ทำให้ตื่น  พลังเว่ยชี่เคลื่อนเข้าสู่อวัยวะภายใน ก็ทำให้นอนหลับ” (卫气行于阳则寤,卫气行于阴则寐  ) ช่วงกลางวัน ธรรมชาติของพลังแสงอาทิตย์จะส่งเสริมการขับเคลื่อนพลังเว่ยชี่ (卫气)ของร่างกายออกสู่ภายนอก  ช่วงกลางวันคนส่วนใหญ่จึงมีการตื่นนอนและความกระปรี่กระเปร่า ช่วงเวลากลางคืนพลังเว่ยชี่(卫气)จะเคลื่อนไหวกลับเข้าสู่ภายใน  ทำให้ร่างกายภายนอกขาดความตื่นตัวเข้าสู่ภาวะง่วงเหงาหาวนอนอยากจะหลับ กล่าวสำหรับคนที่มีภาวะง่วงนอนและหลับมากผิดปกติ มักพบในคนอ้วนคนอ้วนซึ่งจำแนกตามศาสตร์แพทย์แผนจีนที่พบบ่อยมีอยู่ 2 ประเภท 1. คนอ้วนประเภทเสมหะความชื้นภายในตกค้างสะสม (痰湿内盛) เนื่องจากระบบม้ามอ่อนแอ ทำหน้าที่ในการย่อยและลำเลียงอาหารได้ไม่ดี หรือเรียกว่าพลังส่วนกลางพร่อง  ทำให้การลำเลียงสารอาหารที่ย่อยสลายไปสู่ส่วนบนไม่ดีพอ โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ พลังเว่ยชี่(卫气)ที่อยู่ภายนอกจะถูกดึงจากภายนอกเพื่อไปช่วยในการย่อยดูดซึมและลำเลียงอาหารทำให้พลังที่ผิวภายนอกลดลงอย่างมาก   ผลที่ตามมาคือเกิดการง่วงนอน ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอาการอื่น ๆ ร่วมเช่น สีหน้าไม่ค่อยมีชีวิตชีวา ศีรษะและหนังตาจะหนักๆ  หน้าอกหน้าท้องมักจะแน่นอึดอัด เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย  2. คนอ้วนประเภทหยางหัวใจและไตพร่อง (心肾阳虚) ขาดพลังความร้อน-ทำให้เกิดความอบอุ่นกับร่างกายผู้ป่วยมักมีใบหน้าขาดความมีชีวิตชีวา อ่อนเพลีย ไม่ค่อยอยากจะเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายเพราะเหนื่อยง่าย แขนขามักจะเย็น ชีพจรเล็ก ไม่มีกำลัง ร่างกายอ่อนแอ เมื่อพลังโดยรวมของร่างกายน้อยลง พลังเว่ยชี่(卫气) เกี่ยวข้องกับการตื่นตัวและการใช้ขับเคลื่อนกิจกรรมการดำเนินชีวิตในภาวะปกติก็น้อยลงด้วย  จึงทำให้เกิดอาการง่วงนอนตลอดเวลา  ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักเป็นคนที่มีโรครุนแรงมาก่อน แล้วไม่รับการดูแลฟื้นฟูที่ดีพอ …

อาหารสมุนไพรจีน สำหรับ ภาวะง่วงนอนและหลับมากผิดปกติ Read More »

อาหารสุขภาพสำหรับ ผู้ป่วยโรคไต

ไตในความหมายแพทย์จีน มีความหมายที่กว้างไม่ได้หมายถึงอวัยวะไต โรคเกี่ยวกับไตจึงไม่ได้หมายถึงไตอักเสบหรือไตวายเรื้อรัง  แต่ครอบคลุมถึงต่อมหมวกไต ระบบฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ ระบบทางเดินปัสสาวะ ภาวะยินหยาง (ร้อนเย็นของระบบต่างๆของร่างกาย) ระบบประสาทอัตโนมัติ ฯลฯ อาหารสุขภาพที่จะแนะนำในบทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง ในทัศนะแผนปัจจุบัน คือ ภาวะที่ไตสูญเสียหน้าที่อย่างเรื้อรัง ทำให้เกิดการคั่งของของเสียและน้ำ การทำงานของไตลดลงเหลือตั้งแต่ 25%-50%  ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากโรคประจำตัว  เช่น เบาหวาน  ความดันโลหิตสูง  กรวยไตอักเสบเรื้อรังและไขมันในเลือดสูง เป็นระยะเวลานานๆ  แม้ว่าผู้ป่วยบางรายจะอยู่ระหว่างการรักษาโดยการ ” ล้างไต ”  โดยเครื่องไตเทียม หรือ ใช้การล้างไตโดยผ่านทางช่องท้อง   การดูแลสุขภาพโดยการปรับเรื่องของอาหารปริมาณโปรตีน  แร่ธาตุ เช่น  โซเดียม  โพแทสเซียม  แมกนีเซียม , ฟอสฟอรัส  เพื่อลดผลที่ข้างเคียงจากการฟอกเลือดรวมถึงลดอาการต่างๆ จากภาวะเสียสมดุลของสารอาหารในร่างกาย เสริมบำรุงโปรตีนให้พอ   แต่ต้องควบคุมไม่ให้มากเกินไป  เพื่อเป็นการลดการทำงานของไต ป้องกันภาวะฟอสเฟตสูง  กรณีที่ไขมันในเลือดสูงให้หลีกเลี่ยงการรับประทานโปรตีนจากสัตว์ เลือกรับประทานโปรตีนจากปลา งดเว้นการรับประทานอาหารประเภทไขมัน หรือ อาหารรสหวานจัด  ควบคุมอาหารรสเค็ม ผงชูรส ซอส  น้ำปลา เกลือ กินอาหารรสธรรมชาติ  ไม่ปรุงแต่ง …

อาหารสุขภาพสำหรับ ผู้ป่วยโรคไต Read More »

อาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับอาการเจ็บคอ

อาการเจ็บคอ เป็นอาการเจ็บในคอ พบได้จากการอักเสบทั้งเฉียบพลันและเรื้อรังในผู้ป่วยคออักเสบ ทอนซิลอักเสบ ทอนซิลเป็นหนอง แผลอักเสบบริเวณคอ มักมีอาการบวมร่วมด้วย มุมมองแพทย์แผนจีนพบว่า ส่วนใหญ่ของอาการเจ็บคอมาจากปัจจัยก่อโรคภายนอก คือ ลมและความร้อน (อากาศที่เปลี่ยนแปลง) จากภายนอกมากระทบร่างกาย หรือในมุมมองแพทย์ปัจจุบันร่างกายถูกโจมตีจากเชื้อโรค  เช่น  แบคทีเรีย นอกจากนี้ยังเกิดจากเหตุภายใน คือ ไฟของกระเพาะอาหารและไฟของปอดทะลวงพุ่งสู่ด้านบน (เข้าบริเวณคอหอย) หรือจากภาวะยินพร่องเกิดไฟกำเริบ (ร่างกายขาดสารน้ำส่วนลึก ทำให้เกิดความร้อนภายใน) หลักการทั่วไปในการดูแลและป้องการรักษาอาการคอแห้ง รับประทานอาหารที่มีรสจืด เช่น แห้ว , ถั่วเขียว ,หัวไชเท้า รับประทานผักผลไม้ที่มีส่วนประกอบของน้ำในปริมาณมาก   ได้แก่  แตงโม , บวบ ,หน่อไม้ , สาลี่ , แตงกวา รับประทานอาหารหรือสมุนไพรที่มีลักษณะขับลมขับความร้อน ให้ความชุ่มชื่นกับคอหอย   ได้แก่ แห้ว , มะเฟือง รับประทานอาหารหรือสมุนไพรที่มีคุณสมบัติขับระบายไฟของปอดและกระเพาะอาหาร  ได้แก่  มะระ , ดอกสายน้ำผึ้ง , ถั่วเขียว ,หล่อฮั่งก้วย รับประทานอาหารที่มีสรรพคุณเสริมยิน …

อาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับอาการเจ็บคอ Read More »

5 อวัยวะภายใน กับอาหารและการดูแล

เคยกล่าวมาตลอดว่า การดูแลสุขภาพต้องให้การดูแลแบบองค์รวม ไม่เน้นดูแลอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง จนลืมดูแลส่วนอื่นๆในร่างกายไป วันนี้เราจะมาเรียนรู้การดูแลอวัยวะตับ ไต หัวใจ ม้าม และปอด โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ไปดูกันว่าอาหารและการดูแลอวัยวะแต่ละส่วนนั้น มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง อาหารและการดูแลอวัยวะตับ การนอนหลับกลางคืนต้องหลับสนิท โดยเฉพาะช่วง 1.00-3.00 น. กินผักผลไม้สีเขียว สีเขียวเข้าอวัยวะตับ ขับพิษขับร้อนในตับ เช่น มะนาว ส้มโอ กินผักผลไม้สีเขียว สีเขียวเข้าอวัยวะตับ ขับพิษขับร้อนในตับ เช่น มะนาว ส้มโอ เคี้ยวเก่ากี้หรือชงน้ำเก่ากี้ ดื่มเป็นประจำ ช่วยบำรุงตับและขับสารพิษ กดจุดไท่ชง(太冲穴) บ่อยๆ ครั้งละ 3-5 นาที การร้องไห้ ระบายพิษของตับ(ตับเปิดทวารที่ตา) เป็นการไห้ช่วยระบายความเครียดทางอารมณ์ อาหารและการดูแลอวัยวะหัวใจ ดีบัว-ขับพิษร้อนหัวใจ ใช้ดีบัว  10 กรัม  ใบไผ่ 1 กำมือ ใส่ชะเอมเทศ 5-6 แผ่น ต้มดื่ม ช่วงเวลา 11.00-13.00 น.พลังวิ่งในเส้นลมปราณหัวใจสูงสุด  …

5 อวัยวะภายใน กับอาหารและการดูแล Read More »

เรื่องของ “เนื้อหมู”

หมู เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีมาช้านาน เช่นเดียวกับแพะ มีบันทึกจากตัวอักษรจีนในกระดองเต่าและกระดูก (甲骨文) เมื่อ 4,000 กว่าปีมาแล้ว คำว่าบ้าน (家) ซึ่งมีส่วนประกอบของตัวบ้าน (房) และเลี้ยงหมูอยู่ข้างล่าง (豕) แสดงว่าทุกบ้านล้วนมีการเลี้ยงหมู หมูเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่ชอบเคลื่อนไหว ทั้งวันเอาแต่นอน มีแต่ตอนกินอาหารเท่านั้นที่จะมีการเคลื่อนไหว จะมีคอก มีบริเวณให้อยู่ ทำให้จำกัดการเคลื่อนไหว อาหารที่กินมักจะเป็นของเหลว อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ชื้นแฉะ ตามคัมภีร์หวงตี้เน่ยจิง กล่าวว่า “ยินสงบ หยางเคลื่อนไหว” (阴静阳躁) สัตว์ที่เคลื่อนไหวมากจะเป็นหยาง สัตว์ที่เคลื่อนไหวน้อยจะเป็นยิน ดังนั้น นก วัว แพะ ม้า สุนัข จึงจัดเป็นสัตว์ประเภทหยาง หมูจึงจัดเป็นสัตว์ประเภทยิน เนื้อหมู (猪肉) มีลักษณะฤทธิ์เย็น รสเค็มเข้าเส้นลมปราณไต การกินเนื้อหมูจึงมักไม่เกิดไฟในร่างกายง่ายแต่จะเสริมยิน ทำให้อ้วน มีการสะสมไขมัน (ความชื้นเสมหะ) ในร่างกายมาก เช่นเดียวกับลักษณะของหมู                ส่วนต่างๆ ของหมูมีคุณสมบัติในการบำรุงร่างกายต่างกัน                1. ไตหมู ใช้รักษาภาวะไตพร่อง …

เรื่องของ “เนื้อหมู” Read More »