การรักษาโรคด้วยแพทย์แผนจีน

ริดสีดวงทวาร กับเส้นลมปราณ

ริดสีดวงทวารก็เหมือนเส้นเลือดขอด แต่เป็นเส้นเลือดขอดที่บริเวณทวารหนัก ถ้าบริเวณปากทวารคลำได้เป็นก้อนนุ่มใต้ผิวหนัง เรียกว่า ริดสีดวงทวารภายนอก ถ้าเป็นริดสีดวงทวารที่อยู่ลึกเข้าไป มักมีก้อนยื่นผ่านหูรูดทวารหนักออกมาตอนถ่ายอุจจาระ ถ้าเป็นน้อยก้อนจะหดกลับไปได้เอง ถ้าเป็นมากต้องใช้มือ ดันจึงจะกลับเข้าไป ถ้าเป็นมากกว่านั้นดันก็ไม่กลับจะทำให้รำคาญ มีการเสียดสีจนกลายเป็นแผลอักเสบติดเชื้อง่าย ริดสีดวงประเภทหลังนี้ เรียกว่าริดสีดวงทวารภายใน บางคนแบ่งง่ายๆ เป็น 3 แบบ คือ1. ริดสีดวงทวารภายนอก มีอาการสำคัญคือ เหมือนมีก้อนเกะกะ รำคาญ บริเวณทวารหนัก2. ริดสีดวงทวารภายใน มีอาการสำคัญคือ ถ่ายอุจจาระมีเลือดแดง3. ริดสีดวงทวารชนิดมีหัวหรือ ติ่งหัวยื่นออกมา ร่วมกับมีอาการติดเชื้อ มีการอักเสบเจ็บปวดที่ทวารหนัก สาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดริดสีดวงทวารในทรรศนะแพทย์แผน ปัจจุบันไม่แน่ชัดแต่มักเกิดร่วมกับปัจจัยหลายอย่างที่เป็นผลให้เกิดภาวะกดดันต่อเส้นเลือดบริเวณทวารหนักนานๆ เช่น ภาวะท้องผูกเรื้อรัง ไอเรื้อรัง การตั้งครรภ์ โรคตับแข็ง ก้อนเนื้อในท้อง ต่อมลูกหมากโต มะเร็งของลำไส้ ฯลฯ แนวทางการรักษาโดยทั่วไปถ้าไม่มีสาเหตุที่ร้ายแรงก็มุ่งเน้นไปที่การป้องกันอาการท้องผูก โดยกินผักและผลไม้มากๆ ดื่มน้ำมากๆ หรือ อาจต้องกินยาระบายเป็นครั้งคราว ถ้ามีอาการปวดอาจใช้ยาเหน็บริดสีดวง เพื่อป้องกันการอักเสบ การปวด หรือใช้วิธีแช่น้ำอุ่นผสมด่างทับทิม ส่วนรายที่เป็นมากอาจต้องใช้การฉีดหัวริดสีดวง ผูกหัวริดสีดวง หรือผ่าตัด ตามความเหมาะสม แล้วริดสีดวงทวารไปเกี่ยวอะไร กับเส้นลมปราณผู้ป่วยมาด้วยปัญหาว่าปวดหลังปวดเอว ท้องผูก ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ บริเวณขาด้านหลังและปวดน่อง เป็น …

ริดสีดวงทวาร กับเส้นลมปราณ Read More »

อาหารและสมุนไพรกระตุ้นน้ำนมหลังคลอด ตามศาสตร์แพทย์จีน

องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ (UNICEF) เสนอแนะให้ทารกแรกเกิดได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมแม่เป็นหลักในระยะ 6 เดือนแรก ด้วยเหตุผลที่สำคัญทั้งต่อสุขภาพ การพัฒนาการร่างกาย ระบบประสาท ทางจิตใจของเด็ก และความผูกพันทางสายเลือดของอารมณ์ความรู้สึกระหว่างแม่กับลูก หลังคลอด นมที่สร้างช่วงแรกจะเป็นน้ำนมเหลือง (Colostrums) ซึ่งจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นน้ำนมขาวในที่สุด สารอาหารสำคัญที่มีอยู่ในนมแม่ ได้แก่ ไขมัน (ไขมันจำเป็น เช่น ไลโนเลอิกและไลโนเลนิก) ซึ่งจะทำหน้าที่ในการสร้างสารไปห่อหุ้มเส้นใยประสาทในสมองเด็ก ทำให้การส่งกระแสประสาทในสมองเด็กทำได้ดีและรวดเร็วขึ้น มีพัฒนาการในการตอบสนองต่อสิ่งเร้ารอบๆ ตัว  นอกจากนั้นอิมมูโนโกลบูลินในนมแม่จะช่วยลดโอกาสการเป็นภูมิแพ้ในเด็ก รวมทั้งจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและไม่สบายของเด็ก ขณะที่ลูกดูดนมจากอกแม่ จะทำให้ระดับฮอร์โมน ออกซีโทซิน (Oxytocin) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะช่วยให้แม่มีจิตใจอ่อนโยน ซึ่งเด็กจะรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยน อันจะส่งผลให้เด็กมีอารมณ์ดีและเพิ่มสัญชาตญาณความเป็นแม่ทำให้มีความผูกพันทางสายเลือด ขณะที่ลูกดูดนมแม่ประสาทสัมผัสทุกส่วนของเด็กจะถูกกระตุ้นให้เกิดการทำงาน ทั้งการมองเห็น โดยการสบตากับแม่ขณะดูดนม การรับกลิ่น เนื่องจากการอยู่ใกล้ชิดกับการฝึกประสาทหูเนื่องจากลูกจะได้ยินเสียงแม่ที่พูดคุยกับตนเอง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีข้อดีอีกอย่างก็คือลดโอกาสการเกิดมะเร็งเต้านมของแม่ เหตุผลหนึ่งเพราะด้วยระดับฮอร์โมน ออกซีโทซิน (Oxytocin) เพิ่มมากขึ้นจะยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองทำให้ไม่มีการกระตุ้นการเติบโตของไข่ เต้านมจะได้พักการถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่องจากออร์โมนเอสโตรเจน แต่ปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นคือ จะมีปริมาณและคุณภาพของน้ำนมที่ดีพอได้อย่างไร การเตรียมการแก้ไขปัญหาน้ำนมให้มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอจึงเป็นหัวใจที่ต้องได้รับการพิจารณาเร่งด่วน ภาวะน้ำนมน้อย (缺乳)ในมุมมองแพทย์แผนจีน น้ำนมมีที่มาจากเลือด …

อาหารและสมุนไพรกระตุ้นน้ำนมหลังคลอด ตามศาสตร์แพทย์จีน Read More »

ปรับสมดุล สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านโควิด ด้วยแพทย์แผนจีน (2)

ภูมิคุ้มกัน – พลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรค(เจิ้งชี่ 正气) ในมุมมองแพทย์แผนจีน พลังเจิ้งชี่กระกายอยู่ทุกอวัยวะภายในและทางเดินเส้นลมปราณ มีบทบาทในการผลักดันกระตุ้นให้ระบบการทำงานทางสรีระของร่างกายทำงานเป็นปกติ ปรับการสร้าง สารจำเป็น เลือด สารน้ำ รวมถึง การลำเลียง การขับถ่ายของเสีย เพื่อทำให้เลือดและพลังไหลเวียนไม่ติดขัด  ไม่ก่อเกิดของเสียในร่างกาย  เช่น เสมหะ ความชื้น เลือดคั่ง แพทย์แผนจีนใช้ตรวจสภาพสมดุลร่างกายด้วยวิธีการสื่อเจิ่น(四诊) โดยใช้อวัยวะสัมผัสของแพทย์ในการรวบรวมข้อมูลมาสังเคราะห์และวิเคราะห์ประเภทของร่างกายเพื่อวางแผนการรักษาในการปรับสมดุล ระบบภูมิคัมกันหรือเจิ้งชี่ในความหมายแพทย์แผนจีนจึงไม่ได้มองไปเฉพาะรบบภูมิคุ้มกัน หรือการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ แต่เกี่ยวข้องกับการปรับระบบการทำงานของอวัยวะภายในทุกอวัยวะ การไหลเวียนของเลือดและพลัง การป้องกันการติดขัดของเลือด พลัง สารน้ำและการขับสิ่งก่อโรคภายในที่เกิดขึ้นจากการทำงานของร่างกาย                                                                                                                                การสร้างพลังและเก็บพลังของร่างกายเกี่ยวข้องกับอวัยวะม้ามและไต  ม้ามจึงเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตหลังกำเนิด ถ้าทำงานของม้ามดี ทำให้มีการสร้างเลือดและพลังลมปราณได้ดี สุขภาพแข็งแรง ถ้าม้ามอ่อนแอ ทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเดิน อ่อนแอ ไม่มีพลัง เลือดและพลังพร่อง ส่วนไตคืออวัยวะที่เกี่ยวข้องกับสารจิง การปรับสมดุลยินหยาง  ระบบฮอร์โมน ไขกระดูกเป็นต้นทุนที่มาแต่กำเนิด  การสร้างเม็ดเลือดขาว สร้างเลือด เกล็ดเลือด เกี่ยวข้องกับไขกระดูก ทั้งม้ามและไตมีการทำงานที่เสริมกันและเป็นต้นทุนสำคัญในการสร้างเจิ้งชี่หรือระบบภูมิคุ้มกัน การสร้างภูมิคุ้มกันสู้โควิด คือการปรับสมดุลสร้างเสริมสุขภาพ หลักการปรับสมดุลเพิ่มภูมิคุ้มกัน 3 ประการ 1.ความสมดุลระหว่าง ยินและหยาง …

ปรับสมดุล สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านโควิด ด้วยแพทย์แผนจีน (2) Read More »

สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดหัวใจ(2)

การตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจของแผนปัจจุบัน ถ้าไม่มีอาการหรือการตีบตันของหลอดเลือดน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ การตรวจทั่วไปบอกได้ยาก  แต่ถ้ามีอาการ จากการซักถาม และ การตรวจร่างกาย ด้วยตาดู หูฟัง สัมผัสจับชีพจร วัดความดัน สามารถบอกตัวโรคได้ถึง 80%-90%  แต่ก็มีวิธีการหลายอย่างที่จะสามารถช่วยการวินิจฉัยได้ชัดเจนขึ้น •    ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)  เพื่อดูการนำไฟฟ้าของหัวใจ และ จังหวะการเต้นของหัวใจ การเดินสายพาน (Exercise Stress Test ) เพื่อดูสมรรถภาพของหัวใจ   •    การเอกซ์เรย์ทรวงอก(Chest X-ray) เพื่อดูขนาดของหัวใจ และเส้นเลือด จากเงารังสี •    การตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง(Echocardiogram  เรียกสั้นๆว่า “Echo” เพื่อดูการทำงานของหัวใจแบบเป็นภาพเคลื่อนไหว ดูการวิ่งของกระแสเลือด ดูขนาดห้องหัวใจ และ การทำงานของลิ้นหัวใจ •    การฉีดสี (Coronary Angiogram ) เพื่อดูลักษณะของหลอดเลือดหัวใจที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง เพื่อบอกหลอดเลือดตีบกี่เส้น ตีบที่ตำแหน่งไหน •    ตรวจเลือดเพื่อดูสารสัมพันธ์กับกล้ามเนื้อหัวใจ(Cardiac Enzyme ) …

สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดหัวใจ(2) Read More »

การฟื้นฟู ดูแลตับด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน (1)

สถานการณ์ของโรคมะเร็งในภาพรวมของประเทศไทย จากสถิติ พบว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 16 ของต้นเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด สูงกว่าอันตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และโรคหัวใจเฉลี่ย 2 ถึง 3 เท่า หรือมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเฉลี่ย 8 รายต่อชั่วโมงในปี พ.ศ.2561 พบว่า มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ โดยประมาณอยู่ที่ 170,495 ราย และเสียชีวิตจากโรคมะเร็งประมาณ 114,199 รายสำหรับ 5 อันดับแรกของมะเร็งที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ โรคมะเร็งตับ เป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรคมะเร็งที่เกิดในผู้ชายไทย โดยมักพบในคนอายุ 30-70 ปี และพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2-3 เท่า เนื่องจากเพศชายมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง โดยโรคมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ เนื่องจาก 90% ของมะเร็งตับเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีจึงมีโอกาสเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับสูง หากมีมะเร็งตับเกิดขึ้น มะเร็งตับจะโตขึ้นเป็น 2 เท่าภายในเวลา 3-6 เดือน ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง   1 ใน …

การฟื้นฟู ดูแลตับด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน (1) Read More »

กายต้องเคลื่อนไหว – ใจต้องสงบนิ่ง เทคนิคสุขภาพดี แบบแพทย์แผนจีน

แพทย์จีน ให้ความสำคัญกับ “การเคลื่อนไหว” คือ ท่านปรมาจารย์ ฮั้วถอ (หมอฮูโต๋) ท่านกล่าวว่า “การเคลื่อนไหวทำให้พลังเคลื่อน หลอดเลือดไม่ติด ขัด ทำให้ไม่เกิดโรค เหมือนดังแกนประตูที่ไม่ผุกร่อน”

“ยาแผนจีน” ช่วยผู้ป่วย “โควิด-19” กว่า 50,000 ชีวิต รักษาหาย

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนเปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีนราว 5 หมื่นราย ที่ฟื้นตัวและได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาล ส่วนใหญ่ได้รับการรักษาด้วยยาแผนจีน (TCM)

อาการไอ ในมุมมองแพทย์แผนจีน

อาการไอเป็นกลไกการตอบสนองของร่างกายอย่างหนึ่งต่อสิ่งผิดปกติในทางเดินหายใจและเป็นกลไกป้องกันที่สำคัญของร่างกายในการกำจัดเชื้อโรค เสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ รวมทั้งเป็นอาการที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์ได้บ่อยที่สุด

แพทย์แผนจีน กับการป้องกันและรักษาอาการปวด (ปี้เจิ้ง)

อาการปวด (ปี้เจิ้ง) เกิดจากลมชื้นความเย็นหรือร้อน ทำให้เกิดการปิดกั้น ดังนั้นการใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณดังต่อไปนี้ จะสามารถช่วยขับลมชื้นที่อยู่ในกล้ามเนื้อ เส้นลมปราณ เอ็นกระดูกและข้อต่อกระดูก

มารู้จักกับ โคโรคหรือหนิวหวง (牛黄 )

ตำรับยาจีนหลายตำรับในท้องตลาดที่ได้ชื่อว่าเป็นยาจีนที่แพงระดับมหากาฬ และนับวันจะแพงมากขึ้น เพราะเชื่อว่าช่วยรักษาแผลอักเสบ, ทำลายพิษ และรักษามะเร็งได้ ยาตำรับนี้มีตัวยาหลักที่หายากและราคาแพงคือ โคโรค (牛黄) ลองมารู้จักตัวยานี้กันเถอะ

ไขข้อข้องใจ การใช้สมุนไพรรักษาหลอดเลือดตีบ

ข่าวการใช้สมุนไพรเพื่อล้างไขมัน รักษาหลอดเลือดสมองและหัวใจตีบ มีส่วนประกอบสำคัญ คือ ขิงสด พุทราจีนแห้ง เห็ดหูหนูดำ ต้มกับน้ำ ใช้ดื่มกินต่างน้ำ เรื่องนี้มีหลักการทางวิชาการแพทย์แผนจีนอย่างไร ไปติดตามกัน

ผลวิจัยใหม่ ของสุดยอดสมุนไพรทิเบต หงจิ่งเทียน (红景天)

ผลการวิจัยใหม่ ของสุดยอดสมุนไพรทิเบต หงจิ่งเทียน (红景天) จากการค้นคว้าวิจัยใหม่ๆ เกี่ยวกับสมุนไพร หงจิ่งเทียน (红景天) พบข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ — หงจิ่งเทียน ประกอบด้วยแร่ธาตุที่พบน้อยแต่จำเป็น (Trace elements) กว่า 35 ชนิด, กรดอะมิโน 18 ชนิด และวิตามิน A, D, E ซึ่งเป็นสารซูเปอร์ออกไซด์ (超氧化物) ที่เป็นตัวทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดจากการเผาผลาญภายในเซลล์ ช่วยชะลอวัย — หงจิ่งเทียน ช่วยลดภาวะกดดันของร่างกายและจิตใจ คนที่ได้รับภาวะกดดันจากการทำงาน ความเครียดทำให้มีผลตามมาถึงภาวะทางจิตใจ ขาดความอดทน มีอาการของโรคกระเพาะอาหาร และภูมิคุ้มกันตก — หงจิ่งเทียน สามารถปรับระดับฮอร์โมนคอร์ติโซน (Cortisol) โดยปราศจากผลข้างเคียง สามารถลดภาวะความกดดัน ลดความเครียดทางอารมณ์และความเมื่อยล้าทางร่างกาย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด — หงจิ่งเทียน เพิ่มพลังในการทำงาน มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้าง เอทีพี (ATP) ซึ่งเป็นสารให้พลังงานของร่างกาย สามารถเพิ่มความทนทาน ลดการอักเสบโดยเฉพาะหลังการออกกำลังกายที่มีอาการปวดเมื่อยล้า ช่วยเสริมสร้างสมรรถนะสำหรับนักกีฬา — …

ผลวิจัยใหม่ ของสุดยอดสมุนไพรทิเบต หงจิ่งเทียน (红景天) Read More »

ความยากลำบาก 5 ประการ ในการดูแลสุขภาพ ( 养生五难 )

หนังสือแพทย์จีนโบราณชื่อ ต๋าหนานหยางเซิงลุ่น (答难养生论) ได้พูดถึงความยากลำบาก 5 ประการที่เป็นอุปสรรคสำคัญของการดูแลสุขภาพ ดังนั้นก่อนที่จะเข้าถึงเป้าหมายการมีสุขภาพดี เราลองมาพิจารณาด่านสำคัญทั้ง 5 กัน

เกร็ดความรู้ แพทย์แผนจีน กับโรคหลอดเลือดสมอง

หลอดเลือดสมองแตก มักเป็นในผู้สูงวัย มีอารมณ์โมโหฉุนเฉียวง่าย ทั้งนี้เป็นเพราะคนสูงวัยมีความเสื่อมของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น รวมทั้งยังมีผลจากหลายปัจจัย เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง

ความแตกต่างระหว่าง “การรักษาคน กับ การรักษาโรค”

ความจริง ความพยายามรักษาโรคเมื่อค้นพบโรคแล้ว มีความจำเป็น แต่จะเพิ่มความยากลำบากแก่แพทย์ในการรักษา รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ผู้ป่วยที่พบว่าเป็นมะเร็งแล้ว การเริ่มทำการรักษาโดยทั่วไปยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร