โภชนาการและอาหาร

การกินเจ กับผักต้องห้ามทั้ง 5

ประเพณีการกินเจ ได้กำหนดนับเอาวันจันทรคติ คือเริ่มตั้งแต่ วันขึ้น 1 ค่ำถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน รวม 9 วัน 9 คืน เรื่องระหว่างการกินเจ ถ้าจะเคร่งครัดจริงๆ ต้องถือศีล8 (อุโบสถศีล)ควบคู่กันไปด้วย เพื่อดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา และใจ  การกินเจ คือการไม่กินอาหารคาว ซึ่งรวมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และพืชผักที่มีกลิ่นฉุน การไม่กินเนื้อสัตว์ เพื่องดการทำอันตรายต่อสัตว์ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ทั้งปวงที่ทำมาจากสัตว์ พระในนิกายมหายาน(พระจีน)มักเคร่งครัดการห้ามกินเนื้อสัตว์มากกว่าพระในนิกายหินยาน อย่างไรก็ตาม “อาหารคาวทั้ง 5”五荤 ไม่ว่าจะเป็นทางพุทธและทางเต๋า ไม่ได้มีความหมายถึงอาหารประเภทเนื้อ แต่มีความหมายถึงพืชผักที่มีกลิ่นฉุนทั้ง 5 การงดอาหารดังกล่าว แม้จะทำให้ภาวะจิตใจสงบลง แต่บางคนอาจเกิดปัญหาต่อสุขภาพได้ เพราะสภาพร่างกายพร่องหรึอเย็นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว จะทำให้ร่างกายถูกยั้บยั้งหรือเป็นยินมากขึ้น จะทำให้ไม่ค่อยสบายตัว อ่อนเพลีย บางคนอาจมองว่าร่างกายกำลังขับสารพิษแต่เพียงด้านเดียว การเรียนรู้ฤทธิ์และรสรวมถึงสรรพคุณของอาหารและนำมาประยุกต์ให้สอดคล้องกับสภาพร่างกายที่เป็นจริง “อาหารคาวทั้ง 5”五荤 กระเทียมโทน(薤 )มีฤทธิ์อุ่น รสเผ็ดขม …

การกินเจ กับผักต้องห้ามทั้ง 5 Read More »

ความสำคัญของหัวใจ ในทัศนะแพทย์แผนจีน

หัวใจเป็นหนึ่งในอวัยวะตัน มีเยื่อหุ้มหัวใจปกคลุมห่อหุ้มอยู่ภายนอก หัวใจเปรียบเสมือน จ้าวแห่งชีวิต (生命之主宰) เป็นแกนหลักของอวัยวะภายในทั้งหมด(五脏六腑之大主) 1. อวัยวะหัวใจ สัมพันธ์กับจิตใจ ความนึกคิด การรับรู้และการตอบสนอง จึงสามารถมองการทำงานของหัวใจจากแววตา สีหน้า ราษี ความมีชีวิตชีวา การรับรู้ตอบสนองต่อสื่งกระตุ้น อวัยวะรับความรู้สึก หู ตา จมูก ลิ้น – หัวใจที่เป็นเลือดเนื้อ(血肉之心) ความหมายใกล้เคียงกับอวัยวะหัวใจทางกายวิภาค อยู่ในช่องอกระหว่างปอดและตับ แนวระดับกระดูกสันหลังที่ 5 – หัวใจที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกนึกคิดหรือจิตใจ (神明之心) ทำหน้าที่ในการรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก ความรู้สึกตัว การรับรู้ การคิด อารมณ์ ฯลฯ 2. หัวใจกำกับหลอดเลือดชีพจร (心主血脉) การทำหน้าที่ที่สมบูรณ์ของหัวใจอาศัย 3 ปัจจัยที่สำคัญ คือ พลังหยางของหัวใจที่สมบูรณ์เต็มเปี่ยม เป็นตัวกำหนด แรงบีบตัว อัตราการเต้นและจังหวะการเต้นของหัวใจ เลือดที่เพียงพอและคุณภาพเลือดที่ดี กำหนดปริมาณเลือดที่ไหลเวียนในเส้นเลือด ทางเดินเลือดไม่ติดขัด กำหนดการไหลเวียนที่คล่องตัวเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย 3. หัวใจกำกับหลอดเลือดชีพจร ความอุดมสมบูรณ์แสดงออกบนใบหน้า เปิดทวารที่ลิ้น   …

ความสำคัญของหัวใจ ในทัศนะแพทย์แผนจีน Read More »

7 อาหารป้องกัน โรคหลอดเลือดสมอง

คนสูงอายุ มักจะมีปัญหาเรื่องของหลอดเลือดแข็งตัว จากสาเหตุความเสื่อมตามอายุขัยหรือจากโรคความดันโลหิตสูง  โรคไขมันในเลือดสูง  เบาหวานที่เป็นมาหลายปีแม้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาอย่างดีด้วยยามาอย่างต่อเนื่องก็ตาม หลอดเลือดแข็งตัว  ทำให้อวัยวะสำคัญๆ เกิดปัญหาได้ง่าย  เช่น สมอง หัวใจ และไต ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองแข็งตัว  มีโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก เกิดอัมพฤกษ์ – อัมพาต อีกทั้งทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ง่าย, ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจแข็งตัว ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน จะทำให้หัวใจขาดเลือด, ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตเสื่อมแข็งตัว ทำให้ไตฝ่อ ไตทำหน้าที่น้อยลงเกิดภาวะไตวาย ปรมาจารย์แพทย์จีน หลี่สือเจิน ( 李时珍)  กับเคล็ดลับ 7 อาหาร ป้องกันรักษาโรคหลอดเลือดสมอง 1. เก๋อเกิน  (葛根) หรือโสมภูเขา  ( 山人参 ) สรรพคุณ เสริมธาตุน้ำ  ขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือดต้านมะเร็ง ป้องกันการตายของเซลล์ประสาทสมอง  สูตรการทำอาหารง่ายๆ โดยใช้ เก๋อเกิน 30 กรัม, ข้าวสาร 50 กรัม เอามาทำข้าวต้ม …

7 อาหารป้องกัน โรคหลอดเลือดสมอง Read More »

5 เรื่องควรรู้ ก่อนดื่ม “ชา”

ชาเขียว มีฤทธิ์ค่อนไปทางเย็นหรือเย็นมาก มีสรรพคุณระบายความร้อน ขับไฟออกจากร่างกาย ควรจะต้องเป็นไฟหรือความร้อนส่วนเกิน (ไม่ใช่ความร้อนของพลังหยางของร่างกาย) โดยเฉพาะความร้อนบริเวณส่วนบนของร่างกาย เช่น ช่องปาก ตา คอหอย เรื่องควรรู้..ก่อนดื่มชา 1. ชาเขียวไม่เหมาะสมกับคนที่มีภาวะหยางของไตพร่อง (พลังหยางน้อย) เพราะชาเขียว มีฤทธิ์ค่อนไปทางเย็นหรือเย็นมาก มีสรรพคุณระบายความร้อน ขับไฟออกจากร่างกาย ควรจะต้องเป็นไฟหรือความร้อนส่วนเกิน (ไม่ใช่ความร้อนของพลังหยางของร่างกาย) โดยเฉพาะความร้อนบริเวณส่วนบนของร่างกาย เช่น ช่องปาก ตา คอหอย จึงจะทำให้ร่างกายด้านล่าง เย็น เป็นตะคริว  ปวดเมื่อยเอว และเข่าไม่มีกำลัง ปัสสาวะบ่อย กล้ามเนื้อขาอ่อนกำลัง 2. ไม่ควรดื่มชาที่แช่เย็น เพราะจะทำให้ทำลายหยางชี่ได้รุนแรงขึ้น (เพราะชาก็เย็นอยู่แล้วยังอยู่ในสภาพเย็นอีก) 3. ไม่ควรดื่มชาขณะท้องว่าง ควรดื่มหลังอาหารเท่านั้น ทำให้กระเพาะอาหารกระทบความเย็นโดยตรง การดูดซึมของชาเข้าสู่ร่างกายรวดเร็ว ทำลายร่างกายได้เร็วขึ้น สังเกตได้เวลาดื่มชาขณะท้องว่าง จะทำให้ปวดท้อง ใจสั่น คลื่นไส้ได้ 4. ไม่ควรดื่มชาแก้วใหญ่ๆ ดื่มตลอดวัน หรือดื่มแทนน้ำ ควรดื่มชาอุ่น 2 – 5 …

5 เรื่องควรรู้ ก่อนดื่ม “ชา” Read More »

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ต้นหอม หัวหอม

ในชีวิตประจำวันเรามักจะคุ้นเคยกับผักปรุงรสประเภท ต้นหอม กระเทียม ขิง ความจริงสมุนไพรที่ใช้ในชีวิตประจำวันเหล่านี้ล้วนสามารถนำมาปรับใช้ในการป้องกันและดูแลสุขภาพได้ทั้งสิ้น ต้นหอม มีอีกฉายาว่า ผักพี่ใหญ่ (菜伯) หรือผักของปอด (肺之菜) บ่งบอกถึงการให้ความสำคัญกับต้นหอม ต้นหอมรับประทานสด ฤทธิ์ร้อน รสเผ็ด กระจาย เมื่อนำไปต้มหรือทำให้สุกจะมีฤทธิ์อุ่นรสหวาน ทำให้มีคุณสมบัติแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง 1. รับประทานเป็ดย่างปักกิ่งจึงต้องกินร่วมกับต้นหอม เป็ดเป็นอาหารที่มีฤทธิ์เย็น การนำไปปรุงเป็นอาหารจึงมักใช้กรรมวิธีทำให้แปรสภาพฤทธิ์เย็นให้ไปทางฤทธิ์ร้อน เพื่อให้เกิดความสมดุล เช่น ใช้การย่าง การทำเป็ดพะโล้ เป็นต้น ดังนั้นการรับประทานเป็ดย่างห่อด้วยแผ่นแป้งและต้นหอม จึงมีจุดมุ่งหมายในการลดฤทธิ์เย็นของเป็ด ทำให้อาหารที่รับประทานมีความสมดุลนั่นเอง 2. ต้นหอม เข้าเส้นลมปราณปอด กระตุ้นการขับเหงื่อ เปิดทวาร ต้นหอม ช่วยเปิดทวารส่วนบน ทำให้จมูกโล่ง ทวารส่วนล่างคือทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัว ช่วยการขับถ่ายอุจจาระ 3. ต้นหอม จัดเป็นสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับการอุ่นกระจายพลัง ถ้าเปรียบเทียบสมุนไพรในการอุ่นกระจายพลัง ต้นหอม (白葱) จัดว่าเป็นสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับช่องว่างลำตัวส่วนบน (ซ่างเจียว (上焦)ขิงแห้ง (干姜) เกี่ยวข้องกับช่องว่างลำตัวส่วนกลาง (จงเจียว 中焦) และฟู่จื่อ (附子) …

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ต้นหอม หัวหอม Read More »

“ถั่วเขียว” อาหารสุขภาพหน้าร้อน

แพทย์จีนในสมัยราชวงศ์ถัง ได้บรรยายถึงสรรพคุณของถั่วเขียวไว้ว่า “สรรพคุณ  เสริมบำรุงหยวนซี่ ปรับประสาน 5 อวัยวะภายใน สงบจิตประสาท วิ่งเส้นลมปราณ 12 เส้น ขับลมที่มากระทำจากภายนอก  ลดน้ำตาลในเลือด ทำให้ผิวนุ่ม ลดบวม รับประทานได้ต่อเนื่องนานๆ”  (绿豆有补益元气,调和五脏,安精神,行十二经脉., 去浮风,止消渴,利肿胀) คัมภีร์ “เปิ่นเฉ่ากังมู่” (本草纲目 ) ก็ได้กล่าวถึงสรรพคุณของถั่วเขียวไว้ว่า “เป็นยาลดบวม ขับพิษ ขับร้อน แก้ร้อนจากแดด และอาการกระหายน้ำ บำรุงจิตประสาทและหยวนซี่ เข้าเส้นลมปราณ หัวใจ กระเพาะอาหาร” ยังเหมาะกับคนที่ไขมันในเลือดสูง  ความดันโลหิตสูง  ขับพิษจากตับ  ยับยั้งการแบ่งตัวของแบคทีเรีย  เหมาะกับทุกวัย รวมถึงเด็กและผู้ใหญ่ เทคนิคการต้มถั่วเขียวให้ได้คุณภาพ “ถั่วเขียว” ถ้าต้มไม่เป็นเนื้อจะไม่สุก ต้มมากไปเนื้อจะเละ การต้มต้องไม่ให้ถั่วเขียวเละ หรือทำให้น้ำต้มถั่วเขียวมีลักษณะขุ่น เพราะจะทำให้ขาดสรรพคุณและรสชาติที่อร่อย ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำในการต้มถั่วเขียว ล้างถั่วเขียวให้สะอาด เอาไปแช่ในน้ำที่เดือดแล้ว 20 นาที แล้วกรองเอาน้ำทิ้ง นำไปต้มกับน้ำเย็นในหม้อด้วยไฟที่แรง นาน 40 นาที …

“ถั่วเขียว” อาหารสุขภาพหน้าร้อน Read More »

ยาจีน ทำไมจึงมีคำกล่าวว่า “ถ้าเป็นยา มีพิษ 3 ส่วน”

ความเชื่อว่า  ยิ่งบำรุงมาก  ยิ่งมีสุขภาพดี  เป็นแนวคิดสุดโต่งด้านเดียว  ตามทัศนะแพทย์แผนจีน การดูแลสุขภาพที่แท้จริง  ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน  คือ  การเน้นเรื่องอาหารและการดำเนินชีวิต การนอน การพักผ่อน   อารมณ์ความนึกคิด (การมองโลกและการเข้าใจชีวิต) การมีเพศสัมพันธ์ที่พอเหมาะ การปฏิบัติตัวตามวิถีธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงยินหยาง (กลางวัน  กลางคืน  และฤดูกาล) การใช้ยาสมุนไพร อาหารสมุนไพร ถือเป็นตัวประกอบเสริมสำหรับคนทั่วไปที่สุขภาพดีหรือมีความเจ็บป่วยเล็กน้อย ส่วนคนที่สุขภาพไม่ดี หรือมีความเสื่อมของร่างกายมาก ซึ่งปัจจุบันมีผลจากหลายปัจจัย เช่น ภาวะมลพิษสิ่งแวดล้อม อาหาร ปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ทำให้ร่างกายทรุดโทรม จิตใจแปรปรวน เกิดภาวะที่เสียสมดุลและเป็นรากฐานของการเกิดโรคในเวลาต่อมา หรือบางรายเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ตรวจพบว่าเป็นโรค คนประเภทนี้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การกิน การนอน ภาวะทางจิตใจที่เหมาะสม และการบำรุงดูแลด้วยอาหารสมุนไพร หรือยาสมุนไพร แต่เนื่องจากยาสมุนไพร ใช้ฤทธิ์ที่มีความโน้มเอียงไปทางการปรับสมดุลที่รุนแรงมากกว่าอาหาร การใช้ยาสมุนไพรปรับสมดุลที่ผิดจะนำมาซึ่งการเสียสมดุลมากขึ้น หรือถ้าใช้ไปนานๆ โดยไม่เข้าใจสภาพร่างกายและตัวยาสมุนไพรที่ใช้ จะทำให้สุขภาพเสียหายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง เช่น  ถั่งเช่า (冬虫夏草) เป็นสมุนไพรรสหวาน ฤทธิ์อุ่น มีสรรพคุณค่อนไปทางบำรุงหยาง (ทำให้ร่างกายอุ่นร้อนขึ้น) …

ยาจีน ทำไมจึงมีคำกล่าวว่า “ถ้าเป็นยา มีพิษ 3 ส่วน” Read More »

9 ข้อ 1 นาที สุขภาพดีก่อนลุกตื่นจากที่นอน

ช่วงเวลานอนหลับสมองใหญ่ของคนเราอยู่ระหว่างผ่อนคลาย การไหลเวียนของเลือดทั้งร่างกายน้อย ปริมาณเลือดก็น้อย (เนื่องจากตอนหลับ 6 – 8 ชั่วโมง ไม่ได้มีการรับประทานอาหารและน้ำเข้าสู่ร่างกาย มีแต่การเสียน้ำเสียเหงื่อ รวมทั้งกรองเป็นปัสสาวะ) ถ้าร่างกายเปลี่ยนสภาพจากนอนหลับเป็นตื่นทันที จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันสูงขึ้นทันที ความต้องการเลือดของสมองและหัวใจมีมากขึ้น แต่ระบบประสาทอัตโนมัติของคนสูงอายุจะปรับตัวไม่ดีเหมือนตอนหนุ่มสาว(โดยเฉพาะถ้ามีโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง หรือร่างกายมีโรคเรื้อรังอยู่แล้ว) จึงเกิดอุบัติเหตุ เช่น เวียนศีรษะ เป็นลม หกล้ม จนกระทั่งการเกิดภาวะเส้นเลือดสมองตีบแตก หรือหัวใจขาดเลือดได้ง่าย เทคนิคปฏิบัติ 9 ข้อ 1 นาที จะเป็นการเตรียมตัว ก่อนลุกจากที่นอนโดยเฉพาะคนสูงอายุ ใช้นิ้วมือหวีผม1 นาที (手指梳头一分钟) จากหน้าผากถึงท้ายทอย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณสมอง ป้องกันโรคหลอดเลือดในสมอง และทำให้ผมดกเงางาม นวดหูเบาๆ 1 นาที (轻揉耳轮一分钟) นวดขอบหูเบาๆซ้ายขวาทั้งสองข้าง จากขอบหูบนสู่ขอบหูล่างจนเกิดความรู้สึกร้อนผ่าว แล้วนวดในแอ่งหูทุกแอ่งรวมทั้งใช้นิ้วแหย่เข้าในรูหูและกระตุ้นเบาๆ เนื่องจากใบหูมีจุดสะท้อนร่างกายทั่วร่างกาย การกระตุ้นใบหูจึงเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทั้งร่างกาย เคลื่อนไหวดวงตา 1 นาที (转动眼睛一分钟) ปิดเปลือกตา แล้วกลอกตาตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกาสลับกัน เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อตา …

9 ข้อ 1 นาที สุขภาพดีก่อนลุกตื่นจากที่นอน Read More »

อาหารสมุนไพรป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัว

คนอายุมาก มักจะมีปัญหาเรื่องของหลอดเลือดแข็งตัว  จากสาเหตุความเสื่อมตามอายุขัยหรือจากโรคความดันโลหิตสูง  โรคไขมันในเลือดสูง  เบาหวานที่เป็นมาหลายปี แม้ว่าจะได้รับการบำบัดดูแลรักษาอย่างดีด้วยยามาอย่างต่อเนื่องก็ตาม                          หลอดเลือดแข็งตัว   ทำให้อวัยวะสำคัญๆ เกิดปัญหาได้ง่าย  เช่น  สมอง  หัวใจ  ไต หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองแข็งตัว  มีโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก  เกิดอัมพฤกษ์อัมพาต  อีกทั้งทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ง่าย  หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจแข็งตัว ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย,  หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน ทำให้หัวใจขาดเลือด   หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตเสื่อมแข็งตัว  ทำให้ไตฝ่อ  ไตทำหน้าที่น้อยลง เกิดภาวะไตวาย หลอดเลือดทั่วร่างกายแข็งตัว  อวัยวะต่างๆทุกส่วนของร่างกายขาดเลือดหล่อเลี้ยง   เกิดอาการไม่สบายทั้งตัว  ปลายมือปลายเท้าชา  กล้ามเนื้ออ่อนแรง  ร่างกายอ่อนเพลีย การดูแลหลอดเลือดให้แข็งแรง  ยืดหยุ่น  ควบคุมภาวะความดันสูง จึงเป็นการดูแลสมอง , หัวใจ และสุขภาพโดยรวม ปรมาจารย์แพทย์จีน หลี่สือเจิน ( 李时珍 )  กับ เคล็ดลับอาหาร ป้องกันรักษาโรคสมอง ด้วยอาหารและสมุนไพรหลายตัว เช่น 1.เก๋อเกิน  (葛根) บางคนเรียกว่า โสมภูเขา  ( 山人参 ) …

อาหารสมุนไพรป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัว Read More »

อาหารสมุนไพรจีน ลดไขมันในเลือด

ถ้าเปรียบหลอดเลือดของร่างกายเหมือนกับแม่น้ำสายหนึ่ง มีโคลนตมหรือขยะตกค้างเมื่อมีการสะสมมากขึ้นมากขึ้น  การไหลเวียนของน้ำในแม่น้ำจะช้าลงช้าลง  หรือในที่สุดก็จะเอ่อล้นท่วมออกนอกแม่น้ำ  เช่นเดียวกับหลอดเลือดของคนที่มีภาวะไขมันในเลือดมาก จะทำให้การไหลเวียนเลือดติดขัด ช้าลง  ซึ่งจะตามมาด้วยปัญหาหัวใจขาดเลือด  หลอดเลือดสมองตีบหรือแตก ภาวะไขมันในเลือดสูง ในทัศนะแพทย์จีนเกี่ยวข้องกับการสะสมของตัวเสมหะความชื้น (痰湿 ) และภาวะเลือดคั่งค้างไหลเวียนไม่คล่อง (血瘀 ) เสมหะและความชื้นที่สะสมตัว มีพื้นฐานจากการทำงานของระบบย่อย (กระเพาะอาหารและม้าม)  ไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมอาหารได้หมด   เนื่องจากการบริโภคอาหารที่ก่อให้เกิดภาวะร้อนชื้นมากเกินไป หรือเกิดจากระบบย่อยอาหารอ่อนแอ ไม่มีพลังในการย่อยสลายอาหารได้อย่างเต็มที่ ภาวะเลือดคั่งค้างไม่ไหวเวียน  มักเกิดจากพลังหยาง (阳气) ของร่างกายอ่อนแอ   ไม่มีพลังในการขับเคลื่อนการไหลเวียนของเลือด  ทำให้เลือดคั่งค้างไหลเวียนช้า  ทั้งสองภาวะก่อตัวให้เลือดหนืด เคลื่อนตัวช้า  ยิ่งทำให้มีการสะสมของขยะ (เสมหะความชื้นและเลือด)  มากยิ่งขึ้น จนเกิดการตีบตันหรือแตกในที่สุด แนวทางในการรักษาภาวะไขมันในเลือดสูง ต้องคำนึงถึง อย่างน้อย 2 ด้าน เน้นที่การขับเสมหะความชื้นและกระจายเลือดคั่งค้าง   เป็นการรักษาอาการหรือปรากฏการณ์ เน้นการเสริมสร้างที่การปรับการทำงานของระบบกระเพาะอาหารและม้าม  รวมทั้งพลังหยาง (阳气) ตำรับที่ 1  อาหารสมุนไพรสำหรับลดไขมันในเลือด เต้าหู้  เห็ดหูหนูดำ  สาหร่ายทะเล (จี๋ฉ่าย) เนื้อหมูแดง ขิงสด สรรพคุณ                     เต้าหู้   ทำมาจากถั่วเหลือง  …

อาหารสมุนไพรจีน ลดไขมันในเลือด Read More »

อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ แบบแพทย์แผนจีน

มีคำกล่าวของนักโภชนาบำบัดเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของแพทย์จีน กล่าวไว้ว่า “อาหารมื้อเช้าให้รับประทานเหมือนพระราชา”  (早餐吃得要像皇帝 ) “อาหารมื้อกลางวันให้รับประทานเหมือนสามัญชน” (午餐吃得要像平民) “อาหารมื้อค่ำให้รับประทานเหมือนยาจก” (晚餐吃得要像乞丐 ) รับประทานเหมือนพระราชา  บ่งบอกว่า อาหารต้องมีคุณค่าสูง ต้องรับประทานให้อิ่ม มื้อเช้าต้องมีความสำคัญมาก ยังมีการกล่าวเสริมเติมอีกว่า อาหารต้องมีลักษณะฤทธิ์ร้อนด้วย แพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับกระเพาะอาหาร  ซึ่งมีหน้าที่ในการเก็บรับอาหารมาเพื่อทำการย่อยให้ละเอียดเป็นเบื้องต้น    ก่อนจะส่งไปย่อยให้ละเอียดและดูดซึมต่อไป     การย่อยอาหารของกระเพาะอาหารต้องการ ความร้อนในการบีบตัวหรือกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย    กระเพาะอาหารชอบความอุ่นเกลียดกลัวความเย็น (胃喜温恶寒 ) อันตรายจากการไม่รับประทานอาหารเช้า เพิ่มอัตราภาวะท้องผูก  เพราะกระเพาะอาหารลำไส้ไม่ถูกกระตุ้นให้บีบตัว โอกาสเกิดโลหิตจาง ขาดอาหารมื้อสำคัญที่จะไปสร้างเลือด โอกาสอ้วนง่าย (มื้อเช้าอาหารเผาผลาญดี) ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จะใช้งานตลอดวัน  ต้องใช้พลังงานสำรอง   ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ , แก่เร็ว , ระบบย่อยอาหารอ่อนแอในระยะยาว โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี   ถุงน้ำดีเก็บสะสมน้ำดีไว้ช่วงกลางคืน  ถ้าช่วงเช้าไม่ได้รับการกระตุ้น จะทำให้มีการตกตะกอนสะสมตัวเป็นนิ่วได้ เกิดแผลของกระเพาะอาหารและลำไส้ นอนมาตลอดคืน ท้องว่าง มีกรดออกมาแต่ไม่มีอาหาร กระทบการเรียนและการทำงาน เนื่องจากขาดอาหารไปเลี้ยงสมอง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ขาดพลัง  จะทำให้เกิดโรคได้ง่าย   ถ้าเป็นคนที่พื้นฐานไม่แข็งแรง  มีโรคเรื้อรัง อาการจะรุนแรงขึ้น …

อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ แบบแพทย์แผนจีน Read More »

อาหารกับการป้องกันและรักษาสิว แบบแพทย์แผนจีน

สิวเกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันมาก และมีการอุดกลั้นทางเดินของไขมัน หากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ก็จะทำให้เกิดสิวอักเสบหรือเป็นหนอง โดยส่วนใหญ่แล้วสิวจะขึ้นตามบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก ได้แก่ บริเวณใบหน้า หลัง หรือ หน้าอก ฮอร์โมนเพศชาย แอนโดรเจน มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดสิวในเด็กวัยรุ่น การเพิ่มขึ้น ฮอร์โมนนี้จะเริ่มสร้างเมื่ออายุ 11-14 ปี จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันสร้างไขมันเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ  ไขมันที่มากขึ้นและร่วมกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดการอุดตันจนและเกิดสิวมากในวัยนี้และอาจจะเป็นอยู่นานหลายปี ปัจจัยหลายอย่างสามารถกระตุ้นทำให้อาการของสิวเป็นมากและรุนแรงขึ้น เช่น การบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ได้แก่ น้ำตาล แป้ง อาหารมัน หรือนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัวมากเกินไป  การสูบบุหรี่  การใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน  รวมถึงภาวะความเครียด การพักผ่อนนอนหลับที่ไม่เพียงพอและนอนดึก  จะส่งผลให้ระบบฮอร์โมนทำงานไม่สมดุล และทำให้มีปริมาณสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น สิวในมุมมองแพทย์แผนจีน ปอดกำกับผิวหนัง สาเหตุสำคัญของการเกิดสิวมีหลายประการ เช่น  สาเหตุจากความร้อนของเส้นลมปราณปอด ภาวะร้อนชื้นของกระเพาะอาหารและม้าม  เลือดติดขัดเสมหะเกาะตัว  เส้นลมปราณชงและเริ่นเสียสมดุล(ระบบฮอร์โมนแปรปรวน) แพทย์จีนมองว่าสิวบนใบหน้าเป็นภาพสะท้อนความเสียสมดุลของอวัยวะภายใน ผิวหนังบนใบหน้า  นอกจากเกี่ยวข้องกับอวัยวะปอดแล้ว ยังเป็นทางเดินของเส้นลมปราณกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่  ลำไส้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับปอด กระเพาะอาหารที่ร้อน(จากการกินของเผ็ดร้อน หวานมัน เนื้อสัตว์มากๆ)หรือกระเพาะอาหารเย็นเกิน(จากการรับประทานอาหารฤทธิ์เย็น น้ำแข็ง เครื่องดื่มเย็นมากเกินไป) ทำให้การไหลเวียนของเส้นลมปราณบริเวณใบหน้าติดขัด มีการเกาะตัวของเลือดและเสมหะ การสะสมหมักหมมทำให้เกิดไฟ …

อาหารกับการป้องกันและรักษาสิว แบบแพทย์แผนจีน Read More »

มะเร็งรังไข่ กับอาหารสมุนไพรจีน

มะเร็งรังไข่ (Ovarian cancer) เป็นมะเร็งพบบ่อยทั่วโลกรวมทั้งในผู้หญิงไทย (เป็น 1 ใน 10 โรคมะเร็งพบบ่อย) โดยทั่วไปพบได้ทั้งในเด็กโตและในผู้ใหญ่ ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ความผิดปกติทางพันธุกรรม โอกาสพบโรคได้สูงขึ้นในคนมีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งรังไข่  โรคมะเร็งเต้านม และ/หรือโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่  มักพบโรคในอายุ 50 ปีขึ้นไป พบโรคในคนอ้วนสูงกว่าในคนผอม  โอกาสพบโรคนี้ได้สูงในคนมีประจำเดือนเร็วคือ อายุต่ำกว่า 12 ปี หรือหมดประจำเดือนช้าคือช้ากว่าอายุ 55 ปี หรือมีประวัติจากใช้ยากระตุ้นการตกไข่ ในการรักษาภาวะมีบุตรยากหรือจากใช้ยาฮอร์โมนเพศชดเชยในช่วงวัยหมดประจำเดือน จากสถิติพบว่าส่วนใหญ่ของผู้ป่วยที่มาพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่มักเป็นระยะที่ 3มากที่สุด นั่นหมายถึง การตรวจพบหรือจะได้รับการรักษามักอยู่ในระยะลุกลาม  เพราะเริ่มต้นจะ มีอาการอาจมีแค่ท้องอืดเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ท้องโตขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่คิดว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ทำให้รักษาผิดทางมาตลอด การวินิจฉัยโรคมะเร็งรังไข่ ต้องทำการตรวจภายในและตรวจร่างกายอย่างละเอียด ซึ่งมักคลำพบก้อนที่ปีกมดลูกส่วนใหญ่  ตรวจเพิ่มเติมด้วยการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง(Ultrasound )  บางกรณีที่ต้องการประเมินมีการลุกลามไปอวัยวะส่วนอื่นในช่องท้องว่ามากน้อยเพียงใด อาจมีการส่งตรวจที่ละเอียดยิ่งขึ้น เช่น การตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ CT หรือ MRI  รวมถึงการเจาะเลือดหาค่าบ่งมะเร็ง ( tumor marker)เพื่อช่วยในการวินิจฉัยและตรวจติดตามผลการรักษา …

มะเร็งรังไข่ กับอาหารสมุนไพรจีน Read More »

กล้วยหอม ในทัศนะแพทย์แผนจีน

กล้วยหอมเป็นผลไม้เมืองร้อน พบได้ทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น มณฑลฝูเจี้ยน กวางตุ้ง ยูนนาน กล้วยหอมสุกมีส่วนประกอบของแป้งร้อยละ 0.5 โปรตีนร้อยละ 1.3 ไขมันร้อยละ 0.6 น้ำตาลร้อยละ 11 นอกจากนี้ยังมีวิตามิน เอ บี ซี อี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก รวมถึง 5-ไฮดร็อกซีทริปทามีน (5-hydroxytryptamin) นอร์อะดรีนาลิน (noradrenaline) และโดพามีน (dopamine) ในปริมาณเล็กน้อย ในทัศนะแพทย์แผนจีน กล้วยหอมมีรสหวาน ฝาดเล็กน้อย รสเย็นมาก เข้าเส้นลมปราณ ปอด และลำไส้ใหญ่ สรรพคุณ 1. เนื่องจากฤทธิ์เย็นและเข้าเส้นลมปราณปอด จึงมีการนำกล้วยหอมมาใช้รักษาโรคร้อน กระหายน้ำ (การถ่ายทอดสดกีฬาเทนนิสจากต่างประเทศ มีนักกีฬาระดับโลกหลายคนช่วงพักระหว่างการแข่งขัน หยิบกล้วยหอมขึ้นมากิน) แผลอักเสบ บวม แก้เมาเหล้า ไอเรื้อรัง 2. เข้าเส้นลมปราณลำไส้ใหญ่ ทำให้ลำไส้ใหญ่ไม่แห้ง แก้ท้องผูก ถ่ายเป็นเลือด 3. …

กล้วยหอม ในทัศนะแพทย์แผนจีน Read More »

อาหารสมุนไพรจีน สำหรับ ภาวะง่วงนอนและหลับมากผิดปกติ

เรื่องของความผิดปกติของการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นการนอนไม่หลับ ฝันบ่อย การหลับมากผิดปกติ แพทย์แผนจีนมองว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอวัยวะภายในของร่างกายทั้งสิ้น การรักษาภาวะดังกล่าวจึงต้องใช้หลักการปรับสมดุลตามสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล แพทย์แผนจีนอธิบายว่า “พลังเว่ยชี่เคลื่อนออกสู่ภายนอก(เส้นลมปราณหยาง)ก็ทำให้ตื่น  พลังเว่ยชี่เคลื่อนเข้าสู่อวัยวะภายใน ก็ทำให้นอนหลับ” (卫气行于阳则寤,卫气行于阴则寐  ) ช่วงกลางวัน ธรรมชาติของพลังแสงอาทิตย์จะส่งเสริมการขับเคลื่อนพลังเว่ยชี่ (卫气)ของร่างกายออกสู่ภายนอก  ช่วงกลางวันคนส่วนใหญ่จึงมีการตื่นนอนและความกระปรี่กระเปร่า ช่วงเวลากลางคืนพลังเว่ยชี่(卫气)จะเคลื่อนไหวกลับเข้าสู่ภายใน  ทำให้ร่างกายภายนอกขาดความตื่นตัวเข้าสู่ภาวะง่วงเหงาหาวนอนอยากจะหลับ กล่าวสำหรับคนที่มีภาวะง่วงนอนและหลับมากผิดปกติ มักพบในคนอ้วนคนอ้วนซึ่งจำแนกตามศาสตร์แพทย์แผนจีนที่พบบ่อยมีอยู่ 2 ประเภท 1. คนอ้วนประเภทเสมหะความชื้นภายในตกค้างสะสม (痰湿内盛) เนื่องจากระบบม้ามอ่อนแอ ทำหน้าที่ในการย่อยและลำเลียงอาหารได้ไม่ดี หรือเรียกว่าพลังส่วนกลางพร่อง  ทำให้การลำเลียงสารอาหารที่ย่อยสลายไปสู่ส่วนบนไม่ดีพอ โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ พลังเว่ยชี่(卫气)ที่อยู่ภายนอกจะถูกดึงจากภายนอกเพื่อไปช่วยในการย่อยดูดซึมและลำเลียงอาหารทำให้พลังที่ผิวภายนอกลดลงอย่างมาก   ผลที่ตามมาคือเกิดการง่วงนอน ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอาการอื่น ๆ ร่วมเช่น สีหน้าไม่ค่อยมีชีวิตชีวา ศีรษะและหนังตาจะหนักๆ  หน้าอกหน้าท้องมักจะแน่นอึดอัด เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย  2. คนอ้วนประเภทหยางหัวใจและไตพร่อง (心肾阳虚) ขาดพลังความร้อน-ทำให้เกิดความอบอุ่นกับร่างกายผู้ป่วยมักมีใบหน้าขาดความมีชีวิตชีวา อ่อนเพลีย ไม่ค่อยอยากจะเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายเพราะเหนื่อยง่าย แขนขามักจะเย็น ชีพจรเล็ก ไม่มีกำลัง ร่างกายอ่อนแอ เมื่อพลังโดยรวมของร่างกายน้อยลง พลังเว่ยชี่(卫气) เกี่ยวข้องกับการตื่นตัวและการใช้ขับเคลื่อนกิจกรรมการดำเนินชีวิตในภาวะปกติก็น้อยลงด้วย  จึงทำให้เกิดอาการง่วงนอนตลอดเวลา  ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักเป็นคนที่มีโรครุนแรงมาก่อน แล้วไม่รับการดูแลฟื้นฟูที่ดีพอ …

อาหารสมุนไพรจีน สำหรับ ภาวะง่วงนอนและหลับมากผิดปกติ Read More »